วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

จังหวัดหนองคาย ตรวจยึดไม้ชิงชันและไม้พะยูงกว่า 100 ท่อน มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

     วันที่ 30 เม.ย. 57 พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.หนองคาย ผสานกำลังตำรวจ สภ.เมือง ตชด.24 ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก3.บก.ปทส.) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.1 (หนองหลวง) อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เข้าตรวจสอบไม้ชิงชันและไม้พะยูง ที่หน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ บ้านโพธิ์เงิน หมู่ 13 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกและรถพ่วงนำไม้ดังกล่าวมาทิ้งไว้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นไม้ชิงชันและมีไม้พะยูงปะปนกัน คาดว่ามีกว่า 100 ท่อน มูลค่าเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
     สอบถามนายรัตนชัย แก้วเมือง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 569 หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ที่เช่าบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันที่ 29 เม.ย. 57 ขณะที่ฝนกำลังตก มีรถบรรทุกและรถพ่วงนำไม้ดังกล่าวมาทิ้งไว้ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีนางไหมไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มาเช่าไว้ แต่ไม่ค่อยได้อยู่ ส่วนใหญ่จะไปกับสามี เพราะสามีเป็นคนขับรถบรรทุก ส่วนไม้นั้นไม่รู้ว่าเป็นของใคร
     เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมือง และนำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.1 (หนองหลวง) อ.เฝ้าไร่ โดยจะสืบหาเจ้าของไม้เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป.

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

อบต.บ้านว่าน ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เปิดบ่อพักน้ำประปาหมู่บ้าน ให้ประชาชนลงจับปลา คนแห่จับปลากันเพียบ ทั้งในถิ่นและต่างถิ่น เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ ส่วนรายได้ในการจำหน่ายบัตรนำไปปรับปรุงสวนสาธารณะหมู่บ้าน

     เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 57 ที่บริเวณบ่อพักน้ำประปาของหมู่บ้าน หรือบึงสารคำ ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปลงจับปลาในบ่อพักน้ำประปาของหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มออกซิเจนในบ่อพักน้ำประปา และให้ประชาชนนำไปไปเป็นอาหารและจำหน่าย โดยมีประชาชนจำนวนมากทั้งในพื้นที่ตำบลบ้านว่าน และพื้นที่ใกล้เคียงที่รู้ข่าวได้พากันร่วมจับปลากันอย่างเนืองแน่น
     นายประภาส คลังชำนาญ นายก อบต.บ้านว่าน เปิดเผยว่า การเปิดจับปลาในบ่อพักน้ำประปาประจำหมู่บ้าน ครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกับฝ่ายปกครองในตำบลบ้านว่าน คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยบ่อน้ำแห่งนี้ได้ทำการขุดลอกมานานเป็นเวลา 12 ปี จึงอยากจะปรับสภาพน้ำให้มีออกซิเจน โดยเปิดให้มีการจำหน่ายบัตรในการลงจับปลา โดยจะคิดค่าจับปลาในราคาละ 100 บาท รายได้ก็จะนำไปปรับปรุงสวนสาธารณประจำหมู่บ้านและเพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ผู้ที่มาจับปลาจะนิยมใช้แหหว่านและยกยอ เพราะง่ายและสะดวกในการจับปลา สำหรับบ่อน้ำประปาแห่งนี้ ได้หล่อเลี้ยงความเป็นอยู่ของชาวบ้านในเรื่องอุปโภค บริโภค จำนวน 8 หมู่บ้านด้วยกัน. 

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

พุทธศาสนิกชน ในเทศบาลเมืองท่าบ่อ ประกอบพิธีฉลองสัญญาบัตรพัดยศ พระครูปิยสีลวิสุทธิ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก และฉลองตราตั้งรองเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ

      เวลา 09.00 น. วันนี้ (25 เม.ย. 57) ที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้ร่วมขบวนแห่ฉลองสัญญาบัตรพัดยศ พระครูปิยสีลวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดธรรมคุณ ในฐานะได้รับสัญญาบัตรพัดยศ เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก และได้รับตราตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ โดยขบวนสัญญาบัตรพัดยศได้ตั้งขบวนแห่จากบริเวณซุ้มประตูเมืองท่าบ่อ ผ่านหน้าตลาดสดเทศบาลฯ ผ่านสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ แล้วไปสิ้นสุดยังวัดธรรมคุณ รวมระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะมีรถขบวนแห่สัญญาบัตรพัดยศแล้ว ยังมีนางรำและกลองยาวมาร่วมในขบวนแห่ด้วย
      จากนั้น นายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้เป็นประธานอ่านพระบรมราชนุญาติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 มหาเถรสมาคมได้ประชุมพิจารณาคัดเลือกพระครูสัญญาบัตร ที่ดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการผู้บริหารการคณะสงฆ์ สมควรได้รับการเลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 มหาเถรสมาคมมีมติให้เลื่อน พระครูปิยสีลวิสุทธิ์ (สุจริต) วัดธรรมคุณ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ตำแหน่ง พระครูเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท เป็น ชั้นเอก ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 และพร้อมกันนี้ ยังได้ประกอบพิธีตราตั้งแก่ พระครูปิยสีลวิสุทธิ์ ดำรงตำแหน่ง เป็นรองเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ในเขตอำเภอของตนตามที่เจ้าคณะอำเภอมอบหมาย ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม พุทธศักราช 2556



เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ทำให้บ้านเรือน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

     เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 เม.ย. 57 ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้เกิดฝนตกและพายุลมแรง เป็นเวลาประมาณ 30 นาที พบว่ามีต้นไม้ กิ่งไม้หักโค่น ป้ายโฆษณา เพิงขายของและอาคารบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง โดยเฉพาะที่บริเวณชุมชนกุดแห่ มีอู่ซ่อมรถของนายมังกร พลภูมี อายุ 71 ปี ที่พึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จได้ไม่นาน เสาอู่ซ่อมรถได้หักโค่น หลังคาพังทั้งหลัง ทับรถยนต์ที่จอดอยู่ในอู่ จำนวน 2 คัน ได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังทำให้ไฟฟ้าภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคายดับนานกว่า 3 ชั่วโมง
     ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย และดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ ต่อไป.

อำเภอท่าบ่อ เปิดฝึกอบรม “โครงการศึกษาอบรมคณะกรรมการหมู่บ้าน” ประจำปี 2557 พัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการหมู่บ้าน ให้มีประสิทธิภาพ

     เวลา 09.00 น. วันนี้ (25 เม.ย. 57) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าบ่อ ได้เปิดฝึกอบรม “โครงการศึกษาอบรมคณะกรรมการหมู่บ้าน” ประจำปี 2557 เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการหมู่บ้าน ในทุกตำบลทั่วทั้งอำเภอท่าบ่อให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับภารกิจของทุกภาคส่วนที่มอบหมายให้ เป็นองค์กรหลักรับผิดชอบในระดับหมู่บ้าน เพื่อเป็นหลักปฏิบัติในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน ให้เกิดเป็นรูปธรรม
     โดยในการอบรมครั้งนี้ คณะกรรมการหมู่บ้านจะได้เรียนรู้โครงสร้าง บทบาท อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหมู่บ้าน เรียนรู้เรื่องการจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้าน ทั้งด้านอำนวยการ ด้านการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย ด้านแผนพัฒนาหมู่บ้าน ด้านส่งเสริมเศรษฐกิจ ด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและสาธารณะ ด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนะธรรม รวมถึงเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน เรียนรู้เรื่องการประนีประนอมข้อพิพาทในระดับหมู่บ้าน โดยมีนายทักษิณ สุวรรณศรี ปลัดอำเภอท่าบ่อ (เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ) เป็นวิทยากรดำเนินการฝึกอบรม 

พัฒนาชุมชนอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอท่าบ่อ เดินรณรงค์แสดงพลัง เนื่องในวันสตรีสากล

      เวลา 08.30 น. วันนี้ (25 เม.ย.57) ที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอท่าบ่อ ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอท่าบ่อ จัดกิจกรรมเดินรณรงค์แสดงพลัง เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2557 ตั้งแต่ซุ้มประตูเมืองท่าบ่อ ไปสิ้นสุดที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยมีนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย เป็นประธานเปิดกิจกรรมและมอบเกียรติบัตรแก่สตรีผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม จำนวน 10 คน ใน 10 ตำบล ของพื้นที่อำเภอท่าบ่อ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย
     นางวันเพ็ญ ผิวบาง ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้เป็นวันสตรีสากล เป็นวันที่สตรีทั่วโลกร่วมกันเฉลิมฉลองความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันในสังคมระหว่างบุรุษและสตรี โอกาสนี้คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอท่าบ่อ ได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ยุติความรุณแรงต่อเด็กและสตรี สนับสนุนกองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้นำสตรีระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เพื่อให้เป็นแกนนำในการส่งเสริมการพัฒนาสตรีระดับฐานราก และการพัฒนาศักยภาพขององค์กรสตรีในการเชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานระหว่างองค์กรสตรีและภาคีอื่นๆ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้สตรีได้มีองค์กรเครือข่ายกว้างขวางยิ่งขึ้น จึงกำหนดให้มีการจัดงานวันสตรีสากลอำเภอท่าบ่อ ขึ้น โดยมีกลุ่มองค์กรสตรีเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 275 คน.

มะนาวแพงราคาพุ่งสูงถึงลูกละ 10-12 บาท พ่อค้า แม่ค้าเผยเนื่องจากสภาพอากาศร้อน และแห้งแล้งจึงทำให้มะนาวออกผลน้อยและราคาแพง จึงต้องสั่งซื้อมะนาวจากเวียดนามที่มีราคาถูกกว่ามาจำหน่าย และยังส่งผลกระทบไปยังแม่ค้าขายน้ำหวานและร้านส้มตำ

     วันนี้ (25 เม.ย. 57) ผู้สื่อข่าว ได้ออกสำรวจราคามะนาวในตลาดสด เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พบว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า มะนาวราคาแพงมาก โดยเฉพาะราคาขายปลีกพุ่งสูงขึ้นลูกละ 10-12 บาท จนต้องเลี่ยงหันไปใช้มะนาวจากเวียดนามที่มีราคาถูกกว่าลูกละ 7-8 บาท แทน เพื่อควบคุมต้นทุนในการจำหน่าย
     สอบถามพ่อค้าแม่ค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่มะนาวมีราคาแพง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง ทำให้ปริมาณมะนาวไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดและมีราคาสูงมาก ลูกละ 10-12 บาท และไม่ขายชั่งกิโล เน้นขายเป็นลูก จึงต้องหันไปสั่งซื้อมะนาวนำเข้าจากประเทศเวียดนาม ที่มีราคาถูกกว่ามาจำหน่ายในราคาลูกละ 7-8 บาท แยกเป็นขนาดใหญ่เบอร์ 3 ราคา 8 บาท เบอร์ 4 ราคา 7 บาท เบอร์ 5 ราคา 4 บาท โดยจะรับสินค้าที่จุดผ่อนปรนชายแดนบ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ถึงแม้มะนาวเวียดนามจะมีรสชาติและกลิ่นไม่หอมเหมือนมะนาวไทยก็ตาม
     ราคามะนาวที่สูงขึ้น ยังส่งผลกระทบไปยังแม่ค้าขายน้ำหวาน ต้องเลิกทำน้ำมะนาวขาย เนื่องจากมะนาวราคาต้นทุนอยู่ที่ 7 บาท ขายน้ำหวานราคา 10 บาท ซึ่งไม่คุ้มทุน ต้องเน้นขายน้ำหวานสมุนไพรแทน เช่นน้ำใบบัวบก น้ำรากบัว น้ำมะพร้าว น้ำเฉาก๊วย เป็นต้น
     ส่วนแม่ค้าส้มตำ บอกว่าปีนี้มะนาวแพงสุดขีด ต้องเพิ่มต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็ต้องใช้เพราะเป็นของคู่กันกับส้มตำ ขาดไม่ได้ ขณะนี้มะนาวแป้นลูกขนาดกลางมีราคาลูกละ 7-8 บาท ส่วนลูกขนาดใหญ่มีราคาสูงถึงลูกละ 12 บาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยควบคุมราคามะนาวในท้องตลาดด้วย เพื่อไม่ให้ราคาสูงมากนัก เพราะจะส่งผลกระทบกับประชาชนผู้บริโภคเป็นอย่างมาก.

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

จังหวัดหนองคาย ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย แถลงข่าวประกาศเจตนารมณ์ “หนองคายเมืองปลาน้ำจืดสีเขียว” ตามโครงการเมืองเกษตรสีเขียว หรือ Green Agriculture City เพื่อเป้าหมายให้จังหวัดหนองคายเป็นเมืองแห่งปลาน้ำจืดปลอดภัย พร้อมเตรียมจัดงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว ที่อำเภอท่าบ่อ ในวันที่ 27 พฤษภาคม นี้

      เวลา 17.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 57 ที่ท่าน้ำวัดหายโศก เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานแถลงข่าวประกาศเจตนารมณ์ “หนองคายเมืองปลาน้ำจืดสีเขียว” ตามโครงการเมืองเกษตรสีเขียว หรือ Green Agriculture City เป็น 1 ใน 8 โครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศของรัฐบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันเมื่อเปิด AEC โดยมี นายเขมชาติ จิวประสาท ผู้ตรวจราชการกรมประมง เขต 10 นายเฉลียว เทียนวรรณ ประมงจังหวัดหนองคาย นายสุทัศน์, เผือกจีน ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดหนองคาย และนายยุทธนา เริงณรงค์ ปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย ร่วมแถลงข่าว
       นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับจังหวัดหนองคาย โดยจัดสรรงบประมาณให้กรมประมงดำเนินโครงการฯ เพื่อเป้าหมายให้จังหวัดหนองคายเป็นเมืองแห่งปลาน้ำจืดปลอดภัย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจังหวัดซึ่งกำหนดให้เป็น “เมืองน่าอยู่ เปิดประตูสู่อาเซี่ยน” คือการสร้างเมืองสีเขียว เพื่อสร้างจุดสนใจให้กับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและมีรสนิยมที่ต้องการบริโภคของดี ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะเป็นแนวทางที่จะสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างภาคเกษตรกรกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะสามารถส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อไป
      ทางด้านนายเฉลียว เทียนวรรณ ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เพื่อให้โครงการเมืองเกษตรสีเขียว ด้านการประมง ได้เป็นที่รู้จักและประชาชนทั่วไปสนใจ กรมประมงจึงได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศเจตนารมณ์ “หนองคายเมืองปลาน้ำจืดสีเขียว” โดยมีเป้าหมายให้จังหวัดหนองคายเป็นเมืองแห่งปลาน้ำจืดปลอดภัยและสนับสนุนนโยบายจังหวัดน่าอยู่ด้วย ทั้งนี้จะมีการจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการเมืองเกษตรสีเขียว ด้านประมง อีกครั้งที่อำเภอท่าบ่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรประกอบอาชีพทางด้านการประมง เกษตร ปศุสัตว์ เป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่การผลิตสินค้าเกษตรแหล่งใหญ่และสำคัญในจังหวัดหนองคาย รองรับการติดต่อซื้อขายกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยรูปแบบการจัดงานเป็นการบูรณาการร่วมจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จะมีทั้งนิทรรศการสินค้าและบริการ ซึ่งจะเป็นช่องทางของผู้ผลิตสินค้าปลอดภัยจะได้พบปะสื่อสารและซื้อขายกับผู้บริโภคโดยตรง โดยงานจะกำหนดจัดขึ้น ณ บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ในวันอังคาร ที่ 27 พฤษภาคม 2557 นี้


สาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ อบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เชี่ยวชาญนักจัดการสุขภาพ กว่า 200 คน ในด้านการดูแลสุขภาพตามกลุ่มวัย

     เวลา 09.00 น. วันนี้ (23 เม.ย. 57) ที่ห้องประชุมอีสานฮอล์ล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายชูชัช แก้วมณีชัย สาธารณะสุขอำเภอท่าบ่อ ได้เป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เชี่ยวชาญนักจัดการสุขภาพ ในด้านการดูแลสุขภาพตามกลุ่มวัย เพื่อให้ อสม. มีศักยภาพในการจัดการดูแลกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญในชุมชน ได้แก่ กลุ่มวัยแรกเกิด วัยเรียน วัยทำงาน ผู้สูงอายุและผู้พิการ และเพื่อสนับสนุนให้ อสม. ได้รับการพัฒนาศักยภาพการมีส่วนร่วมในการจัดทำสุขภาพชุมชน รวมทั้งเพื่อพัฒนาความรู้ทักษะในการถ่ายทอดทิศทางนโยบายไปสู่การปฏิบัติและแก้ไขปัญหาในชุมชน ตลอดจนเพื่อส่งเสริม อสม. ที่ได้รับการพัฒนา สามารถจัดบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับสถานการณ์
     นายชูชัช แก้วมณีชัย สาธารณะสุขอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า การอบรมในวันนี้เน้นด้านการดูแลสุขภาพตามกลุ่มวัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยแม่และเด็ก กลุ่มเด็กปฐมวัย กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ โดยจะพัฒนาขีดความสามารถของ อสม. ให้เป็น อสม.เชี่ยวชาญ 10 หลักสูตร ได้แก่ สาขาโรคเรื้อรัง สาขาอนามัยแม่และเด็ก รวมทั้งสาขาป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน รวมถึงการจัดหาและสนับสนุนชุดอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานของ อสม. ในการดูแลสุขภาพของคนในพื้นที่ ซึ่ง อสม. เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะอยู่ใกล้ชิดคนในหมู่บ้านและชุมชนมากที่สุด ที่สำคัญยังเป็นผู้ที่มีบทบาทในการดูแลสุขภาพประชาชนเบื้องต้น รวมทั้งให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ประชาชน ประสานความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน กระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของ อสม. ตลอดจนพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและดูแลผู้ป่วยด้วยโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขของชุมชน จึงได้จัดการอบรมพัฒนาศักยภาพให้เป็น อสม. เชี่ยวชาญนักจัดการสุขภาพ ในด้านการดูแลสุขภาพตามกลุ่มวัย และรับการปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป.

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ ร่วมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาข่า เปิดการอบรมแกนนำ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในพื้นที่ตำบลจัดการสุขภาพ ในการพัฒนาตำบลสุขภาพดี

      วันนี้ (22 เม.ย. 57) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาข่า เปิดการอบรมแกนนำ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในพื้นที่ตำบลจัดการสุขภาพ ในการพัฒนาตำบลสุขภาพดี ณ ห้องประชุมของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาข่า ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นแกนนำ อสม. ในพื้นที่ ตำบลนาข่า, กองนาง และบ้านถ่อน จำนวน 60 คน ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการดำเนินการพัฒนาหมู่บ้าน และชุมชนของตนเองตามเกณฑ์หมู่บ้านจัดการสุขภาพดี และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาแนวทางการดำเนินงานให้ หมู่บ้าน ตำบล สามารถดำเนินงานผ่านมาตรฐานในระดับดีเยี่ยม รวมถึงพัฒนาวิทยากรพี่เลี้ยงสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพระดับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนตำบลสุขภาพดี วิสาหกิจชุมชนยั่งยืน เพื่อพัฒนาศักยภาพ อสม. นักจัดการสุขภาพชุมชน เพื่อบูรณาการการทำงานด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สิ่งแวดล้อม ไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของชุมชน ในพื้นที่ตำบลจัดการสุขภาพ
      โดยมีการบรรยายในหัวข้อ การพัฒนาตำบลจัดการสุขภาพดี วิสาหกิจชุมชนยั่งยืน, บทบาท อสม. นักจัดการสุขภาพชุมชน, บทบาท อสม. กับการพัฒนาตำบลจัดการสุขภาพ, การจัดการตนเองเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, สุขภาพดีด้วย 3 อ 2 ส, เทคนิคการสื่อสารเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเทคนิคการใช้เครื่องมือตรวจคัดกรองสุขภาพ 

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ภาคอีสาน ร่วมกับกองสาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อแรงงานข้ามชาติ ในเรื่อง “คิดบวกกับแรงงานข้ามชาติ”

     วันนี้ (21 เม.ย. 57) ที่ห้องประชุมอาคาร 3 เทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอมรวิทย์ เปียผ่อง รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อแรงงานข้ามชาติ มุ่งเน้นในเรื่องการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินการให้บริการที่เป็นมิตรสำหรับแรงงานข้ามชาติ
     สำหรับมูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ภาคอีสาน มีบทบาทการดูแลและลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย และส่งผลต่อการลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้กระบวนการสื่อสารเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเพิ่มการเข้าถึงบริการและข้อมูลด้านสุขภาพและการเกิดนโยบายที่เอื้อต่อภาวะสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ ดังนั้นมูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ภาคอีสาน จึงร่วมกับกองสาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อแรงงานข้ามชาติ ขึ้นในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมรู้จักและเข้าใจการดำเนินการฟ้ามิตร 2 ในอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานระดับนโยบายและการปฏิบัติในการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาแนวทางในการดำเนินงานเรื่องการบริการที่เป็นมิตรสำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยจัดให้มีกิจกรรมการบรรยายพิเศษเรื่อง “คิดบวกกับแรงงานข้ามชาติ” มีเจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ภาคอีสาน เป็นวิทยากรบรรยายครั้งนี้.


รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว พื้นที่จังหวัดหนองคาย

     วันนี้ (21 เม.ย. 57) นางจิราวรรณ์ แย้มประยูร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชน บ้านหงษ์ทอง หมู่ 5 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการพัฒนาเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีความปลอดภัยด้านอาหารและเป็นฐานสร้างรายได้ที่สำคัญด้วยการขับเคลื่อนทุกภาคส่วน
     นางจิราวรรณ์ แย้มประยูร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการเมืองเกษตรสีเขียว ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เลือกจังหวัดหนองคาย เป็น 1 ใน 6 จังหวัด ที่ถูกคัดเลือกให้มีการทำงานเป็นเมืองเกษตรสีเขียว โดยการทำงานของกระทรวงฯจะทำงานร่วมกับจังหวัด มีการจัดทำเป็นคณะทำงาน มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพราะเรามีเกษตรจังหวัดเป็นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ทำเรื่องผักปลอดสารพิษและขยายต่อไปในเรื่องของผักอินทรีย์ในอนาคต ก็เลยเป็นหนึ่งในโครงการที่เข้ามาในระบบของกระทรวงฯ อย่างไรก็ตามต้องประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้มีกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) ปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างในสินค้าเกษตรทั้งพื้นที่ และการพัฒนาคนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถทำการผลิตและอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
     จากนั้น รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางไปยังบ่อปลาสุรินทร์ฟาร์ม ณ บ้านกองนาง หมู่ 1 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลานิลหมันส่งออกไปยัง สปป.ลาว มากที่สุดสำหรับในพื้นที่ และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์ในแม่น้ำโขงที่หายาก เช่น ปลาบึก ปลาคัง เป็นต้น ก่อนที่รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ จะเดินทางไปดูไร่สับปะรดในที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ต่อไป.

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงาน แก่ข้าราชการตำรวจ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 4

     เวลา 14.30 น. วันนี้ (18 เม.ย. 57)  ที่สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ(ชั่วคราว) อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้กับข้าราชการตำรวจ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 4 โดยมี พล.ต.ต.ชัยญัติ  สายถิ่น ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.หนองคาย พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผู้กำกับการ สภ.ท่าบ่อ นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ หัวหน้าส่วนราชการ แม่บ้านตำรวจ พร้อมด้วยคณะ กต.ตร.สภ.ท่าบ่อ ประชาชนให้การต้อนรับ
     พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าตรวจแถวตำรวจพร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เจ้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และเยี่ยมชมภายในอาคารสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ที่ใช้บ้านพักของผู้กำกับเป็นอาคารปฏิบัติราชการชั่วคราว เพื่อให้สามารถใช้งานราชการบริการประชาชนได้ ซึ่งสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ได้ปรับปรุงอาคารห้องปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งห้องควบคุมผู้ต้องหา ห้องวิทยุสื่อสาร จุดรับแจ้งความ แม้กระทั่งห้องน้ำไว้บริการประชาชน สถานที่จอกรถได้ปรับปรุงตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อให้บริการประชาชนที่มาติดต่อราชการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นประธานรับมอบรถจักรยาน 8 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน จากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อ ที่ได้ร่วมบริจาคเพื่อนำไปใช้ตรวจตราดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมปลูกต้นมะค่าแดง เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ
     ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบว่าที่นี้ได้เป็นหน่วยที่มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นตัวอย่างได้ ก็ตั้งใจมาดูเพื่อให้เป็นกำลังใจท่านผู้กำกับและน้องๆ ตำรวจ และมอบนโยบายวิสัยทัศในการบริหาร เพื่อความผาสุกของประชาชน โดยได้กำหนดเจตนารมณ์ไว้ 3 ประการ ประการแรก เป็นตำรวจที่ปกป้อง เทิดทูน ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นสำคัญ ประการที่ 2 ได้เน้นย้ำอีกว่า เป็นตำรวจมืออาชีพ ยึดมั่นในธรรมมาภิบาลและพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยน คือการทำงานทั้งหมดนั้นต้องยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักความโปร่งใส ยึดหลักความมีส่วนร่วม ยึดหลักความคุ้มค่าและรับผิดชอบ และในข้อที่ 3 ผมให้เน้นย้ำถึงว่า เราเป็นตำรวจนั้นต้องให้ประชาชนมีความรักศรัทธา เชื่อถือ เป็นหัวใจสำคันในประการที่ 3