วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - นรข.สถานีเรือรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดไม้พะยูง 44 ท่อน มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมรถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน และเรือ 2 ลำ


       วันที่ 30 ต.ค. 58 ที่สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นายธนาวุฒิ ทองทวี นายอำเภอรัตนวาปี เรือเอกสุเมธ วัชรจิตรกุล หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี พ.ต.อ.วิรัช นกแก้ว ผกก.สภ.รัตนวาปี พร้อมสนธิกำลังจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.1 (หนองหลวง) และ ตชด. ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้พะยูงจำนวน 44 ท่อน ปริมาตร 1.356 ลบ.ม. มูลค่าประมาณ 6 แสนบาท พร้อมรถตู้นิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 2342 ชัยภูมิ เรือกีบเหล็กเพลายาว 2 ลำ และรถจักรยานยนต์อีก 5 คัน ที่ตรวจยึดได้บริเวณถนนริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านดอนบก หมู่ 10 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จังหวัดหนองคาย เมื่อเวลา 05.30 น. ของวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา
       การตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ นรข.สถานีเรือรัตนวาปี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการนำไม้หวงห้ามออกนอกราชอาณาจักร บริเวณบ้านดอนบก จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดชุดลาดตระเวนเข้าไปดักซุ่มในพื้นที่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.30 น. ได้เห็นเรือกีบขนาดใหญ่ 2 ลำ แล่นมาบริเวณริมโขงใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ ต่อมารถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน พร้อมกลุ่มชายประมาณ 8–10 คน ได้มาจอดบริเวณดังกล่าว จากนั้นก็มีรถตู้ขับตามมา กลุ่มชายได้ช่วยกันลำเลียงสิ่งของลงในเรือ
       เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น กลุ่มชายดังกล่าวได้อาศัยความมืด และความชำนาญในพื้นที่ วิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ พบไม้พะยูงส่วนหนึ่งวางอยู่บนเรือ และอีกส่วนหนึ่งยังอยู่บนรถ จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาไว้ที่สถานีเรือรัตนวาปี
       การตรวจสอบกระเป๋าเอกสารที่อยู่ภายในเบาะหน้ารถ พบเอกสารมีชื่อของ นายพร บัวหอม อยู่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 9 ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาทำการสอบสวน ส่วนของกลางทั้งหมดนำให้กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

หนองคาย - ชาวบ้านกองนาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ร่วมกันนำองค์กฐิน มีทั้งเด็กผู้ใหญ่คนชรา ตั้งขบวนแห่กฐินกันอย่างสนุกสนาน

           วันนี้ (31 ต.ค. 58) ชาวบ้านกองนาง หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ร่วมกันนำองค์กฐินครอบครัว ของคุณยายทอง บัวติก อายุ 84 ปี มาทอดถวายร่วมกับคณะศรัทธาที่เดินทางมาจากประเทศลาว ที่มีเครื่องบริขารต่างๆ แห้รอบหมู่บ้านและอุโบสถ 3 รอบ เพื่อถวายให้กับวัดสุคนธาราม บ้านกองนาง หมู่ 12 ต.กองนาง โดยมีพระครูทองสุข กิตติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดสุคนธาราม  พร้อมพระลูกวัดเป็นองค์รับกฐิน ซึ่งขบวนนั้นมีทั้งเด็กผู้ใหญ่คนชรา ร่วมกันรำด้วยความสนุกสนาน และเป็นประเพณีของชาวพุทธที่มักจะกระทำกันในหลายพื้นที่หลังวันออกพรรษา เพื่อรวบรวมจตุปัจจัยไปสร้างปฏิสังขรณ์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยได้ยอดกฐินรวมทั้งสิ้น 168,985 บาท

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปล่อยแข่งขันจักรยาน “นักปั่นแห่งลุ่มน้ำโขง” ชิงถ้วยพระราชทานฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปล่อยขบวนการแข่งขันจักรยานทางไกลประเทศไทย ตอน  นักปั่นแห่งลุ่มน้ำโขงชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมร่วมปั่นจักรยานท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย
       วันนี้ (30 ต.ค. 58) ที่ถนนเจนจบทิศ เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดโครงการมหากรรมแข่งขันจักรยานทางไกลประเทศไทย ตอน นักปั่นแห่งลุ่มน้ำโขงชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งจัดแข่งเป็นสเตจแรก จากทั้งหมด 3 สเตจ ใช้เส้นทาง 4 จังหวัดภาคอีสาน เริ่มต้นที่จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม และสิ้นสุดที่จังหวัดมุกดาหาร ระยะทางรวม 245.9 กิโลเมตร และมอบจักรยานเพื่อน้องให้แก่นักเรียนในจังหวัดหนองคาย ผ่าน นายมติชน มูลสูตร รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1
       จากนั้น ได้ปล่อยขบวนนักปั่นจักรยาน ประเภทจักรยานเสือหมอบโอเพ่นชาย-หญิง รุ่นทีม 5 คน รุ่นอายุ 30-39 ปี รุ่นอายุ 40-49 ปี รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป และประเภทจักรยานเสือภูเขาโอเพ่นชาย-หญิง ซึ่งนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดหนองคาย และประชาชนได้ร่วมกันปั่นจักรยานท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ เยี่ยมชมวิถีชุมชน ในกิจกรรมเฟรนด์ชิป ไรด์ (Friendship Ride) ไปยังวัดโพธิ์ชัย
       สำหรับเส้นทางการแข่งขันแต่ละเส้นทางจะผ่านจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยสเตจแรกเป็นการเปิดตำนานลุ่มแม่น้ำโขง เส้นทางหนองคาย - บึงกาฬ ผ่านลานน้ำพุพญานาค-ริมโขงปากคาด – วัดอาฮง
       สเตจที่ 2 พญาแห่งสายน้ำ เส้นทางนครพนม - มุกดาหาร ผ่านพระธาตุพนม – สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 มุกดาหาร
       และสเตจที่ 3 ขุนเขาแห่งความเร็ว เส้นทางมุกดาหาร - ภูมโนรมย์ ผ่านภูมโนรมย์
       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างยั่งยืน จึงจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้จักรยานตามเส้นทางลุ่มน้ำโขง เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขงของภาคอีสานให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวใช้จักรยานเป็นพาหนะ
       โดยเส้นทางหนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม-มุกดาหาร เป็นจังหวัดที่ติดแม่น้ำโขง และมีเส้นทางที่ท้าทาย ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะได้ปั่นจักรยานสัมผัสธรรมชาติและเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน  ตามความมุ่งหวังของรัฐบาลที่กระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และเป็น 1 ใน 12 โครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ฝ่ายพัฒนาชุมชน กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้จัดโครงการประชุมคณะกรรมการชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559

       วันนี้ (29ต.ค.58) ที่อาคารเอนกประสงค์ ฝ่ายพัฒนาชุมชน กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประภาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ พร้อมด้วย ปลัดเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล ได้จัดโครงการจัดประชุมคณะกรรมการชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559  ซึ่งมีตัวแทนคณะกรรมการชุมชน ทั้ง 19 ชุมชนเข้าร่วมประชุมฯ

       การจัดประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์  เพื่อประสานความร่วมมือและสร้างเสริมความรัก ความศรัทธา ความเชื่อมั่นในหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ระหว่างเจ้าหน้าที่ของเทศบาลฯ กับประชาชนให้เข้าใจถึงบทบาทภาระหน้าที่ที่พึงมีต่อกัน ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชน ในการแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่น และชุมชนของตนเองให้เกิดความต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง  ตามแนวทางการพัฒนาชุมชนแบบบูรณาการ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพัฒนาสู่ความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน.

หนองคาย - ฝ่ายปกครองอำเภอท่าบ่อ ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้าน ลงพื้นที่สำรวจเพื่อเคลียร์ข้อพิพาทที่ดินทำกินริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ้านกองนาง หมู่ 11 หลังตรวจสอบพบมีการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ โดยกรมเจ้าท่าประกาศเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ พบมีการไถแปลงเพื่อทำการเกษตร และปลูกต้นมะพร้าวเป็นจำนวนมากในที่ดินสาธารณประโยชน์

       เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 58 ว่าที่พันตรีราวีชัย พฤทธิ์พหล ปลัดอำเภอท่าบ่อฝ่ายป้องกัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจท่าหนองคาย , นรข.เขตหนองคาย , ทหาร , ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 , นายกเทศบาลตำบลกองนาง , กำนันตำบลกองนาง , ผู้ใหญ่บ้านกองนาง หมู่ 11 พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่สำรวจเพื่อเคลียร์ปัญหาข้อพิพาทที่ดินทำกินริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ้านกองนาง หมู่ 11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เนื้อที่ 12,000 ตารางเมตร
           โดยชาวบ้านที่อาสัยทำกินในบริเวณนั้น ได้เข้าร้องทุกข์ปัญหาข้อพิพาทที่ดินทำกิน ระหว่างชาวบ้านกับผู้ร้องขอสิทธิ์ในที่ดิน จนไร้ข้อยุติ จึงได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ดำลงธรรมอำเภอท่าบ่อ ให้ช่วยเจรจา ประนีประนอม การใช้ประโยชน์จากที่ดินริมตลิ่งแม่น้ำโขง ซึ่งมีบริเวณติดกับพื้นที่หลังบ้านของผู้ร้องขอสิทธิ์ในที่ดิน  โดยกล่าวอ้างว่ากลุ่มชาวบ้านไม่มีสิทธิ์ทำกิน เพราะชาวบ้านปล่อยให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนริมตลิ่งเข้ามาขโมยทรายในพื้นที่กว่า 4 หมื่นคิว ทำให้ดินทรายสไลม์ บ้านตนได้รับความเสียหายเพราะมีพื้นที่ติดหลังบ้าน ซึ่งหลังการออกสำรวจ พบชาวบ้านได้ทำการไถแปลงเพื่อทำการเกษตร และยังพบมีการปลูกต้นมะพร้าวเป็นจำนวนมาก ในที่ดินสาธารณะ
       ว่าที่พันตรีราวีชัย พฤทธิ์พหล ปลัดอำเภอท่าบ่อฝ่ายป้องกัน ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ตอนนี้ล่าสุดกรมเจ้าท่าได้ตีความแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ดินสาธารณะ ในส่วนพื้นที่อยู่นอกข้อพิพาทเนื้อที่ 100X120 เมตร หรือ 12,000 ตารางเมตร ให้เทศบาลตำบลกองนางกำกับดูแลเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ในส่วนที่เป็นพื้นที่พิพาทต้องไปสอบถามกับตำรวจว่าได้ดำเนินทำคดีถึงไหนแล้ว ส่วนการดำเนินการปีต่อๆ ไป ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันสำรวจรังวัดพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ดินสาธารณะ ซึ่งปีนี้ในพื้นที่มีข้อพิพาทเนื้อที่ 100X120 เมตร ให้หยุดทำการเกษตรไปก่อน ซึ่งจะทำการปรึกษากับนายอำเภออีกครั้ง แต่ส่วนแปลงอื่นๆ นั้นทุกคนมีสิทธิ์ทำกิน แต่ไม่มีสิทธิ์แสดงตัวเป็นของตนเอง ส่วนในเรื่องแนวเขตก็ต้องปรึกษากันให้มีข้อยุติต่อไป.

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ธนาคารออมสิน ร่วมกองทุนหมู่บ้านน้ำโมง หมู่ 1 จัดตั้งสถาบันการเงินชุมชน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานราก แก้ปัญหาการเงินให้แก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

      วันนี้(28 ต.ค. 58) ที่กองทุนหมู่บ้านน้ำโมง หมู่ 1 เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ดร.พัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดสถาบันการเงินชุมชนบ้านน้ำโมง โดยมี นายสุริยะ กาฬบุตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขต 10, นายสุภชัย พรหมเนาว์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตหนองคาย, นายประภาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ พร้อมด้วย ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาสะพานมิตรภาพหนองคาย, สาขาศรีเชียงใหม่, สาขาสังคม, สาขาโพนพิสัย, สาขาท่าบ่อ และคณะกรรมการ สมาชิกสถาบันการเงินชุมชนบ้านน้ำโมง เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพียง
       นายคำสี โยคิน ประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านน้ำโมง หมู่ 1 กล่าวว่า ธนาคารออมสิน ร่วมมือกับสถาบันการเงินชุมชน หรือกองทุนหมู่บ้าน จัดตั้งสถาบันการเงินชุมชนบ้านน้ำโมง หมู่ 1 โดยเริ่มต้นเกิดจาก เมื่อปี พ.ศ.2544 บ้านน้ำโมง หมู่ 1 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล จำนวน 2,300,000 บาท ปัจจุบันได้ปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสมาชิก และเงินทุนหมุนเวียน ในวงเงินจำนวน 7,069,225 บาท

       จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้สมาชิกในชุมชนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเท่าเทียม ช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจชุมชนดีขึ้นได้ระดับหนึ่ง กองทุนหมู่บ้านน้ำโมงจึงได้รับคัดเลือกเข้ารับการอบรมในการพัฒนากองทุนหมู่บ้าน สู่การเป็นสถาบันการเงินชุมชนกับธนาคารออมสิน โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2555 ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยี เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องพิมพ์ และระบบโปรแกรมบัญชีธนาคารสำหรับสถาบันการเงินชุมชน และจัดตั้งเป็นสถาบันการเงินชุมชน เพื่อเป็นแหล่งเงินออมให้กับสมาชิกและชุมชน เป็นแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่นยืน ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐพอเพียง.....

หนองคาย - นักท่องเที่ยวแห่ชมบั้งไฟพญานาคที่ริมแม่น้ำโขง ในวันออกพรรษาปี 2558 ที่หนองคาย พบสถิติบั้งไฟเกิดขึ้นถึง 759 ลูก

          วันที่ 27 ต.ค. 58 บรรยากาศการชมบั้งไฟพญานาคที่ริมแม่น้ำโขง ในวันออกพรรษาปี 2558  มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้าพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย มุ่งหน้าต่อไปยังพื้นที่อำเภอโพนพิสัยและอำเภอรัตนวาปี บางส่วนหนีรถติดเลี่ยงการเดินทางขึ้นตอนเหนือของจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดหนองคาย และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วทั้งจังหวัด กระจายกำลังประจำจุดตลอดเส้นทางทั้งจังหวัด ไว้คอยดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
       เช่นที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ประชาชนต่างพาลูกหลาน ครอบครัว เข้ากราบไหว้นมัสการหลวงพ่อองค์ตื้อ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยทางวัดได้จัดเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเทียวตลอดทั้งวัน ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ได้ก่อสร้างมาแต่ดึกดำบรรพ์ มีพระรูปงดงามน่าเลื่อมใส  สร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครองเมืองเวียงจันทน์
       ส่วนที่วัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ประชาชนและนักท่องเที่ยวทยอยเข้ากราบไหว้หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่เทศน์ เทศน์รังสี ที่บริเวณศาลาริมแม่น้ำโขง ก่อนหาที่จับจองภายในบริเวณวัดเพื่อรอชมบั้งไฟพญานาคที่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นสมณะผู้สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตรอันงดงามยิ่ง เป็นผู้นำศรัทธาในการอบรมสั่งสอนธรรมและนำสร้างศาสนสถาน  เพื่อการจรรโลงพระพุทธศาสนาหลายแห่งในถิ่นแถบอีสาน เป็นปูชะนียาจารย์ของชนทุกระดับชั้น

       ส่วนที่บริเวณอ่างปลาบึก บ้านผาตั้ง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวเข้าจับจองที่นั่งริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนว ต่างพากันปูเสื่อจับจองที่นั่งล่วงหน้า โดยมีความหวังจะได้เห็นปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคกลางแม่น้ำโขงในปีนี้อีกครั้ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี

       จากศูนย์ข้อมูลกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้รายงานสถิติจำนวนบั้งไฟพญานาค ในคืนวันที่ 27 ต.ค.58 อย่างไม่เป็นทางการ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 18.16 น.ที่มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นครั้งแรก ไปจนถึงเวลา 22.00 น.พบว่าพบสถิติบั้งไฟเกิดขึ้น รวม 759 ลูก.