วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หนองคาย - CTW ท่าบ่อ ร่วมกับเครือข่ายพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ จังหวัดหนองคาย และกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพ ภายใต้คำขวัญวันเอดส์โลก “Getting to Zero ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา” สู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์


     วันที่ 29 พ.ย. 57 ที่ เทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย CTW ท่าบ่อ ร่วมกับเครือข่ายพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ จังหวัดหนองคาย และกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม โดยมีนายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมฯ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเอา วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันโลกต้านเอดส์” (WORLD AIDS DAY) เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพ ให้ได้รับความรู้ข้อมูลข่าวสารแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดโรค ร่วมทั้งผู้ติดเชื้อสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติ และสนับสนุนให้มีมาตรการการป้องกันให้มากยิ่งขึ้นในสังคมทุกระดับ ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายจากการติดต่อและเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์ และส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ  ภายใต้คำขวัญวันเอดส์โลก “Getting to Zero ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา” สู่เป้าหมายที่เป็นศูนย์

     โดยมีกิจกรรมเดินรณรงค์เริ่มตั้งแต่บริเวณซุ้มประเมืองท่าบ่อ ไปสิ้นสุดที่บริเวณถนนตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยมีประชาชน ภาคีเครือข่ายขององค์กรและอาชีพต่างๆ เข้าร่วม ทั้งยังจัดให้มีริ้วขบวนแฟนซีที่มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าว เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนอย่างแพร่หลาย และนิทรรศการให้ความรู้ การประกวดต่างๆ การแสดงดนตรี มีบริการให้คำปรึกษาเพื่อทำให้สังคมตระหนักถึงปัญหาเอดส์ นำสังคมไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ต่อไป.







หนองคาย - ทหารกองกำลังรักษาความสงบฯ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 6 เดินหน้าทวงคืนผืนป่าไม้สักอายุกว่า 150 ปี พื้นที่กว่า 100 ไร่ เป็นป่าสักแห่งเดียวที่ยังความสมบูรณ์ในภาคอีสาน เพื่อประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ

     ที่บริเวณพื้นที่ป่าสัก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ร้อยตรีวิวรรธน์  อรรคบาล ผู้บังคับหมวดรักษาความสงบที่ 1 กองกำลังรักษาความสงบ จังหวัดหนองคาย ร่วมกับ  นายพงษ์ศักดิ์  ศรีเดช ,เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 6 (อุดรธานี) ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง  ออกสำรวจรางวัดแนวเขตป่าสักอายุกว่า 150 ปี ซึ่งปลูกเป็นป่าถาวร ที่บริเวณบ้านป่าสัก ,บ้านยอยไฮ และ ป่าสักวัดช้างเผือก ทั้ง 3 แปลงรวมพื้นที่กว่า 100 ไร่ เพื่อเตรียมประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ
     จากการตรวจสอบครั้งนี้ นายนายพงษ์ศักดิ์  ศรีเดช  เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 6 (อุดรธานี) กล่าวว่า พบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์อยู่ในบริเวณกลางป่าทับที่ป่าถาวร  เจ้าหน้าที่จะต้องพิสูจน์ว่าเอกสารสิทธิ์นั้น ขั้นตอนได้มาถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ามีการบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ป่า จะต้องเพิกถอนเอกสาสิทธิ์นั้นออกไป และยังพบว่ามีเอกสารสิทธิ์เพียงฉบับเดียว แต่มีผู้บุกรุกถือครอง ถึง 80 ราย โดยทั้งหมดไม่มีบ้านเลขที่ แต่ทางเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่  ได้ออกทะเบียนบ้านฉบับชั่วคราว ให้กับผู้ที่ถือครองดังกล่าว
     สำหรับป่าสักผืนดังกล่าว เป็นป่าถาวรที่ปลูกมานานกว่า 150 ปี เป็นป่าสักที่มีความสมบูรณ์แห่งเดียวในภาคอีสาน ที่มีต้นสักขนาดใหญ่หลายพันต้น  พบมีร่องรอยของการลักลอบตัดไม้สักจำนวนมาก และยังพบมีการใช้รถแบ็คโฮขุดนำตอไม้สักออกจากพื้นที่ป่า ทางกรมป่าไม้เกรงจะถูกนายทุนเข้าไปลักลอบตัดไม้เพิ่ม จึงได้เร่งออกสำรวจรางวัดแนวเขต เพื่อประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติคืน และรักษาสภาพป่าให้ยังความสมบูรณ์ต่อไป.








วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หนองคาย - องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนาง จัดทำโครงการ “คลองสวย น้ำใส คนไทยมีความสุข” ระดมกำลังออกกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางบริเวณแหล่งน้ำสาธารณะ และจัดอบรมให้ความรู้เรื่องน้ำและอนุรักษ์คลองส่งน้ำชลประธานแก่ประชาชน

     วันนี้ (28 พ.ย. 57) ที่ บริเวณห้วยวังแสง บ.นาน้ำพาย ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายยุคล กาญจนศิริพงษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการ “คลองสวย น้ำใส คนไทยมีความสุข” และโครงการให้ความรู้เรื่องน้ำและอนุรักษ์คลองส่งน้ำชลประธาน และมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (วาตภัย) ประจำปี 2557 ในพื้นที่ตำบลหนองนาง จำนวน 13 ราย โดยมีการระดมกำลังทุกภาคส่วนออกกำจัดสวะวัชพืช ผักตบชวา และเก็บกวาดเศษขยะบริเวณห้วยวังแสง เพื่อปรับปรุงสภาพแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำสาธารณะให้สามารถใช้งานได้ทุกฤดูกาล การสัญจรทางน้ำได้ทุกเส้นทาง ไม่มีอุปสรรคจากการตื้นเขินหรือมีสิ่งกีดขวางทางน้ำจากผักตบชวา รวมทั้งวัชพืชอื่นๆ ตลอดจนเกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมกันอนุรักษ์และบำรุงรักษา
     นายศราวุธ แข็งแรง นายก อบต.หนองนาง กล่าวว่า น้ำเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษยชาติ รวมทั้งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการรักษาสภาพสมดุลของธรรมชาติบนโลกไว้ น้ำถือเป็นแหล่งกำเนิดแห่งชีวิตเกื้อกูลค้ำจุนให้สิ่งมีชีวิตและสรรพสิ่งทั้งมวลดำลงอยู่ได้ จนมีคำกล่าวว่า “น้ำคือชีวิต” และตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2529 ณ พระตำหนักจิตลดา ว่า “หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ท่ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้”  ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการบริการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งในส่วนของการจัดหาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และการจัดการปัญหาผักตบชวาและวัชพืชต่างๆ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาและอุปสรรคในการแก้ไขการจัดการเรื่องน้ำ ซึ่งนอกจากจะจัดทำโครงการ “คลองสวย น้ำใส คนไทยมีความสุข”  ในวันนี้ ทาง อบต.หนองนาง ยังได้จัดทำโครงการให้ความรู้เรื่องน้ำและอนุรักษ์คลองส่งน้ำชลประธาน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่และปลูกจิตสำนึกในชุมชน ให้เข้าใจในการที่จะทำให้คลองส่งน้ำในเขตตำบลหนองนาง มีความสวยงาม มีน้ำที่ใส สะอาด และประชาชนในท้องถิ่นมีความสุข. 








หนองคาย - จัดกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เพื่อปลูกฝังค่านิยมหรือจิตสำนึกให้เข้าใจในบริบทความเป็นไทยอย่างแท้จริง และได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ตามหลักวิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


     วันที่ 27 พ.ย. 57 ที่ศาลาหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อำเภอเมืองหนองคาย  ดร.จรูญ  จิตรักษ์ ผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม  เป็นประธานเปิดค่ายกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายให้สถานศึกษาในสังกัด จัดค่ายกิจกรรม ส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เพื่อพัฒนานักศึกษาให้ได้เรียนรู้บทบาทหน้าที่ตามหลักวิถีประชาธิปไตยอันมีระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ตระหนักถึงความเป็นไทย  มีคุณธรรม  จริยธรรม  เคารพกฎ กติกา ปลูกฝังค่านิยมหรือจิตสำนึกให้เข้าใจในบริบทความเป็นไทยอย่างแท้จริง ดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

     การจัดค่ายกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ครั้งนี้ ใช้เวลาในการอบรม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 27-29 พ.ย.57 โดยมีนักศึกษาจาก กศน.  อ.โพนพิสัย อ.ท่าบ่อ อ.สระใคร และ อ.เฝ้าไร่ เข้าร่วม จำนวน 296 คน


หนองคาย - บรรยากาศการจำหน่ายเสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ ภปร. ทั้งแบบขายส่งและขายปลีกของร้านค้าทั่วไป เริ่มคึกคักมากขึ้น ลูกค้าบางส่วนสั่งซื้อทางไลน์ ลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง


     วันที่ 27พ.ย. 57 นายทวีพงษ์  วีระคุณาพร เจ้าของร้านอินเตอร์สปอร์ต ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย กล่าวว่า เสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ ภปร. ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากคือ เสื้อโปโล และเสื้อเชิ้ตเพราะลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัท เนื่องจาก แบบเสื้อเป็นดูเรียบร้อย ส่วนเสื้อคอกลม จะเป็นลูกค้าทั่วไปที่นิยมซื้อไปสวมใส่ โดยทางร้านขายปลีกเสื้อโปโล และเสื้อเชิ้ต ราคาตัวละ  220-350 บาท เสื้อคอกลม ราคาตัวละ 120-180 บาท ตามไซด์ของเสื้อ ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาหาซื้อทีละหลาย ๆ ตัว  บางคนซื้อเป็นโหลขึ้นไปหรือซื้อไปจำหน่ายทางร้านจะคิดราคาขายส่ง   ปีนี้คึกคักเสื้อสีเหลืองขายดีกว่าทุกครั้ง เพราะคนไทยมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ต้องการแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ และอยากให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

     นอกจากนั้น ร้านค้าบางแห่งยังมีการบริการสั่งซื้อเสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ผ่านทางไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาซื้อได้ เนื่องจากอยู่ต่างอำเภอ ทางร้านจะบริการจัดส่งไปทางไปรษณีย์ หรือฝากรถประจำทาง เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาซื้อในตัวเมือง ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าทยอยสั่งซื้อเสื้อเพิ่มมากขึ้นเพราะหากถึงวันที่ 5 ธันวา แล้วเกรงว่าราคาเสื้อจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น.   

ทหารกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 เดินหน้าทวงคืนผืนป่าถาวรซึ่งปลูกต้นสักทองอายุกว่า 150 ปี พบมีการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าถาวร และผู้บุกรุกถือครองกว่า 80 ราย

     ที่ บริเวณป่าสักวัดช้างเผือก ต.พรานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย   ร้อยตรีวิวรรธน์   อรรคบาล  ผู้บังคับหมวดรักษาความสงบ ที่ 1 กองกำลังรักษาความสงบจังหวัดหนองคาย  พร้อมกำลังพล ร่วมกับ นายพงษ์ศักดิ์  ศรีเดช  เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) และองค์กรส่วนท้องถิ่น เดินหน้าทวงคืนผืนป่าทำการออกตรวจสอบรางวัดแนวเขตพื้นที่ป่าถาวรซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกต้นสักทองอายุกว่า 150 ปี  เนื้อที่ ประมาณ 35 ไร่ หลังจากพบมีการบุกรุกเขตป่าถาวรเข้ามาสร้างที่อยู่อาศัยแบบถาวร
     จากการตรวจสอบพบพื้นที่ป่าสักวัดช้างเผือก ต.พรานพร้าวฯ  เนื้อที่ ประมาณ 35 ไร่ พบมีชาวบ้านประมาณ 80 ครัวเรือน บุกรุกเข้ามาสร้างที่อยู่อาศัยแบบถาวร และพบมีการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าถาวร จำนวน 10 ไร่  นอกจากนั้นยังพบได้มีการออกสำเนาทะเบียนบ้าน ฉบับชั่วคราวโดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลศรีเชียงใหม่  ให้แก่ผู้บุกรุกด้วย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ของกรมป่าไม้มาแสดงให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่บุกรุกดูพบว่าได้บุกรุกเข้ามาพื้นที่ป่าถาวร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องพิสูจน์อีกครั้งว่า การออกเอกสารสิทธิ์นั้น มีขั้นตอนการได้มาอย่างไร  ถูกต้องหรือไม่ ตลอดจนหลักฐานอื่น ๆ  หากปรากฏหลักฐานว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า ก็จะดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นับจำนวนและติดป้ายไว้ที่ต้นสักในพื้นที่บุกรุกเพื่อป้องกันการลักลอบตัดต้นสัก
     จากการสอบถามชาวบ้านบางรายที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่ ทราบว่า ตนไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ที่มีอยู่เดิมก็ได้เอาไปจำนำและถูกนายทุนยึดไป และการเข้ามาอยู่ตนได้จ่ายค่าเช่าให้กับหน่วยรัฐบางหน่วยเป็นรายปี โดยได้จัดเป็นหมู่บ้านมั่นคง เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ กลุ่มป่าสักมั่นคง  และอยู่เรื่อยมา และบางรายบอกว่าตนแต่งงานมีครอบครัวแล้วอยู่กับพ่อ แม่แออัด จึงได้แยกครอบครัวออกมาแต่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง จึงเข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ได้ออกสำเนาทะเบียนบ้านฉบับชั่วคราวให้



วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หนองคาย - เจ้าหน้าที่ นรข.สถานีเรืออำเภอสังคม สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับผู้ต้องหา 4 คน พร้อมยาบ้า 11,990 เม็ด กำลังนำขึ้นจากฝั่งโขง สารภาพได้ค่าจ้าง 20,000 บาท

     วันนี้ (26 พ.ย.57) ที่สถานีเรืออำเภอสังคม หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย นาวาเอกนภดล บุญเจริญ ผบ.นรข.เขตหนองคาย เรือเอกเสรีย์ ขำคม หัวหน้าสถานีเรือสังคม เรือโทประวุฒิ นิยมจันทร์ ผู้บังคับเรือเร็วลาดตะเวนลำน้ำ นายยงค์เวช ศรีจันทร์ทอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมเจ้าหน้าทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 4 คน คือนายครรชิต ชุมคำน้อย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217 หมู่ 11 ต.ปลาโหล อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร น.ส.เนาวรัตน์ พิมสอน อายุ 32 ปี (ภรรยานายครรชิต) นายขันทอง ไวยกุล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 7 ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว จ.สกลนคร และนางวิรัตน์ ไวยกุล อายุ 50 ปี (ภรรยานายขันทอง) พร้อมยาบ้า จำนวน 11,990 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บฉ 2467 นครพนม รถยนต์อีซูซุ หมายเลขทะเบียน บน 5881 สกลนคร และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง
     การจับกุมครั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.วันนี้ (26 พ.ย.57) เจ้าหน้าที่ นรข.สถานีเรืออำเภอสังคม ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีเรือจาก สปป.ลาว มาส่งสิ่งของผิดกฎหมายคาดว่าจะเป็นยาเสพติด ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง หลักกิโลเมตรที่ 76-77 ถนนสังคม – ปากชม บริเวณบ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนจับกุม โดยส่งชุดลาดตระเวนไปตรวจสอบในพื้นที่
     ขณะที่ทำการตรวจสอบได้พบ น.ส.เนาวรัตน์ สะพายกระเป๋าสีดำเดินอยู่ในบริเวณดังกล่าว ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นและได้รับสารภาพว่า ได้เดินทางมารับยาบ้า เมื่อตรวจค้นก็พบยาบ้า 2 ห่ออยู่ในกระเป๋า เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ซึ่ง น.ส.เนาวรัตน์ ได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า นายครรชิต ซึ่งเป็นสามีตน ได้รออยู่ที่วัดลุ่ม ใกล้กับจุดที่พบ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจับกุมนายครรชิต อีกราย ส่วนนายขันทอง และนางวิรัตน์ ได้อยู่ในบริเวณวัดลุ่มเช่นกัน เจ้าหน้าที่เห็นมีท่าทางพิรุธ จึงได้ขอตรวจสอบบุคคลทั้ง 2 พบหลักฐานการใช้โทรศัพท์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา 2 คนแรก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ทั้งหมดมาสอบสวนที่สถานีเรืออำเภอสังคม
     น.ส.เนาวรัตน์ สารภาพว่า ตนรับจ้างมาขนยาบ้าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท เพื่อหาเงินไปจ่ายเป็นค่างวดรถยนต์กระบะ ส่วนคนที่จ้างเป็นคนจังหวัดสกลนคร แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าชื่ออะไร เป็นการนำยาบ้าไปส่งตามที่นัดหมาย แล้วก็รับเงินตามค่าจ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังคม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .