วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย และเมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ ร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ชายแดน เน้นด้านการเกษตรในการนำไปพัฒนากสิกรรมของลาว


       วันนี้ (28 ส.ค. 58) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร กำนัน ให้การต้อนรับคณะจากเมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นำโดย ท่านบุนทำ พุดทะวงสา เจ้าเมืองหาดทรายฟอง และคณะประกอบด้วย การนำเมือง, หัวหน้าห้องการ และนายบ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขงทั้ง 13 หมู่บ้าน จำนวน 65 คน ทั้งนี้เพื่อร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนพื้นที่ชายแดน (People to People Connectivity) ซึ่งคณะจากเมืองหาดทรายฟองได้ให้ความสนใจด้านการเกษตรเป็นอย่างมาก เนื่องจากสัมพันธ์กับสภาพภูมิประเทศ ความพร้อมด้านกสิกรรมของลาว สามารถนำไปพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานด้านการเกษตรได้ทันที
       โดยคณะทั้งหมดได้ไปศึกษางานด้านการเกษตร ที่ศูนย์การเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมผลิตพืชผักปลอดภัย หมู่ที่ 5 บ้านหงษ์ทอง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ โดยมี นายกองสิน หมอยาเก่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 เป็นวิทยากรบรรยายนำเสนอต่อคณะเมืองหาดทรายฟอง
       นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า เนื่องจากความสัมพันธ์ของเมืองหาดทรายฟองกับเมืองท่าบ่อ มาจากนโยบายของทางรัฐบาล ที่จะส่งเสริมให้เมืองที่อยู่ชายแดนตามริมแม่น้ำโขงได้มีความสัมพันธไมตรีกับเมืองเพื่อนบ้านของเรา โดยกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดหนองคาย ซึ่งอำเภอท่าบ่อได้จัดเชื่อมสัมพันธไมตรีด้วยการนำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำเศรษฐกิจเดินทางไปเยี่ยมยังเมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ และได้เชิญท่านเจ้าเมืองหาดทรายฟองและคณะ กลับมาเยี่ยมยามที่อำเภอท่าบ่อ เช่นเราได้ไปเยี่ยมยาม ในการที่ทั้งสองเมืองได้สัมพันธไมตรีกันส่วนใหญ่จะแรกเปลี่ยนทางด้านวัฒนะธรรม ทางด้านวิชาการ ทางด้านการเกษตร และก็ได้ปรึกษาหารือในบางเรื่องของทั้งสองเมือง ซึ่งทั้งสองเมืองได้มีความเข้าในกันดีทั้งสองฝ่าย และในอนาคตนั้นความร่วมมือทั้งสองเมืองก็จะมีความสัมพันธ์ดีขึ้นเลื่อยๆ อย่างเช่นวันนี้ทางเจ้าเมืองหาดทรายฟองได้นำคณะเดินทางที่อำเภอท่าบ่อ ก็เพื่อแรกเปลี่ยนทางด้านการเกษตร
       ท่านบุนทำ พุดทะวงสา เจ้าเมืองหาดทรายฟอง กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้  ในนามของคณะนำส่วนปกครองเมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว  มีความตั้งใจที่จะมาร่วมกันกับอำเภอท่าบ่อ ก็คือบรรดาเมืองที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงที่มีชายแดนร่วมกันระหว่างประเทศ พร้อมกับเสริมสร้างร่วมกันในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้มีความเจริญรุ่งเรือง การมาครั้งนี้ได้นำเอาบรรดาเป้าหมาย บุคคลากรที่มีความประสงค์อยากมาเรียนรู้เรื่องการเกษตรต้นแบบ ซึ่งอำเภอท่าบ่อเป็นแบบเรียนในการผลิตด้านการเกษตรกรเป็นอย่างดี เพื่อทำให้ชาวเกษตรกรในเมืองหาดทรายฟองได้มีบทเรียนใหม่ จะได้กลับไปปรับปรุงอาชีพของตัวเองที่ดีขึ้น

       อีกอย่างหนึ่งก็คือ  ทั้งสองเมืองจะได้มีความเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  มีความรักความสามัคคี  มีความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการรักษาสันติภาพและสันติสุขที่อยู่ในระหว่างริมแม่น้ำโขง  ทำให้พวกเราสามารถที่จะได้สร้างเงื่อนไขเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคม AEC  และในส่วนสำคัญก็คือพวกเราจะได้รับรู้เรื่องการบริหารการจัดการในจุดเดียว ซึ่งหลังจากท่านนายอำเภอท่าบ่อได้พาเยี่ยมชมกองการของอำเภอท่าบ่อ  เห็นว่าเป็นบทเรียนที่ดีและจะนำไปพัฒนาเมืองหาดทรายฟองให้ดีขึ้น ต่อไป  ( เจ้าเมืองหาดทรายฟอง กล่าว )

หนองคาย - อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย และเมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ จัดแข่งกีฬาส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ชายแดน

       วันนี้ (28 ส.ค. 58) ที่สนามกีฬาโรงเรียนโกมลวิทยาคาร อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย พร้อมด้วย ท่านบุนทำ พุดทะวงสา เจ้าเมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นำทีมนักกีฬาทั้งสองฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ชายแดน (People to People Connectivity) เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระดับประชาชนในพื้นที่ชายแดน

        สำหรับโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน เป็นการสร้างความเชื่อมโยงระดับประชาชนในพื้นที่ชายแดนได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน เพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ และเห็นความสำคัญของการรวมตัวสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ต่อกัน โดยจัดให้มีการแข่งขันกีฬา 2 ชนิด ประกอบด้วย กีฬาฟุตบอล เปตอง

หนองคาย - บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาหนองคาย จัดกิจกรรมกินข้าว เล่าเรื่อง พบปะสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์สร้างความปลอดภัยทางถนน พร้อมจัดพิธีลงนามหน่วยงานต้นแบบด้านการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ

       วันนี้ (28 ส.ค. 58) ที่ห้องอาหารครัวสวนปาล์ม บ้านโนนสังข์  ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย  บริษัทกลางกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  จำกัด  สาขาหนองคาย  นำโดยนางสาวนงลักษณ์  พิทักษ์กุล  ผู้จัดการสาขาได้เชิญสื่อมวลชน ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจร  สภ.เมืองหนองคาย,  ตัวแทนประชาสัมพันธ์ จ.หนองคาย, บริษัทตัวแทนประกันภัย, ตัวแทนขนส่ง  จ.หนองคาย ร่วมรับประทานอาหาร พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานด้านการรณรงค์สร้างความปลอดภัยทางถนน
       สำหรับประเด็นสำคัญที่หารือกันในครั้งนี้คือ การรณรงค์ให้ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถจักรยานยนต์เก่าต้องทำประกันภัยภาคบังคับ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วจะได้รับความคุ้มครอง หากรถเก่าไม่มีประกันภัยจะถูกดำเนินคดีจับ ปรับตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
       จากนั้น ได้มีพิธีลงนามความเข้าใจ  ด้านการเสริมสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนน  ระหว่างบริษัทในเครือสกุลคูเจริญ กรุ๊ป,  บริษัทในเครือสายฝน  กรุ๊ป  และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  จำกัด  สาขาหนองคาย  เพื่อให้ทั้ง 2 องค์กร ได้รณรงค์ให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่บุคลากรในองค์กรและนอกองค์  ด้านการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนต่อไป.

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - กรมโยธาธิการและผังเมือง ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน และอาคารในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย เน้นด้านศูนย์กลางตลาดค้าส่ง-ค้าปลีกระหว่างประเทศ ศูนย์โลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ศูนย์การท่องเที่ยวภูมิภาคของลุ่มน้ำโขง

       วันนี้ (27 ส.ค. 58) ที่ห้องร่มไทร องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานและร่วมรับฟังความคิดเห็นด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน และอาคารในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กำหนดจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวขึ้น เพื่อระดมข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปประกอบการศึกษา วิเคราะห์ และออกแบบวางผังพื้นที่เฉพาะพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐ โดยมีวิทยากรร่วมบรรยายประกอบด้วย นายจารุโรจน์ ภู่ประเสริฐ ผอ.กองผังเมืองเฉพาะ, นางสาววิยะดา ทรงกิตติภักดี นักผังเมืองชำนาญการ, นางศันสนีย์ ศรีสุกรี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง และนายอภิชาติ ศรีชาติ นิติกรชำนาญการ
         สำหรับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอย่างยิ่ง โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชนชายแดนจังหวัดหนองคาย และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) โดยที่มุ่งเน้นด้านศูนย์กลางตลาดค้าส่ง-ค้าปลีกระหว่างประเทศ ศูนย์โลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ศูนย์การท่องเที่ยวภูมิภาคของลุ่มน้ำโขง ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อการขยายตัวด้านการค้าชายแดนของประเทศไทย ให้มีการส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่ตามแนวเส้นทาง และบริเวณใกล้เคียงที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของไทยและ สปป.ลาว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

       สำหรับการเปิดเวทีรับฟังครั้งนี้ มีผู้บริหารและตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคการค้าการบริการ การท่องเที่ยว ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคประชาสังคม เข้าร่ามกว่า 250 คน.

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จัด “ค่ายศาสนธรรม สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำหลักคำสอนทางศาสนามาใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันภัยจากยาเสพติดให้แก่เด็กและเยาวชน

       วันนี้ (26 ส.ค. 58) ที่ศาลาสามัคคีเอนกประสงค์ วัดศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ค่ายศาสนธรรม สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2558 โดยมี นายธงชัย พลพวก ผู้อำนวยกาสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีนายไพฑูรย์ จิตต์สุทธิผล นายอำเภอศรีเชียงใหม่ พ.ต.อ.สมบัติ นาแถมพลอย ผกก.สภ.ศรีเชียงใหม่ พร้อมส่วนราชการ คณะครู และนักเรียน ให้การต้อนรับ
       ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด คณะสงฆ์ และโรงเรียน จัดทำโครงการ “ค่ายศาสนธรรม สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้กับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6  ซึ่งเป็นเด็กก่อนวัยเสี่ยงอันดับแรกสุดที่มีโอกาสจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามหลักศาสนา เพื่อใช้เยาวชนเกิดความรู้ ความเข้าใจ ในหลักของการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และแนวทางการประพฤติตนตามแบบอย่างอันดีงามของสังคม และสร้างความอบอุ่นให้เกิดในครอบครัวของตนเอง อันจะส่งผลให้เยาวชนกลุ่มนี้เป็นผลเมืองที่ของประเทศชาติ โดยได้นำหลักคำสอนทางศาสนามาใช้เป็นเกราะสร้างภูมิคุ้มกันจากยาเสพติดให้แก่เด็กและเยาวชน
        การฝึกอบรมครั้งนี้ มีโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาในเขตอำเภอศรีเชียงใหม่ จำนวน 12 โรงเรียน และเขตอำเภอโพธิ์ตาก จำนวน 7 โรงเรียน รวม 19 โรงเรียน จำนวน 135 คน เข้าร่วมโครงการ โดยมี พระครูสีตราภิรม รองเจ้าคณะอำเภอศรีเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดศรีเชียงใหม่ ให้การสนับสนุน และพระวิทยากรจากทีมงานธรรมาวุธ โดยพระครูภาวนาธรรมานุสิฐ เป็นหัวหน้าคณะ ได้มาให้ความรู้และแนวปฏิบัติธรรมทางศาสนา เพื่อเป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป.

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่หนองคาย เรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย หลังเหตุลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ

       วันนี้ (25 ส.ค. 58) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 โดยมี พ.ต.อ.จารุพล ยี่ตัน รอง ผบก.ภ.จังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย ให้การต้อนรับ พร้อมตรวจสอบระบบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสะพาน ทั้งตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ศุลกากร และหน่วยงานสนับสนุนข้างเคียง
       พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผช.ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ผบ.ตร.ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสริมศักยภาพของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายและเจ้าหน้าที่ทหารได้มีการปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และให้ตำรวจทุกนายประชาสัมพันธ์กับประชาชนให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี เอื้ออาทรต่อนักท่องเที่ยว อย่าให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัว
       ในส่วนของการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิด ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีทีมทำงานอยู่แล้ว การดูพื้นที่หนองคายได้ดูเกี่ยวกับระบบคัดกรอง ซึ่งได้มาตรฐานสากลและเป็นศูนย์คัดกรองบุคคลต้นแบบของตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะการคัดกรองคนร้ายข้ามชาติรวมถึงการค้ามนุษย์ ซึ่งทางการไทยมุ่งหวังให้คณะทำงานอาชญากรรมและการค้ามนุษย์ มองเห็นถึงความตั้งใจของทางการไทย ในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

หนองคาย - ตำรวจจราจร สภ.ท่าบ่อ ยังคงตั้งจุดตรวจเข้ม กวดขันวินัยจราจรอย่างจริงจังตลอด 24 ชั่วโมง ตามโครงการ ”ถนนปลอดภัย สร้างวินัยจราจร” พบส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัยถึง 80 % รองลงมาไม่พกใบขับขี่

       วันนี้ (25 ส.ค. 58)   พ.ต.ท.ไพรงาม ยศปัญญา สวป.สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ท่าบ่อ ได้ทำการตั้งด่านตรวจเข้มและประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติการกวดขันวินัยจราจรอย่างจริงจัง พร้อมจับจริงผู้มีความประพฤตินิสัยในการทำผิดกฎจราจร ตลอด 24 ชั่วโมง ตามโครงการ ถนนปลอดภัย สร้างวินัยจราจร เพื่อให้ทราบถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องกวดขันวินัยจราจร ในการลดอุบัติเหตุ และต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ลดลง
       พ.ต.ท.ไพรงาม กล่าวว่า นับตั้งแต่เริ่มโครงการ ถนนปลอดภัย สร้างวินัยจราจร เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 58 เป็นต้นมา พบว่ายังคงมีประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่ทราบในการปฏิบัติ และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัยถึง 80 % รองลงมาไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงได้ปรับตาม พ.ร.บ.จราจร บางคนได้ทำการตักเตือน ไม่ปรับ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงแก้ปัญหาด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ในโรงพักก่อนที่จะให้กลับบ้านได้

        ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ยังได้จับกุมรถจักรยานยนต์ที่มีท่อเสียงดังรบกวนชาวบ้าน จะเปรียบเทียบปรับเป็นเงินคันละ 500 บาท และให้ผู้ขับขี่นำท่อมาเปลี่ยน แต่ท่าไม่เปลี่ยนก็จะเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.จราจร จำนวน 2,000 บาท ซึ่งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตลอด 24 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายของโรงพักท่าบ่อสามารถจับกุมได้ทุกคน และได้กำหนดเส้นทาง ถนนปลอดภัย สร้างวินัยจราจร ตั้งแต่หน้าซุ้มประตูเมืองท่าบ่อ ไปตลอดถนนเส้นสันติสุข และสิ้นสุดยังสามแยกปิ่นทอง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2558  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้มงวดกวดขันวินัยจราจร หากฝ่าฝืนกฎจราจร จะดำเนินการ จับ ปรับ จริง โดยประชาชนต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัย 100% และขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย100% เช่นกัน.

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ร่วมกับเทศบาลเมืองท่าบ่อ และหอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) จัดโรงหนังเคลื่อนที่ขนาด 100 ที่นั่ง ให้เด็ก ๆ นักเรียนและประชาชนได้ชม เน้นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งการ์ตูนแบบ 3D ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ

       วันนี้ (24 ส.ค. 58) ที่ถนนท่าเสด็จ เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ร่วมกับเทศบาลเมืองท่าบ่อ  และหอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) ร่วมจัดโรงหนังเคลื่อนที่คันแรกในประเทศไทยและทวีปเอเชีย หรือ "รถโรงหนัง" เพื่อเป็นของขวัญให้เด็กไทยและประชาชน ได้ดูหนังทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เน้นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งการ์ตูนแบบ 3D ที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ อีกทั้งเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการดูภาพยนตร์ และเรียนรู้วิธีการดูภาพยนตร์แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต เพื่อเพิ่มพูนปัญญา ดังคำกล่าวที่ว่า “ภาพยนตร์ยังให้เกิดปัญญา”
       สำหรับ  "รถโรงหนัง" โดยหอภาพยนตร์(องค์การมหาชน) ร่วมกับภาครัฐ ทุ่มงบฯ มูลค่า 80 ล้านบาท ให้ช่างผู้ชำนาญการพิเศษที่ฝรั่งเศส ประกอบรถคันนี้ขึ้นมา โดยใช้เวลาถึง 3 ปี คาดว่าไม่เกิน 15 คันในโลก และเป็นคันแรกในประเทศไทยและทวีปเอเชีย เพื่อเป็นโรงหนังเคลื่อนที่ขนาด 100 ที่นั่ง เพื่อนำพาหนังไทยและหนังนานาชาติ ไปฉายให้ประชาชนพื้นที่ห่างไกลได้ชมกันฟรี ด้วยที่นั่งสะดวกสบายและแอร์เย็นฉ่ำ ไม่แพ้โรงหนังชั้นนำที่ตั๋วราคาแพง ๆ
       ที่สำคัญระบบฉายหนังยังรองรับทั้งระบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ทั้งจากคลังหนังในหอภาพยนตร์ และหนังหลากรส ทั้งเข้าใหม่และหนังเก่าหาดูยาก ซึ่ง "รถโรงหนัง" จะตระเวนฉายไปจนครบทั้ง 9 อำเภอในพื้นที่จังหวัดหนองคาย อำเภอละหนึ่งแห่ง ก่อนที่จะนำ "รถโรงหนัง" ไปฉายยังจังหวัดอื่นอีกต่อไป.