วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หนองคาย - ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบฯ สนธิกำลัง ขยายผลตามจับแก๊งลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ได้ทั้งแก๊ง สารภาพรับออร์เดอร์จากชาวลาวในราคา 42,000 บาท


     วันที่ 23 ส.ค. 57 ร้อยตรีสังเวียน แสงพูล รอง ผบ.ร้อยรักษาความสงบที่ 1 กองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วยกำลังทหารและเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.24 เข้าขอข้อมูลการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ที่ หจก.ปิยะเซลส์แอนด์เซอร์วิส สาขาบ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายรถจักรยานยนต์ หลังได้ทำการจับสองพ่อ-ลูก นายประดิษฐ์ทอง และนายชาญณรงค์  ชัยปัญหา พร้อมเครือข่าย คือ นางอรอุมา ผิวเหลือง หรือนางเหว่ย และนางแก้วตา แสงรัตน์ ขณะที่บุคคลทั้ง 4 ได้ลักลอบนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคริก 125 ไอ สีดำแดง ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อค่ำคืนของวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้สารภาพว่ารับรถมาจากนายหนุ่ม แฟนของสาวประเภทสอง ชื่อ ฟิต เป็นช่างเสริมสวยที่บ้านดอนขม ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยได้นำรถจักรยานยนต์ออกจากร้าน ปิยะเซลส์แอนด์เซอร์วิส สาขาบ้านผือ

     จากการตรวจสอบทราบว่า เจ้าของรถที่เช่าซื้อ คือ นางชนก วงศ์แก้ว อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 10 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ได้เข้ามาซื้อรถกับร้านดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 57 ในราคาเงินสด 55,500 บาท ซึ่งเป็นการซื้อผ่านไฟแนนท์ โดยนางชนกได้วางเงินมัดจำกับไฟแนนท์จำนวน 10,000 บาท แล้วนำรถออกไปจากร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปยังบ้านของนางชนก ก็พบอยู่ที่บ้าน จึงได้เชิญตัวมาทำการสอบสวนที่กองร้อยรักษาความสงบ ที่ 1 จังหวัดหนองคาย

      จากการสอบสวน นางชนก วงศ์แก้ว เปิดเผยว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ตนได้เป็นผู้ออกรถให้กับน้องชายชื่อหนุ่ม ทราบชื่อภายหลังว่า นายปิยะ วงศ์แก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 13 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งมีแฟนเป็นสาวประเภทสองชื่อ ฟิต ทราบชื่อภายหลังว่า นายจุฬามณี ไชยเดช เปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 8 บ้านดอนขม ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

     จากนั้นไม่นาน นายจุฬามณี (ฟิต) และนายปิยะ (หนุ่ม) ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ที่กองร้อยรักษาความสงบ ที่ 1 จังหวัดหนองคาย โดยนายจุฬามณี (ฟิต) สาวประเภทสอง รับสารภาพว่า ตนและนางอรอุมา(เหว่ย) ได้รับการติดต่อจากนางแก้วตา ในการจัดหารถจักรยานยนต์ส่งข้ามฟากไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะมีนายประดิษฐ์ทอง และนายชาญณรงค์ เป็นผู้รับช่วงต่อและนำส่งเองในราคา 42,000 บาท จึงได้วางแผนร่วมกัน โดยให้นายปิยะ(หนุ่ม) วอนพี่สาวออกรถให้ โดยนางแก้วตาเป็นคนออกเงินมัดจำ 10,000 บาท ผ่านไฟแนนท์ในพื้นที่อำเภอบ้านผือ จากนั้นนายปิยะ(หนุ่ม) ได้ขี่รถออกจากร้าน ปิยะเซลส์แอนด์เซอร์วิส เพื่อมาส่งให้กับนางอรอุมา(เหว่ย) ที่บ้านดอนขม เพื่อนำไปส่งให้กับสองพ่อ-ลูก โดยมีนายชาญณรงค์ เป็นผู้มารับรถต่อจากนางอรอุมา(เหว่ย) ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองอำเภอท่าบ่อ ในราคา 42,000 บาท แล้วนำส่งข้ามโขงไปยัง สปป. ลาว และนางแก้วตาก็เป็นผู้ขับรถไปรับนางอรอุมากลับบ้าน ที่บ้านดอนขม โดยนางอรอุมา จะได้เงินนำส่ง 1,000 บาท ส่วนนางแก้วตาจะได้เงินมัดจำคืนและเงินนำส่ง รวม 11,000 บาท เงินที่เหลือเป็นของนายปิยะและนายประดิษฐ์ทอง สองสามีภรรยา

     สำหรับขบวนการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้านครั้งนี้ จะมีนายเป็ด เป็นประชาชนชาวลาว เป็นผู้สั่งออร์เดอร์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคริก 125 ไอ สีดำแดง ในราคา 42,000 บาท โดยสั่งผ่านนายแหว และนายยุ๋ย ลูกน้องของนายเป็ดที่ข้ามมาอยู่ประเทศไทย โดยประสานผ่านนายประดิษฐ์ทอง ชัยปัญหา เป็นคนกลางเพื่อนำส่งข้ามลาว และทำการติดต่อผ่านนางแก้วตา แสงรัตน์ ฝ่ายจัดหารถตามออร์เดอร์ โดยได้มอบหมายให้นางอรอุมา ผิวเหลือง หรือนางเหว่ย ไปจัดหารถอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนางอรอุมาได้วางแผนเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ร่วมกับนายจุฬามณี ไชยเดช (สาวประเภทสอง) โดยติดต่อกับผู้ที่ต้องการขาย คือ นางชนก วงศ์แก้ว เป็นพี่สาวของนายปิยะ วงศ์แก้ว (แฟนนายจุฬามณี) จากนั้นได้มอบรถให้นางอรอุมา ผิวเหลือง หรือนางเหว่ย นำส่งให้กับนายชาญณรงค์  ชัยปัญหา ซึ่งเป็นลูกชายของนายประดิษฐ์ทอง เพื่อนำส่งไปยัง สปป.ลาว โดยนายชาญณรงค์ จะได้รับค่าจ้างนำส่ง 1,500 บาท

     เจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น