วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอท่าบ่อ จัดปฐมนิเทศนักศึกษา 300 คน ประจำภาคเรียนที่ 2/2556 เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจกระบวนการจัดการเรียน การสอน ตามหลักสูตร พ.ศ.2551

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (27 พ.ย. 56) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการปฐมนิเทศนักศึกษา ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอท่าบ่อ ให้กับนักศึกษาทั้ง 3 ระดับ จำนวน 300 คน ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 และมอบในระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา ที่ผ่านการประเมินเทียบระดับการศึกษา ครั้งที่ 1 ประจำปี 2556


     นางจามรี ภูเมฆ ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า กศน. อำเภอท่าบ่อ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดการศึกษาให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย จัดกระบวนการเรียนรู้และมีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษากลุ่มประเทศในอาเซี่ยน ควบคู่ไปกับการฝึกให้นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิต และยังมุ่งมั่นให้ผู้เรียนคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น เน้นการเรียนแบบบูรณาการและปฏิบัติจริง สอดคล้องกับวิถีชีวิต เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซี่ยน ในปี 2558 ให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจกระบวนการจัดการเรียน การสอน ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และเพื่อให้นักศึกษามีการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

     ทั้งนี้ นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ยังได้กล่าวให้โอวาทแก่นักศึกษา กศน. ว่า ในการจัดปฐมนิเทศนักศึกษา กศน. ครั้งนี้ เป็นพิธีการอันทรงเกียรติ เพื่อให้ความสำคัญต่อผู้เรียน ให้เกียรติแก่ผู้เรียน ให้เกียรติผู้ที่ผ่านการอบรม และให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความยินดี เป็นกำลังใจให้กันและกันในการศึกษาเล่าเรียนที่ไม่รู้จบ ตราบใดลมหายใจยังไม่สิ้นก็ต้องเรียนไปจนชีวิตจะหาไม่ ถ้าใครสิ้นสุดการเรียนก็คงต้องโง่เขา เบาปัญญา เพราะเวลานี้เวลาผ่านไปไม่กี่ปี ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง ข่าวสารการเรียนรู้ได้เปลี่ยนไปเร็วมาก และเมื่อถึงปี 2558 เราจะมีการเปิดประชาคมอาเซี่ยน ก็เป็นเรื่องที่เราคนไทยก็ต้องมีการปรับตัว การปรับตัวที่ดีที่สุดของคนไทยก็คือ เรื่องการพัฒนาคุณภาพของคนควบคู่ไปกับการพัฒนาการศึกษา ให้มีคนได้มีความรู้ อ่านออก เขียนได้ ตามการบริโภคข่าวสารได้ทัน เพราะฉะนั้น ขอให้นักศึกษาทุกคนที่อยู่ในที่นี้ จงมีความพร้อมในการศึกษา มีการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเหมาะสม นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมีความสุข ต่อไป. 

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นายกเมืองท่าบ่อ แจ้งเตือนระมัดระวังอัคคีภัยในช่วงฤดูหนาว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน


     นายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย แจ้งว่า ขณะนี้เข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง ซึ่งสภาพอากาศดังกล่าวจะทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้ง่าย จึงขอแจ้งเตือนประชาชนได้ช่วยกันกำจัดวัตถุเชื้อเพลิงที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ออกจากอาคารบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนสำรวจสายไฟฟ้าทั้งภายนอก ภายในอาคารบ้านเรือน หากมีสภาพที่เก่าชำรุด ควรจัดการเปลี่ยนโดยช่างผู้ชำนาญ ควรจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ในการดับเพลิงไว้ประจำบ้านอีกด้วย


     ทั้งนี้ ทางเทศบาลเมือท่าบ่อ ก็ได้เตรียมความพร้อมป้องกันอัคคีภัย  ซึ่งเราได้จัดซื้อเกี่ยวกับอุปกรณ์ในการดับเพลิงต่างๆ เตรียมความพร้อมไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อเกิดเหตุขอให้แจ้งขอความช่วยเหลือไปที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าบ่อ โทรศัพท์ 199 หรือ 042-432001 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมรถยนต์บรรทุกน้ำมาช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อป้องกันไฟลุกลามที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น



    นายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ ยังแจ้งเตือนอีกว่า ในช่วงใกล้จะถึงปีใหม่ 2557 ก็ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ ให้ระมัดระวังการขับขี่รถยนต์ เนื่องจากถนนหลายสายในพื้นที่กำลังทำการปรับปรุง แก้ไขถนนให้ดีขึ้น เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ก็ขอให้ระมัดระวังและเคารพกฎจราจร เช่น สวมมวกนิรภัย เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง.

สภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ อนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ปี 2556 และอนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่าย ปี 2557


     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 2556 ที่ห้องประชุมสภาท่าเสด็จ เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายมานะชาย เจริญสุข ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ  ได้เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ สมัยที่ 4 ประจำปี 2556 โดยมีนายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ สมาชิกสภาเทศบาลทุกเขตจำนวน 14 คน  ปลัดเทศบาล และหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุม


     ซึ่งมีระเบียบวาระที่สำคัญ คือ ญัตติขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2556 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะและปริมาณของซุ้มประตูเมืองให้เหมาะสม และถูกต้องกับสถานที่ที่จะดำเนินการ 2 จุด คือ จุดที่ 1 บริเวณหน้าร้านอาหารคุ้มหลวง วงเงิน 1,700,000 บาท จุดที่ 2 บริเวณ 3 แยก หน้าที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ วงเงิน 1,200,000 บาท ซึ่งมติที่ประชุมเห็นชอบ 14 เสียง
     ญัตติต่อมา เป็นญัตติขออนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2557 เพื่อไปตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ เป็นการโอนซื้อแอร์ภายในอาคารเทศบาลเมืองท่าบ่อหลังใหม่ วงเงิน 797,300 บาท และโอนเงินค่าตอบแทนพนักงานตรวจโรคสัตว์ วงเงิน 36,000 บาท มติที่ประชุมอนุมัติ 13 เสียง ไม่ขอออกเสียง 1 เสียง
     จากนั้นก็เข้าสู่ระเบียบวาระอื่นๆ ก่อนที่นายมานะชาย เจริญสุข ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ จะปิดการประชุมลงในเวลา 10.49 น.

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ศูนย์พัฒนาเด็กอุดรธานี และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน CCF ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เปิดค่ายศิลปะระดับโครงการ ให้เด็กได้สัมผัสวิถีชีวิตด้านเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการวาดภาพระบายสี ณ บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (24 พ.ย. 56) ที่อาคารฟ้าสวย สดใส บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ได้เป็นประธานเปิดค่ายศิลปะระดับโครงการ ประจำปี 2556 / 2557 ให้กับเด็กและเยาวชน CCF ของศูนย์พัฒนาเด็กอุดรธานี ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน CCF ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องเป็นระยะ 3 ปี



     ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ สัมผัสวิถีชีวิตด้านเศรษฐกิจพอเพียง และฝึกทักษะในด้านศิลปะการวาดภาพระบายสี พร้อมปลูกจิตสำนึกที่ดีงามให้มีคุณธรรมและจริยธรรม ในลักษณะพักแรมแบบกางเต็นท์นอน 3 วัน 2 คืน โดยมี “ครูแดง” นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย และเป็นเจ้าของสถานที่ เป็นวิทยากรให้ความรู้ในด้านเทคนิคการวาดภาพระบายสี ให้กับเด็กและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ที่เข้าร่วมเป็นเด็ก CCF ที่ผ่านคัดเลือกระดับเขตบริการ จำนวน 100 คน โดยผลงานของเด็กและเยาวชนที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ครูแดง จะส่งเข้าประกวดที่ประเทศญี่ปุ่นและระดับนาๆชาติ อีกด้วย.

หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง จับผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 909 เม็ด จักรยานยนต์ 1 คัน รับสารภาพทำมาแล้ว 1 ครั้ง

     ที่ สถานีเรือหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย นาวาเอกมรุเดช บุญนิตย์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย  นาวาตรีณัฐกิจ แสวงผล หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย, กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ อส. จ.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายอนุชา โกนากัน อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 196 ม.6 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมยาบ้า จำนวน 909 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้าพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ 1 คัน จับได้ที่บริเวณป่าริมฝั่งน้ำโขงท้ายหมู่บ้าน บ้านหินโงม ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย


     การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีการลักลอบส่งยาบ้ากันที่บริเวณดังกล่าว นาวาตรีณัฐกิจ แสวงผล หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย จึงได้จัดชุดปฏิบัติการออกไปดักซุ่ม จนกระทั่งพบผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเข้ามาจอดรถ และเดินไปหยิบเอาสิ่งของแล้วขึ้นรถออกมา เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่ได้แสดงตัวและขอตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 909 เม็ด จึงควบคุมตัวมา สถานีเรือหนองคายเพื่อทำการสอบสวน

     จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอนุชา ฯ รับสารภาพว่า รับมาจากผู้ค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำมาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งยาจำนวนดังกล่าวตนจะไปจำหน่ายให้กับผู้เสพในพื้นที่และเก็บไว้เสพเอง แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างแหล่งเรียนรู้ชุมชน เพื่อจัดตั้งห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ณ วัดสุคนธาราม อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (23 พ.ย. 546) ที่วัดสุคนธาราม ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พระครูสุคนธกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสุคนธาราม และเป็นเจ้าคณะตำบลกองนาง (มหานิกาย)  พร้อมด้วย นางสาวส่งศรี ดีศรีแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ และประชาชนทั่วไป ร่วมแห่ผ้าป่าสามัคคีทั้งเป็นปัจจัยและหนังสือ เพื่อทอดถวายให้วัดสุคนธาราม นำรายได้สร้างแหล่งเรียนรู้ชุมชน เพื่อจัดตั้งห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ณ หอไตรศรีโสธร ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับเยาวชนและประชาชน


     นางสาวส่งศรี ดีศรีแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า พระครูสุคนธกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดสุคนธาราม ได้เจริญพรมายังอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อจัดตั้งห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน วัดสุคนธาราม ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับเยาวชนและเป็นห้องสมุดที่มีชีวิต ซึ่งสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ดำเนินการรับบริจาคและจัดหาสื่อทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อให้บริการตามความต้องการของประชาชนในชุมชน ซึ่งพร้อมใช้ประโยชน์และเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดทำเป็นผ้าป่าสามัคคีขึ้น
     โดยได้ประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 5 ธันวาคม 2556 และมีพิธีถวายผ้าป่าทั้งเป็นปัจจัยและหนังสือ พิธีบายศรีสู่ขวัญแก่คณะผ้าป่า โดยมียอดผ้าป่าสามัคคีรวมทั้งสิ้น 188,462.50 บาท

รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานเปิดหอไตรปิฏกและพิพิธภัณฑ์ตำบลกองนาง และเปิดหอกัปปิยาคาร เพื่อกิจอเนกประสงค์ณ วัดสุคนธาราม อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

     เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (23 พ.ย. 56) ที่วัดสุคนธาราม ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นางสาวส่งศรี ดีศรีแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เป็นประธานในพิธีเปิดหอไตรปิฏกและพิพิธภัณฑ์ตำบลกองนาง ภายในบริเวณสวนพุทธสถาน วัดสุคนธาราม  และเปิดหอกัปปิยาคาร เพื่อกิจอเนกประสงค์ โดยมีนายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนทั่วไป ร่วมพิธีจำนวนมาก


     สำหรับหอไตรปิฏกและพิพิธภัณฑ์ตำบลกองนาง เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2551 และได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2556 โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างจากผู้มีจิตศรัทธา เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 5,330,000 บาท เพื่อให้เป็นสถานที่เก็บพระไตรปิฏก ฉบับรัชการที่ 5 และรัชการที่ 7 และเก็บหนังสืออักษรดั้งเดิมที่เป็นอักษรธรรมและอักษรขอม และเป็นสถานที่เก็บหนังสือสารคดีทางพระพุทธศาสนา หนังสือสารคดีทางประวัติศาสตร์ เช่น การแพทย์ การเกษตร กฎหมาย เป็นต้น
     อีกทั้ง ยังเป็นสถานที่เก็บรูปเหมือนพระมหาเถระต่างๆ ฝ่ายหนองคายและขอนแก่น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ สักการะ  เพื่อเป็นแหล่งของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจศึกษาหาความรู้ และยังเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมสิ่งของที่สำคัญในตำบลกองนาง
     สำหรับหอกัปปิยาคาร เพื่อกิจอเนกประสงค์ เปิดให้เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือต่างๆ และเป็นแหล่งค้นคว้าแก่เยาวชนและผู้ที่สนใจทั่วไป อีกด้วย.

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดกิจกรรมค่ายคณิตศาสตร์วิชาการ ให้ความรู้ แนะแนวทางการศึกษาแก่นักเรียน โรงเรียนบ้านกวดโคกสว่าง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 22 พ.ย. 56) ที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนบ้านกวดโคกสว่าง ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายคณิตศาสตร์วิชาการ ประจำปี 2556 สำหรับนักเรียนในระดับชั้น ป.5 – ม.3 ของโรงเรียนบ้านกวดโคกสว่าง โดยนักศึกษาชุมนุมคณิตศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดขึ้นและเป็นพี่เลี้ยงค่ายวิชาการ เพื่อให้ความรู้ แนะแนวทางการศึกษาแก่นักเรียนให้มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ รวมทั้งให้นักเรียนและนักศึกษาได้เรียนรู้ชีวิตของการอยู่ร่วมกัน



     โดยกิจกรรม จัดเน้นให้ทั้งความรู้และความสนุกสนานควบคู่กัน มีการสอบวัดความรู้ก่อนเรียน และเข้าฐานกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน เมื่อจบค่ายนักเรียนจะมีทัศนคติทีดีขึ้น รวมถึงมีความเข้าใจและเห็นความสำคัญของเนื้อหาวิชาการที่ถูกนำเสนอ อันจะส่งผลต่อการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวันของนักเรียน โดยมีนักศึกษาชุมนุมคณิตศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จำนวน 119 คน และนักเรียนในระดับชั้น ป.5 – ม.3 ของโรงเรียนบ้านกวดโคกสว่าง จำนวน 127 คน ร่วมกิจกรรมครั้งนี้

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อำเภอท่าบ่อ อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทย ลงแขกเกี่ยวข้าว ลดต้นทุนค่าแรงแพงถึง 350 บาท เป็นวิธีชีวิตแบบพอเพียง และสร้างความรัก ความสามัคคี ความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในหมู่บ้าน ชุมชน

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (18 พ.ย. 56) ที่แปลงนาข้าว ของนายสายันต์ ศรีภูมิภักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านน้อย หมู่ที่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยนายโสภณ สรรพศิลป์ นายก อบต.บ้านเดื่อ และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำหมู่/ชุมชน นักเรียนชั้น ป.5 และ ป. 6 โรงเรียนบ้านน้อย และชาวบ้านกว่า 70 คน ร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทย ลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าจ้างแรงงานให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ หลังค่าแรงปัจจุบันพุ่งสูงถึง 300-350 บาทต่อวัน และเป็นการร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมลงแขกเกี่ยวข้าว ที่เป็นวิธีชีวิตแบบพอเพียงและการสร้างความรัก ความสามัคคี ความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในชุมชน


     นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า วันนี้เราได้รณรงค์ลงแขกเกี่ยวข้าว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เราได้ดำเนิน โดยมีวัตถุประสงค์ อยากอนุรักษ์ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ซึ่งตำบลบ้านเดื่อ เป็นตำบลที่มีจิตใจเข้มแข็ง มีความรักความสามัคคีกลมเกรียว และยังคงอนุรักษ์ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวได้อย่างต่อเนื่อง และตำบลบ้านเดื่อยังมีอีกหลายหมู่บ้าน หลายครอบครัวยังคงอนุรักษ์ประเพณีนี้อยู่ จึงอยากให้นายโสภณ สรรพศิลป์ นายก อบต.บ้านเดื่อ ได้ส่งเสริมเรื่องนี้ และเราก็ได้ร่วมมือกันตั้งแต่ปีที่แล้ว อนุรักษ์กิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวมาด้วยกัน



     นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวอีกว่า นอกจากอนุรักษ์ประเพณีเกี่ยวข้าวแล้ว อำเภอท่าบ่อ ยังอยากปรารถนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของจังหวัดหนองคาย เรามียุทธศาสตร์ของการขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ ก็คือ ต้องการพัฒนาวิถีชีวิตของประชาชนให้เป็นวิธีชีวิตแบบพอเพียง ก็คือการเจริญรอยตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการถือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ  แล้วก็สิ่งที่สำคัญตามมาก็คือ เราอยากให้ประชาชนรู้จักความพอเพียง มีความมีน้ำใจ ช่วยกันอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามนี้ไว้ เพื่อสอดแทรกให้ลูกหลานของเราซึมซับความรู้สึกเช่นนี้ ให้เด็กนักเรียนได้รับการถ่ายทอด ความรู้สึก วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี เพื่อสืบต่อจากผู้ใหญ่ต่อไปในอนาคต ท่าเราทำตั้งแต่เด็กได้ ผู้ใหญ่ได้ และเรามีความเข้มแข็งอย่างนี้ได้ เราก็จะได้สังคมแห่งความพอเพียง และเราจะได้คนดีมีน้ำใจ ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โรงเรียนบ้านว่าน นำนักเรียนชั้น ม. 3 ลงแขกใช้เคียวเกี่ยวข้าวแบบโบราณในแปลงนาสาธิต 5 ไร่ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของชาวนาไทย พร้อมนำผลผลิตข้าวที่ได้สนับสนุนโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (15 พ.ย. 56) ที่ศูนย์เรียนรู้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บริเวณแปลงนาสาธิต โรงเรียนบ้านว่าน ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดโครงการลงแขกเกี่ยวข้าวแบบโบราณ สืบสานประเพณีไทย ที่โรงเรียนบ้านว่าน จัดขึ้น โดยมี นายสนิท อุตมะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านว่าน คณะครู อาจารย์ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน และเด็กนักเรียนของชั้น ม.3 ของโรงเรียนบ้านว่าน ให้การต้อนรับ และร่วมกันเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิต เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่


     นายสนิท อุตมะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านว่าน กล่าวว่า โรงเรียนบ้านว่าน เป็นโรงเรียนในโครงการ “ด้วยรักและห่วงใย” ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และต่อมาปีการศึกษา 2555ได้รับการประเมินเป็นโรงเรียนในฝันยอดเยี่ยม และในปี 2556 ก็ได้รับการคัดเลือกจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยท่านอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้พระราชกรณียะกิจและได้รับคัดเลือกเป็นศูนย์เรียนรู้อันดับหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ซึ่งศูนย์เรียนรู้มีทั้งหมด 12 โครงการ เช่น โครงการปลูกแก้วมังกร โครงการเลี้ยงไก่พันธุ์พื้นบ้าน โครงการเลี้ยงไก่ไข่ในบ่อปลา โครงการเลี้ยงเป็ดเทศ โครงการเลี้ยงปลาและกบ โครงการเพาะเห็ดนางฟ้า โครงการทำนาข่าว เป็นต้น     
     นายสนิท อุตมะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านว่าน กล่าวอีกว่า วันนี้มีนายอำเภอท่าบ่อ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวตำบลบ้านว่าน ได้มาช่วยลงแขกเกี่ยวข้าว ก็เกิดความภูมิใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาข้าวประมาณ 5 ไร่ เริ่มต้นด้วยแรงของเด็กนักเรียน ร่วมลงแขกดำนาได้ประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ก็ถึงฤดูที่จะต้องเก็บเกี่ยวแล้ว ท่านนายอำเภอท่าบ่อก็ได้นำคณะมาลงแขกเกี่ยวข้าว ผลผลิตก็เพื่ออาหารกลางวันของเด็กนักเรียนทุกคน รายได้ทุกบาททุกสตางค์ก็จะเป็นทุนในการพัฒนาในปีการศึกษาหน้า และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นการสอนให้นักเรียน ซึ่งเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้รู้จักวิธีการเกี่ยวข้าวแบบโบราณโดยใช้เคียวเกี่ยวข้าว เป็นที่ภาคภูมิใจของโรงเรียนบ้านว่าน อย่างยิ่ง  และยังได้รับการยกย่อง ชมเชย ชื่นชมจากทุกภาคส่วน ทำให้เด็กนักเรียนเกิดความภูมิใจในสถาบันตลอดไป.

อำเภอท่าบ่อ เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/2557 ได้แล้ว 1 จุด แต่ยังเงียบเหงา เนื่องจากอยู่ระหว่างเก็บเกี่ยว

     วันนี้ (15 พ.ย. 56) ที่ฉางข้าวโชคเจริญทรัพย์ เลขที่ 2917 บ้านว่าน หมู่ 2 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดรับจำนำข้าวเปลือก โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) จากโรงสีพาณิชเจริญธัญญา จ.สุพรรณบุรี มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี เริ่มนำข้าวเปลือกที่ทำการเก็บเกี่ยวแล้ว นำเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/2557 เป็นวันแรกที่เกษตรกรจะต้องนำข้าวเปลือกมาร่วมโครงการฯ บรรยากาศก็เป็นไปอย่างเงียบเหงา ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาร่วมโครงการไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในระหว่างทำการเก็บเกี่ยว


     โดยในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ มีโรงสีที่สามารถเปิดเป็นจุดรับจำนำข้าวได้ 2 แห่ง คือ จุดที่ 1 ที่ฉางข้าวโชคเจริญทรัพย์ อยู่ที่ตำบลบ้านว่าน และจุดที่ 2 ที่สหกรณ์การเกษตรอำเภอท่าบ่อ อยู่ที่ตำบลบ้านเดื่อ ที่ยังไม่สามารถเปิดจุดรับจำนำได้ เนื่องจากติดในเรื่องของเอกสาร อยู่ระหว่างดำเนินการ และเริ่มเปิดรับจำนำระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2556 รวม 30 วัน

     ทั้งนี้ ผู้ได้รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2556/2557 และของเกษตรกรเป้าหมายที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปี 2555/56 ให้ไปขอการออกใบรับรองที่สำนักงานเกษตรอำเภอได้ทันที เพื่อนำข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

     สำหรับราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/2557 รอบนี้ยังใช้ราคาเดิม คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 20,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 10 % เมล็ดยาว ตันละ 16,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 10 % เมล็ดสั้น ตันละ 15,000 บาท แต่จำกัดวงเงินรับจำนำครัวเรือนละ 350,000 บาท ลดลงจาก 500,000 บาท โดยราคารับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมจังหวัด และข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ให้ปรับเพิ่ม-ลดตามจำนวนกรัม ในอัตรากรัมละ 200 บาท และราคารับจำนำข้าวเปลือกเหนียว ให้ปรับเพิ่ม-ลดตามจำนวนกรัม โดยเมล็ดยาวในอัตรากรัมละ 160 บาท และเมล็ดสั้นในอัตรากรัมละ 150 บาท.

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย มอบผ้าห่มให้กับประชาชน จำนวน 500 ผืน เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และประสบภัยหนาวในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ทั้ง 90 หมู่บ้าน

     เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (15 พ.ย.  56) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ และหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนผู้ยากไร้และประสบปัญหาภัยนาว ในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ ทั้ง10 ตำบล 90 หมู่บ้าน จำนวน 500 ผืน ซึ่งเป็นโครงการ ของกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย


     ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินโครงการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และกระทรวงมหาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ปี 2556 – 2557” โดยกำหนดให้มีการส่งมอบเสื้อผ้าห่มกันหนาว จำนวน 100,000 ตัว เครื่องกำเนิดไฟฟ้าฮอนด้า จำนวน 30 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำฮอนด้าพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 30 เครื่อง ให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

     สำหรับจังหวัดหนองคาย ได้รับมอบเสื้อผ้าห่มกันหนาวจำนวน 8,000 ตัว แยกเป็น อ.เมือง 500 ตัว , อ.ท่าบ่อ 500 ตัว , อ.ศรีเชียงใหม่ 600 ตัว , อ.โพธิ์ตาก 1,100 ตัว , อ.สังคม 1,000 ตัว , อ.โพนพิสัย 1,000 ตัว , อ.รัตนวาปี 1,400 ตัว , อ.เฝ้าไร่ 1,400 ตัว และ อ.สระใคร 500 ตัว.

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กลุ่มงานคลินิกเบาหวาน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดกิจกรรมวันเบาหวานโลก ประจำปี 2556 ภายใต้คำขวัญ “พิทักษ์อนาคตไทย พ้นภัยเบาหวาน” เน้นกลุ่มเป้าหมายอายุ 15 ปีขึ้นไป ให้รู้ถึงอันตรายและผลกระทบอันร้ายแรงของโรคเบาหวาน

     เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (14 พ.ย. 56) ที่อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์วันเบาหวานโลก ประจำปี 2556 ที่ กลุ่มงานคลินิกเบาหวาน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงอันตรายและผลกระทบอันร้ายแรงของโรคเบาหวาน ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานของประชาชน


     ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันเบาหวานโลก โดยกำหนดประเด็น การให้ความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน ภายใต้คำขวัญว่า “พิทักษ์อนาคตไทย พ้นภัยเบาหวาน” เพื่อมุ่งเน้นความรู้ในการป้องกันโรคเบาหวานในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย โดยเน้นประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการตื่นตัวในการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคไม่ติดต่ออื่นๆที่สำคัญ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และอื่นๆ ให้กับบุคลากรและประชาชนทั่วไป

      ซึ่งคลินิกเบาหวาน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ได้ดำเนินการให้ความรู้ยึดหลัก 3 อ. 2 ส.ในการดูแลสุขภาพคือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ และงดเว้นการสูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา ให้ความรู้ในวิธีป้องกันและชะลอการเกิดเบาหวาน จัดบริการคัดกรองเบาหวานแก่ประชาชน พร้อมทั้งให้คำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ตามมา และมีการเล่นเกมตอบปัญหาชิงรางวัล โดยมีนักเรียนในระดับชั้น ม. 5 ของโรงเรียนท่าบ่อ ร่วมกิจกรรมจำนวน 362 คน.

อำเภอท่าบ่อ ประชุมคณะกรรมการบริหารระดับอำเภอ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อพิจารณาหารือการจัดทำคำของบประมาณ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามวิถีชุมชน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรองรับประชาคมอาเซี่ยน ประจำปีงบประมาณ 2558

     วันนี้ (14 พ.ย. 56) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ได้เป็นประธานเปิดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารระดับอำเภอ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ในเรื่องการจัดทำคำของบประมาณแผนปฏิบัติราชการ ของจังหวัดหนองคาย


     สืบเนื่องจาก สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองคาย ได้เชิญอำเภอต่างๆ ในพื้นที่ 9 อำเภอ ประชุมเพื่อพิจารณาหารือการจัดทำของบประมาณโครงการ ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยขอให้อำเภอทุกอำเภอจัดทำคำของบประมาณ ตามหลักเกณฑ์และสอดคล้องต่อประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ของจังหวัดหนองคาย ปี 2558-2561 ในการพัฒนาคน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เป็นเมืองน่าอยู่ ในวงเงินอำเภอละประมาณ 1,000,000 บาท ตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามวิถีชุมชน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรองรับประชาคมอาเซี่ยน ประจำปีงบประมาณ 2558

     ดังนั้นอำเภอท่าบ่อ จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหารระดับอำเภอ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ และมีส่วนร่วมในการเสนอโครงการฯดังกล่าว ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อ และให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การจัดทำแผนราชการประจำปี 2558 ของจังหวัดหนองคาย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามหลักเกณฑ์และสอดคล้องต่อประเด็นยุทธศาสตร์ และการจัดทำคำของบประมาณโครงการ ให้เกิดการบูรณาการในระดับอำเภอ ต่อไป.

นายอำเภอท่าบ่อ ประชุมคณะกรรมการทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมจัดงาน “คนรักท่าบ่อ พบกันที่หน้าอำเภอ” เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีชาวอำเภอท่าบ่อ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้(14 พ.ย. 56) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ตลอดจนกลุ่มบุคคลต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงาน “คนรักท่าบ่อ พบกันที่หน้าอำเภอ” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2556


     ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์ เสริมสร้างความรักความสามัคคีชาวอำเภอท่าบ่อ และเสริมสร้างความใกล้ชิดจากหน่วยงานให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อเป็นการร่วมสังสรรค์ส่งท้ายปีเก่า 2556 และต้อนรับการเข้าสู่ปีใหม่ 2557 ในวันที่ 26 ธันวาคม 2556 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งอาจมีรูปแบบการจัดงานเหมือนปีที่ผ่านมา และเพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมในการจัดงาน เช่น ฝ่ายสถานที่ การแสดงและการบันเทิง การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน รำวงย้อนยุค การประกวดร้องเพลง การประกวดบทกลอนเกี่ยวกับอำเภอท่าบ่อเป็นต้น โดยทุกภาคส่วนต่างๆ ให้นำอาหารและเครื่องดื่มร่วมสนับสนุนการจัดงาน และจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อประกวดซุ้มอาหาร ประกวดอาหารอร่อยเพื่อสุขภาพและปลอดภัย คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 40 ซุ้ม จากหน่วยงานต่างๆ คอยบริการประชาชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม

    โดยก่อนเปิดกิจกรรม ผู้ที่เข้าร่วมงานทั้งหมดจะร่วมร้องเพลง 5 ร. 5 รัก เพื่อสนองนโยบายของท่านผู้ว่าราชการจังวัดหนองคาย แสดงถึงการรวมพลังสามัคคีของชาวอำเภอท่าบ่อ ให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของจังหวัดหนองคาย อีกด้วย. 

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จังหวัดหนองคาย เตรียมจัดงานวันพระบิดาแห่งฝนหลวง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 14 พฤศจิกายน นี้


     นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น วันพระบิดาแห่งฝนหลวงและเห็นชอบให้มีการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ทรงริเริ่มโครงการฝนหลวงขึ้นมา เพื่อบรรเทาทุกข์ยากแก่มวลพสกนิกรให้รอดพ้นจากความเดือดร้อนเสียหายอันเกิดจากภัยแล้งอย่างสัมฤทธิ์ผล จนเป็นที่ประจักษ์ชัดในพระปรีชาสามารถ ในฐานะที่ทรงเป็น พระบิดาแห่งฝนหลวง และถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และปวงชนชาวไทย ที่เวียนมาบรรจบครบรอบเป็นปีที่ 48 นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริ ริเริ่มโครงการฝนหลวงขึ้นในประเทศไทย
     ดังนั้นจังหวัดหนองคาย โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนัดจัดพิธีวางพานพุ่มและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ในวันที่ 14 พ.ย.56 เวลา 08.00 น. ณ หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
     สำหรับการแต่งกายของผู้เข้าร่วมพิธีฯ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ชุดเครื่องแบบปกติขาวหรือชุดปฏิบัติงานแขนยาว ทหาร ตำรวจ ชุดปกติขาว คาดกระบี่ ถุงมือ ประชาชนทั่วไป ชุดสุภาพ และนักเรียนนักศึกษา เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา พร้อมเข้าร่วมพิธีตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าว โดยพร้อมเพรียง

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย มอบผ้าห่มให้กับประชาชนชาวอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย จำนวน 600 ผืน หลังภัยหนาวเริ่มมาเยือน

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 พ.ย.  56) ที่หอประชุมอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายสำเริง สำราญรมย์ ปลัดอาวุโสอำเภอศรีเชียงใหม่ ปฏิบัติราชการแทนนายอำเภอ และกรรมการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมกันมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประชาชนชาวอำเภอศรีเชียงใหม่ จำนวน 600 ผืน ตามโครงการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และกระทรวงมหาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ปี 2556-2557”


     ทั้งนี้ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาความหนาวเย็นและทุกข์ยากให้แก่พี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆที่ประสบปัญหาภัยหนาว และยังดำเนินกิจกรรมด้านการป้องกันบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การมอบเรือพร้อมอุปกรณ์และสิ่งของยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การฝึกอบรมค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว

     สำหรับปีนี้ กองทุนฮอนด้าฯได้มอบผ้าห่มจำนวน 100,000 ผืน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยทั่วประเทศ เบื้องต้นมี 12 จังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังขาดแคลน.

นรข.สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ตรวจยึดไม้พะยูง อายุกว่า 50 ปี 4 ท่อน มูลค่า 1.5 ล้านบาท ก่อนส่งข้ามโขงไปลาว และยังพบตราประทับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกท่อนของไม้พะยูง

     เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 10 พ.ย. 56  ที่สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นาวาเอกมรุเดช บุญนิตย์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย (ผบ.นรข.เขตหนองคาย) พร้อมด้วยนาวาตรีบุญเชิด กุลอำภา หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี, ตำรวจ สภ.รัตนวาปี, หมวด ตชด. 2441 ฐานเปงจาน และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.1 (หนองหลวง)  แถลงข่าวยึดไม้พะยูงขนาดใหญ่ อายุประมาณ 50-60 ปี เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 80–110 ซม. ยาว 180 – 450 ซม. กองรวมกันอยู่จำนวน 5 ท่อน ในป่าละเมาะ ปริมาตร 1.965 ลบ.ม. มูลค่า 1,500,000 บาท ที่บ้านรัตนวาปี ม.10 ต.รัตนวาปี แต่ไม่พบผู้ใดอยู่ในที่ตรวจพบ จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน


     จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบว่า ก่อนหน้านี้ขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงได้นำรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 1 คัน และรถกระบะอีก 2 คัน เข้ามาขนไม้พะยูงไปแล้วจำนวนหนึ่ง และจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า ไม้พะยูงแต่ละท่อนมีการตอกประทับอักษรตัว ” “และ ที่บอกปีและจำนวนท่อนในการตอกโค้ตไว้
     ซึ่งจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บอกว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ที่ถูกตรวจ ในปี 56 นี้ และถูกปล่อย ในปีเดียวกัน โดยไม่ทราบว่าเป็นไม้ที่ถูกตรวจในพื้นที่ใด ส่วนอักษร แสดงว่าเป็นไม้ที่ถูกปล่อยเมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว ซึ่งจากตราที่ตอกประทับ สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นไม้จากที่ใด เนื่องจากผู้มีค้อนตอกจะเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้เท่านั้น

     ขณะที่ชุดจับกุมได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ เป็นไม้ใหม่ ทำไมการดำเนินคดีจึงสิ้นสุดลงในช่วงระยะเวลาอันสั้น ทั้งๆที่คดีไม้พะยูงที่ตรวจยึดได้ในพื้นที่มีจำนวนมาก หรืออาจมีการขึ้นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ขณะขนย้ายก็อาจเป็นได้ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไม้ของกลางนำส่ง สภ.รัตนวาปี เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทรูวิชั่นส์เอาใจคนหนองคาย เปิดตัว “นิว ซูเปอร์ แฟมิลี่” แพกเกจใหม่ล่าสุด ในราคา 899 บาทต่อเดือน ที่รวบรวมช่องรายการฮิตไว้ถึง 146 ช่อง และช่องระบบเอชดีอีก 32 ช่อง พร้อมบริการทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ “ฟรี” เพียงใช้งานบนเครือข่ายทรูมูฟเอช 4G LTE และ 3G พร้อมเกาะติดศึกลูกหนัง “ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก” ผ่านแอพลิเคชั่น “ทรูวิชั่นเอนิแวร์ 2.0” เพียงแมตช์ละ 39 บาท

     เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 56 ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กเจียง อ.เมือง จ.หนองคาย ทรูวิชั่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์แพกเกจต่างๆ ของทางบริษัทที่ได้มอบให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการของทรูวิชั่นส์ โดยเฉพาะ นิว ซูเปอร์ แฟมิลี่ แพกเกจซึ่งเป็นแพกเกจใหม่ล่าสุด ที่รวบรวมสุดยอดรายการที่หลากหลายเอาใจคนหนองคาย และสำหรับทุกคนในครอบครัว เอาในคุณหนูๆด้วยการ์ตูนและรายการเด็กคุณภาพสร้างสรรค์จิตนาการ เช่น ช่องดิสนีย์ แชนแนล, ดิสนีย์ จูเนียร์ และดิสคัฟเวอรี่คิดส์ ถูกใจคุณแม่ด้วยหนังบล็อกบัสเตอร์ และซีรีส์ฮิตกว่า 20 ช่อง ทั้งไทย เอเชีย และฝรั่ง พร้อมทั้งวาไรตีแฟชั่นไลฟ์สไตล์


      ทรูวิชั้น ยังได้เอาใจคอกีฬา ด้วยกีฬาระดับแชมป์ชนแชมป์ อย่างฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก, มวยชิงแชมป์โลก, กอร์ฟ หรือเทนนิส ATP และอีกมากมาน ครบทุกสาระความบันเทิง รวมจำนวน 146 ช่อง ชมแบบคมชัดในระบบเอชดีถึง 32 ช่อง ด้วยค่าบริการเดือนละ 899 บาท พร้อมทั้งยังสามารถรับชมทรูวิชั่นส์ได้ทุกที่ทุกนาทีบนมือถือ หรือสมาร์ท ดีไวช์ ผ่านบริการทางทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ เป็นแพลทินัม “ฟรี” นานถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2557 เพียงใช้งานบนเครือข่ายทรูมูฟเอช 4G LTE และ 3G หรือผ่าน  WiFi

     ทรูวิชั่น ยังได้เปิดบริการใหม่เอาใจคอบอลทุกคน กับการเกาะติดศึกลูกหนัง “ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก” ผ่านแอพลิเคชั่น “ทรูวิชั่นเอนิแวร์ 2.0” เพียงแมตช์ละ 39 บาท หรือเลือกซื้อแบบเหมาเป็นแพ็กเกจ 159 บาท ชมได้มากกว่า 16 คู่ต่อแพ็กเกจ และดูย้อนหลังได้ทุกแมตช์ที่สั่งซื้อจนจบฤดูกาลนี้.  

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ครูแดง ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย นำน้องๆหนูๆ ลงเกี่ยวข้าวกลางทุ่งนาของบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง พร้อมเปิดสอนศิลปะ เพื่อให้น้องๆหนูๆ ได้รับประสบการณ์ตรงในวิถีชาวนาไทย

       เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (10 พ.ย. 56) ที่บ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายเฉลิมศักดิ์ ธรรมเรืองฤทธิ์ หรือว่า ครูแดง ประธานชมรมศิลปะเด็กบ้านศิลป์ไทย ได้เปิดค่ายจัดกิจกรรม “ค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว” ซึ่งเป็นค่ายลำดับที่ 43 โดยการนำน้องๆหนูๆ ตั้งแต่อายุ 4 ขวบขึ้นไป จำนวน 12 คน ลงเกี่ยวข้าวที่บริเวณกลางท้องทุ่งนาของบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง
     ก่อนการลงมือเกี่ยวข้าว ครูแดง ได้ทำการสาธิตวิธีการเกี่ยวข้าวที่ถูกต้องให้น้องๆหนูๆ ได้เข้าใจ พร้อมนำเคียวเกี่ยวข้าวที่ทำจากกระดาษมอบให้กับเด็กๆ และลงลุยเกี่ยวข้าวกันอย่างสนุกสนาน โดยมีครูแดงทำการสอนวิธีเก็บเกี่ยวอย่างใกล้ชิด ซึ่งเด็กๆยังได้ร่วมสัมผัสชีวิตชาวนาแบบดั้งเดิม ด้วยการลงมือฟาดและสีข้าว พร้อมเยี่ยมชมฉางเก็บข้าวที่นับวันจะไม่หลงเหลือให้เห็นแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะลงมือวาดภาพระบายสี โดยใช้ความรู้สึกและจินตนาการของชาวนาไทยออกมาวาดภาพระบายสีลงบนแผ่นกระดาษที่ครูแดงมอบให้ ซึ่งน้องๆหนูๆ ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นอย่างดี โดยมี ครูเบิ้ม นายไพบูลย์ ธรรมเรืองฤทธิ์ ประธานชมรมบ้านเติมศิลป์ กทม. ร่วมสอนเทคนิควาดภาพให้กับน้องๆหนูๆ ด้วย
     พร้อมกันนี้ นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ยังได้เดินทางมาร่วมเป็นเกียรติ มาเป็นประธานมอบใบเกียรติบัตร ให้กับเด็กๆที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 12 คน และร่วมลงมือเกี่ยวข่าวกับน้องๆหนูๆ อย่างสนุกสนานและเป็นกันเองอีกด้วย


     ครูแดง กล่าวว่า การจัดกิจกรรม “ค่ายศิลปะการเกี่ยวข้าว” ในครั้งนี้ เป็นค่ายเล็กๆสำหลับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป ที่มีพ่อ แม่ ผู้ปกครองประกอบอาชีพอื่น นอกเหนือจากอาชีพทำนา เพื่อให้เด็กๆเหล่านี้ได้รู้จักคำว่า “หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน” ซึ่งมีความหมายที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตชาวนา อันเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวนาไทย ควรแก่การศึกษาอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม โดยได้นำเด็กๆเหล่านี้ร่วมกิจกรรมทุกขั้นตอนของการทำนา ด้วยการนำเด็กๆลงดำนาในกิจกรรม “ค่ายศิลปะการดำนา” เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เมื่อต้นข้าวถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็นำเด็กๆมาทำการเก็บเกี่ยวข้าว ฟาดข้าวและสีข้าว

     ครูแดง ยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากจัดกิจกรรมเก็บเกี่ยวเสร็จ ก็จะเป็นกิจกรรมการวาดภาพระบายสีในบริเวณบ้านทุ่งศิลป์ครูแดง ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติตลอดทั้งวัน มีการประเมินผลงานและมอบรางวัลตามคุณภาพผลงานของเด็กๆ  และผลงานที่สร้างสรรค์ในครั้งนี้จะส่งไปร่วมการประกวดที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป. 

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ชมรมแรลลี่การกุศล (ประเทศไทย) จัดการแข่งขันแรลลี่ ชาริตี้ ไทย 2013 สนามอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นำเงินรายได้สมทบกฐินพระราชทาน ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ครั้งที่ 16 ณ วัดสว่างอารมณ์


      วันนี้ (9 พ.ย. 56) ที่สนามแข่งแรลลี่ชั่วคราว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้มีการจัดการแข่งขันแรลลี่การกุศล ภายใต้ชื่อ แรลลี่ ชาริตี้ ไทย 2013 อำเภอศรีเชียงใหม่ โดยชมรมแรลลี่การกุศล (ประเทศไทย) จัดขึ้น เพื่อนำเงินรายได้สมทบกฐินพระราชทาน ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ครั้งที่ 16  เพื่อสร้างอุโบสถของวัดสว่างอารมณ์ บ้านหนองแหวง ต.พานพร้าว ให้แล้วเสร็จ โดยมีนายรุ่งโรจน์ เนฟเวอร์ดายส์ ประธานชมรมแรลลี่การกุศล (ประเทศไทย) เป็นประธานจัดแข่งขัน และนายพรชัย ปุริวัฒน์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ เป็นมอบถ้วยรางวัล

     นายรุ่งโรจน์ เนฟเวอร์ดายส์ ประธานชมรมแรลลี่การกุศล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ชมรมแรลลี่การกุศล (ประเทศไทย) ได้รับพระราชทานผ้ากฐิน จากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้นับว่าเป็นครั้งที่ 16 ได้นำมาทอด ณ วัดสว่างอารมณ์  และถือเอาโอกาสนี้จัดกิจกรรมการแข้งขันแรลลี่ดังกล่าวขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “Rally Charity Thai 2013 อำเภอศรีเชียงใหม่” เพื่อนำรายได้สมทบทุนกฐินพระราชทาน สร้างอุโบสถของวัดสว่างอารมณ์ ให้แล้วเสร็จต่อไป.

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมสภาวะทันตสุขภาพ สร้างเสริมสุขภาพช่องปากให้กับประชาชนทั่วไป

     เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (7 พ.ย. 56) ที่ลานมิ่งมิตร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ทันตแพทย์หญิง ดร.อุมาพร ท่อแก้ว ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ส่งเสริมสภาวะทันตสุขภาพ ที่แผนกกลุ่มงานทันตกรรม จัดขึ้น เพื่อสนับสนุนให้มีการเผยแพร่ความรู้ สร้างกระแสและเสริมพลังให้แก่กลุ่มเป้าหมายในหมู่บ้าน ชุมชน ได้เห็นความสำคัญและมีทักษะในการทำความสะอาดช่องปากอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง มุ่งหวังการมีสุขภาพช่องปากที่ดี



     โดยภายในงาน ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมสภาวะทันตสุขภาพ ด้วยการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากให้กับประชาชนทั่วไป โดยให้บริการด้านทันตกรรม ได้แก่ ถอนฟัน อุดฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน ขูดหินน้ำลาย และกิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพทุกกลุ่มวัย  เน้นลูกรักฟันดี เริ่มที่ซี่แรก โดยทีมทันตแพทย์  ทันตบุคลากร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ร่วมการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมสภาวะทันตสุขภาพ ครั้งนี้ มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก.

บรรดาแพทย์ พยาบาล นักศึกษา และพลังมวลชนชาวหนองคาย เดินรณรงค์ต่อต้านไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คนผิดต้องถูกดำเนินคดี ไม่มีล้างผิดให้คนโกง นักการเมืองอย่าดูถูกคนไทย

     วันที่ 6 พ.ย. 56 ที่ลานน้ำพุพญานาค หน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ อ.เมือง จ.หนองคาย กลุ่มแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย และประชาชนชาวหนองคาย ร่วมกันชุมนุมพร้อมจัดทำป้ายข้อความคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ล้างผิดให้คนโกง ทั้งถือธงชาติ และร่วมกันเป่านกหวีด โดยไม่มีใครเป็นแกนนำ ทั้งยังใช้โทรโข่งสลับกันปราศรัย คัดค้าน แสดงความไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในแง่มุมต่างกันออกไป ก่อนที่จะเดินขบวนเป่านกหวีดไปตามถนนประจักษ์ และถนนมีชัย ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย บ้างร้องตะโกนขับไล่นายกรัฐมนตรี จากนั้นจึงแยกย้ายสลายตัวกันไป


     ทันตแพทย์สิทธิโชค รัตนสุวรรณ โรงพยาบาลหนองคาย กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การมาในครั้งนี้เป็นเรื่องของการบ้าน ไม่เกี่ยวกับการเมือง และไม่ใช่งานของโรงพยาบาล เป็นความเห็นส่วนตัวที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ทำให้ระบบของประเทศเสื่อมเสีย คนผิดต้องว่าไปตามผิด ไม่ควรล้างผิดให้คนโกง ระบบยุติธรรมต้องศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ นักการเมืองไม่พอใจจะแก้กฎหมายเพื่อให้พวกพ้องตัวเองได้ประโยชน์ ทำทุกวิถีทางเพื่อคนคนเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

     ขณะที่หลายคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็น พ.ร.บ.ที่อัปยศ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ แก่คนไทย ไม่ใช่การปรองดอง หรือแก้ไขความแตกแยกของคนในชาติ ทำเช่นนี้ยิ่งเป็นการทำลายประเทศ ทำลายระบบนิติรัฐให้เสียหาย บ้านเมืองไร้กฎหมายให้พึงปฏิบัติ อย่าดูถูกคนไทยและพลังเงียบที่ไม่ได้สังกัดเสื้อสีไหน ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่เป็นคนไทยที่อยู่ในกฎหมาย และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ.

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หนุ่มใหญ่ชาว อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ปั่นจักรยานรอบเมืองหนองคาย เชิญชวนประชาชนและพลังเงียบออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ยกโทษให้คนผิดและคนโกง


     วันนี้ (6 พ.ย.56) ที่หน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อหนองคาย นายธนัตชัย วรรณชัยวัตร อายุ 42 ปี ชาวตำบลชุมช้าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้ปั่นจักรยานรอบเมืองเพื่อรณรงค์และเรียกร้องประชาชนและพลังเงียบออกมาคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม โดยให้เหตุผลว่า พ.ร.บ.นี้ เป็นกฎหมายที่ฉาบฉวย มีเวลาพิจารณาเพียงคืนเดียว ทำไมต้องนิรโทษให้คนโกง คนคอรัปชั่น เรื่องอื่นๆที่ประชาชนเดือดร้อนยังมีอีกมาก และถ้าคุณทักษิณบอกว่าไม่ต้องการเงินจำนวน 46,000 ล้านบาท ขอให้คุณทักษิณประกาศได้ไหมว่าเงินจำนวนนี้ไม่ขอคืน การออกมาของตนในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีพรรคไม่มีสี จึงเชิญชวนประชาชนและพลังเงียบที่รักชาติ ออกมาแสดงจุดยืนด้วยความสงบ.


เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย จับอดีตนักโทษคดียาเสพติดพ้นโทษมาเพียง 2 ปี หวนกลับมาทำผิดอีกได้ยาบ้า 988 ซุกซ่อนมาในทวารหนัก

     วันนี้ (6 พ.ย.56) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว อ.เมือง จ.หนองคาย นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายมงคล ช่างเงิน อายุ 57 ปี อยู่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน และพันด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 2 ก้อน จำนวน 988 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนมาในช่องทวารหนัก ขณะนายมงคลฯ ลงจากรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ เข้าทำพิธีการผ่านแดนที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หนองคาย ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเข้าห้องตรวจเอ็กซเรย์ พบวัตถุต้องสงสัยภายในทวารหนัก จึงให้ขับถ่ายออกมา



     จากการสอบสวน นายมงคลฯ ให้การรับสารภาพว่า เคยติดคุกและเพิ่งพ้นโทษคดีจำหน่ายยาบ้า จากเรือนจำอุดรธานี เมื่อปี 2554 ระหว่างติดคุกอยู่ได้รู้จักกับ ท้าวหำน้อย ชาวลาว และพ้นโทษออกมาพร้อมกัน หลังพ้นโทษกลับไปอยู่บ้านไม่มีงานทำ จึงได้ติดต่อกับท้าวหำน้อย เพื่อซื้อยาบ้าและนัดกันให้ไปรับ จากนั้นตนจึงยัดยาบ้าทั้งหมดเข้าซุกซ่อนไว้ในรูทวารหนัก เพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปขายให้กับวัยรุ่นและกลุ่มผู้ใช้แรงงานในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง แต่ก็มาถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระกฐินให้ธนาคารออมสินทอดถวาย ณ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จังหวัดหนองคาย ได้ยอดพระกฐินกว่า 5 ล้านบาท


     เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (3 พ.ย.56) ที่วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมือง จ.หนองคาย นางชูจิรา กองแก้ว ประธานกรรมการธนาคารออมสิน ได้เป็นประธานในพิธีทอดผ้าพระกฐิน พระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จัดขึ้นภายในพระอุโบสถ อันเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย โดยมีพระธรรมมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเข้าร่วมพีจำนวนมาก



     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระกฐินให้ธนาคารออมสินนำมาถวายพระสงฆ์จำพรรษาครบไตรมาส ณ วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและถวายจตุปัจจัยถวายเป็นพระราชกุศล ถวายทำบุญและบูรณะพระอาราม รวมจำนวนทั้งสิ้น 5,000,999 บาท และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทำบุญ อีก 251,314 บาท รวมเป็นยอดพระกฐินทั้งสิ้น 5.252,313 บาท (ห้าล้านสองแสนห้าหมื่นสองพันสามร้อยสิบสามบาทถ้วน)

หนองคาย เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน


     เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 56 ที่โรงแรมรอยัลแม่โขง อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งในเวทีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำกรณี "โครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และแก้ปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย" ที่ จ.หนองคาย ได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมี นายจำรัส ศักดิ์จิรพาพงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายอโณทัย ธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และผู้แทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ รวมทั้งผู้มีชื่อเสียงใน จ.หนองคาย เข้าร่วมประชุมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ด้วย



     ซึ่งการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีประชาชนสนใจเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นเป็นจำนวน 202 คน จากกลุ่มข้าราชการ หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ผู้สังเกตการณ์ และกลุ่มสื่อมวลชนจากทุกอำเภอของจังหวัดหนองคาย โดยได้มีทีมวิทยากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มาให้ความรู้