วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - สภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ อนุมัติเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 กว่า 13 ล้านบาท

       วันนี้ (28 ก.ย. 58) ที่ห้องประชุมท่าเสด็จ สำนักงานเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายมานะชาย เจริญสุข ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้เปิดประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ สมัยวิสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2558 โดยมีวาระสำคัญในข้อราชการจำเป็นที่ต้องขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ เรื่องขออนุมัติญัตติต่างๆ ประจำปี 2558 โดยมีนายนายประภาส นครพักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ เข้าร่วมประชุมพร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการของเทศบาลฯ

       นายประภาส นครักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ ได้กล่าวว่า ตามที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้พิจารณาอนุมัติเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ไปแล้วนั้น บัดนี้ได้มีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทมากขึ้น ประกอบกับมีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ จึงตราเทศบัญญัติฉบับนี้ไว้โดยความเห็นชอบสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ และโดยอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นการจ่ายจากหมวดเงินอุดหนุนทั่วไป งานบริหารทั่วไปเกี่ยวกับอุตสาหกรรมและการโยธา งบประมาณรายจ่ายรวมทั้งสิ้น 13,240,000 บาท ซึ่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้ยกมืออนุมัติจำนวน 14 เสียงเป็นเอกฉันท์ งดออกเสียง 1 เสียง 

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - กระทรวงพลังงาน ร่วมกับศูนย์วิจัยพลังงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดโครงการศึกษาพัฒนาต้นแบบระบบบ่อเลี้ยงปลาแสงอาทิตย์สำหรับชุมชน เพื่อเป็นแหล่งอาหารโปรตีนอย่างยั่งยืน ให้กับกลุ่มเลี้ยงปลาชุมชนบ้านหนองบ่อ จ.หนองคาย

       วันนี้ (27 มิ.ย. 58) ที่กลุ่มเลี้ยงปลาชุมชน หมู่ 7 บ้านหนองบ่อ ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย นายยงยุทธ์ สวัสดิสวนีย์ ผอ.สำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นประธานมอบต้นแบบระบบเลี้ยงปลาแสงอาทิตย์ โครงการศึกษาพัฒนาต้นแบบระบบบ่อเลี้ยงปลาแสงอาทิตย์สำหรับชุมชน ปี 2557 ให้กับกลุ่มเลี้ยงปลาชุมชนบ้านหนองบ่อ หมู่ 7 ต.ปะโค  ซึ่งเป็นความร่วมมือกับศูนย์วิจัยพลังงาน วิทยาลับพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารโปรตีนจากสัตว์น้ำให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยมี ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ ดุษฎี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพลังงาน มหาวิทยาลัยแม่โจ้, นายสมเกียรติ แก้วพิลา นายกเทศมนตรีตำบลปะโค และประชาชนร่วมพิธี
       ทั้งนี้ การวิจัยได้ทำการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 33 กลุ่มเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมและสาธิตระบบบ่อเลียงปลาแสงอาทิตย์  และได้คัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่, อ.เมือง จ.เลย และ ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณจัดสร้างโรงเรือนขนาดกว้าง 7.5 เมตร ยาว 18 เมตร มีบ่อขนาด 5 คูน 5 เมตร 3 บ่อ มูลค่า 180,000 บาท เกษตรกรสามารถใช้เลี้ยงปลาดุกอุย กบ ปลาหมอ และกุ้งก้ามกรามได้ ทั้งนี้ยังได้พัฒนาสูตรอาหาร เพื่อให้เกษตรกรผลิตอาหารใช้เอง โดยบ่อเลี้ยงปลาพลังงานแสงอาทิตย์จะมีระยะเวลาของผ้าใบ 7-10 ปี และโครงเหล็กประมาณ 25 ปี และระบบยังสามารถควบคุมอุณหภูมิของน้ำที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของปลา ทำให้ปลาโตเร็วขึ้น ขายได้เร็วขึ้น เลี้ยงปลารอบใหม่ได้เร็วขึ้น ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีรายได้เพิ่มขึ้น
       นายยงยุทธ์ กล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างบ่อพลังงานแสงอาทิตย์กับบ่อดินธรรมดา  ก็คือเรื่องการควบคุมอุณหภูมิ  ปลาจะมีการเติบโตได้ดีก็คือช่วง 28-32 องศา ท่าเราเลี้ยงด้วยบ่อธรรมดาหรือบ่อดิน จะเป็นสาเหตุของการเจริญเติบโตของปลาช้า ซึ่งอากาศในช่วงฤดูหนาวจะลดถึง 10 องศา บางทีปลาก็ไม่ทานอาหาร อุณหภูมิไม่ดี ไม่โต  ซึ่งเรารู้ความสำคัญของจุดนี้ก็เลยเป็นบ่อที่สามารถควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม พอได้อุณหภูมิที่ดีแม้ในหน้าหนาวที่มีอุณหภูมิแตกต่างทั้งกลางวันและกลางคืนมาก  ปลาก็ยังอยู่ได้สบายด้วยอุณหภูมิที่เราควบคุม  และปลาก็จะทานได้ตามปกติ การเจริญเติบโตก็จะได้เจริญเติบโตได้สมบูรณ์มากขึ้น เกษตรกรก็จะสามารถนำไปขายราคาดีด้วย ขายราคาสูง นี่คือความแตกต่างที่ว่าทำไมเราถึงน้ำบ่อเลี้ยงมาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ชายวัย 41 ลงเล่นน้ำในหนองน้ำของหมู่บ้าน โชคร้ายตะคริวกินจมน้ำหาย ต้องระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงงมนานกว่าชั่วโมงจึงพบศพ

       วันนี้( 26 ก.ย. 58)  ร.ต.ท.เชาวลิต ศรีไพร พงส.สภ.ศรีเชียงใหม่ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุคนจมน้ำที่หนองน้ำของหมู่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ขณะนี้ยังหาศพไม่พบ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมนำเรือและนักประดาน้ำจาก ขรข.เขตหนองคาย และกู้ภัยประจักษ์หนองคาย
       ที่เกิดเหตุบริเวณหนองน้ำประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงงมหาศพนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถงมร่างขึ้นมาได้ ทราบชื่อว่า นายณัฐวุฒิ นวลคำสิงห์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 3 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย สภาพศพสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ไม่มีร่องรอยบาดแผลของการถูกฆาตกรรม ผลการชันสูตรศพพบเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ
       จากการสอบถามผู้พบเห็นเหตุการณ์  ทราบว่าผู้ตายลงไปเล่นในหนองน้ำแห่งนี้  ซึ่งอยู่บริเวณหน้าวัดจันทราวาส  จู่ๆ นายนายณัฐวุฒิได้ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อชาวบ้านเห็นก็พยายามจะช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน จมน้ำหายไป ทั้งนี้หลังเกิดเหตุคาดว่าผู้ตายน่าจะเกิดตะคริว ทำให้ผู้ตายไม่สามารถช่วยตัวเองได้และจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงมอบศพให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.

อุดรธานี - พบศพชายวัย 49 ปี ลอยน้ำเสียชีวิตอยู่ที่สระน้ำในสวนหลังบ้านนาน 3 วัน กระทั่งพี่สาวมาพบเป็นศพ ตำรวจคาดผู้ตายเมาสุรา เป็นเหตุให้พลัดตกน้ำเสียชีวิต

       วันนี้ (26 ก.ย. 58) เวลา 08.45 น. พ.ต.ต.อัมพร ปลัดพรมมา พงส.ผู้ชำนาญการ สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำหลังบ้านเลขที่ 6 หมู่ 7 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมนายแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือ และทีมกู้ภัยร่วมใจท่าบ่อ
       ที่เกิดเหตุพบศพ นายนวลสี วงษ์คำ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 1 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จมน้ำเสียชีวิตสภาพศพขึ้นอืดคว่ำหน้า สภาพสวมกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อยืด แพทย์ชันสูตรศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
       สอบถาม นางคัมภีร์ อุฮาด อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 7 ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายได้มาเยี่ยมตนที่บ้านเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 58 และดื่มสุราจนเมาตามปกติของผู้ตาย เมื่อเมาได้ที่ก็ขอตัวไปนอนที่กระท่อมที่อยู่หลังบ้าน ซึ่งพอตอนเช้าตนเดินไปดูก็ไม่พบผู้ตายแล้ว คิดว่าน่าจะกลับบ้านแล้ว จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 ของเช้าวันนี้(26 ก.ย.) ตนเดินไปหลังบ้านพบศพลอยขึ้นอยู่ในคลอง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายได้เมาสุราอย่างหนักเป็นเหตุให้พลัดตกน้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นญาติๆ ไม่มีใครติดใจในการเสียชีวิตนายนวลสี และอนุญาตมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.

หนองคาย - ฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันจนเกิดน้ำป่าไหลหลาก ทำให้น้ำในลำห้วยสาขามีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้น้ำกัดเซาะตลิ่งพัง จนทำให้บ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่ริมตลิ่งพังเสียหาย

       วันที่ 24 ก.ย. 58 ที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย นายยงเวทย์  ศรีจันทร์ทอง ปลัดอำเภอสังคม หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ได้ออกสำรวจบ้านของนางรัศมี ศรีหาวงษ์ เลขที่ 60 หมู่ 4 ต.แก้งไก่ อ.สังคม และบ้านของนายฟูม ก้านกิ่งคำ เลขที่ 87 หมู่ 4 ต.แก้งไก่ อ.สังคม ซึ่งบ้านทั้งสองหลังตั้งอยู่ริมลำห้วยค้อ ได้รับความเสียหาย
       เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ได่เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก ปริมาณน้ำในลำห้วยค้อมีปริมาณสูง กระแสน้ำไหลแรง และหลังจากน้ำลดส่งผลให้น้ำที่กัดเซาะตลิ่งพัง พร้อมกับบริเวณด้านหลังของตัวบ้านทั้งสองหลังทรุดลงและพังลงมา โดยทางเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายได้ช่วยกันรื้อถอนบ้านที่พัง และขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สำรวจความเสียหายเพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือต่อไป
       นอกจากนั้น บริเวณลำห้วยสาขาต่างๆ ยังพบว่า มีการพังทลายของตลิ่ง ทำให้บ้านเรือนที่ปลูกสร้างบริเวณริมตลิ่งมีความเสี่ยงต่อการพังทลายลงมา จึงฝากแจ้งเตือนและช่วยกันเฝ้าระวังและขนย้ายสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย  

หนองคาย - เกิดน้ำป่าไหลหลาก เป็นเหตุให้เด็กชายวัย 13 ปี ลงเล่นน้ำในลำห้วยจมหายไปกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่ช่วยกันงมหาร่างเด็กที่เสียชีวิต ต้องนำรถมาขุดลอกระบายน้ำและวัชพืชออกถึง 3 วันจึงได้พบศพ

       วันที่ 23 ก.ย. 58 ที่บริเวณลำห้วยทอน บ้านด่านศรีสุข ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของอ่างเก็บน้ำห้วยทอน เจ้าหน้าที่จากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ตาก อาสากู้ภัยประจักษ์ และชาวบ้าน กว่า 100 คน ได้ช่วยกันชุดประดาน้ำงมหาร่างของ เด็กชายชัย(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี  หลังจากที่ได้ลงไปตกปลาและลงเล่นน้ำกับเพื่อนอีก 3 คน ที่ลำห้วยดังกล่าว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา
       แต่เนื่องจากได้มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก กระแสน้ำในลำห้วยไหลเชี่ยวมาพร้อมกับเศษวัชพืชจำนวนมาก และเด็กชายชัยและเพื่อนอีกคนได้ลงเล่นน้ำ แต่กระแสน้ำไหลแรงพัดร่างจมหายไป ส่วนอีกคนเพื่อนได้ใช้ไม้ยื่นออกไปให้จับช่วยไว้ได้ ส่วนเด็กชายชัยคว้าไม้ไม่ทันจมหายไปกับกระแสน้ำต่อหน้าเพื่อนๆ ทางญาติจึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกไปช่วยกันค้นหา แต่เนื่องจากลำห้วยมีกระแสน้ำไหลแรงและเศษวัชพืชจำนวนมาก ไม่สามารถค้นหาได้สะดวก
       เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ช่วยกันค้นหาอีกครั้ง และขอความช่วยเหลือจากทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 นำรถแม็คโฮมาช่วยขุดลอกระบายน้ำและเศษวัชพืชออก เพื่อเปิดทางให้น้ำไหล เพื่อสะดวกต่อการค้นหา
       จนกระทั้งวันที่ 25 ก.ย.58 เวลาประมาณ 12.50 น. ทีมค้นหาก็สามารถค้นพบศพติดอยู่กับกอไผ่ใต้น้ำ ซึ่งมีกระแสน้ำแรงมาก จากนั้นก็ได้นำศพขึ้นมาจากน้ำสภาพสวมกางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว ท่ามกลางส่งเสียงร้องให้ของญาติๆ ที่เฝ้ารอ  จากนั้นได้ศพนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดประจำหมู่บ้าน ตามประเพณีต่อไป.

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก พัดถนนและสะพานทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ ได้รับความเสียหาย มีนักท่องเที่ยว 70 คน เดินทางออกจากวัดฯไม่ได้

           วันนี้(22 ก.ย. 58) ที่บริเวณถนนทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ หมู่ที่ 1 ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน  ทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก กระแสน้ำไหลเชี่ยวส่งผลให้ถนนและสะพานทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ พังได้รับความเสียหาย
       สำหรับวัดผาตากเสื้อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธที่สำคัญของจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปทำบุญในวันนี้จำนวนมาก ติดอยู่บนวัดไม่สามารถเดินทางลงมาได้ จำนวน 70 คน เนื่องจากเส้นทางถูกกระแสน้ำตัดขาด โดยขณะนี้ทาง อบต.ผาตั้ง อ.สังคม , หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวลงมาจากวัดฯ
       นอกจากนั้น ยังสั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณน้ำตกธารทอง  เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลลงไปยังน้ำตกธารทอง มีกระแสน้ำเชี่ยวและไหลแรงมาก อาจทำให้เกิดอันตรายได้ และขณะนี้น้ำได้ลดลงและนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากพื้นที่ได้แล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย รอง.ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย นำทีมสนธิกำลังทหาร ป่าไม้ ตำรวจ ลุยตัดสวนยางพารารุกป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีจ่อคิวโค่นสวนยางอีกเกือบพันไร่

       วันที่ 20 ก.ย. 58 นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.อ.วรากรณ์ ทูคำมี รอง.ผอ.รมน.จังหวัดหนองคาย, นายพิชิต สมบัติมาก ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย, นายชัชวาล เอื้อสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้หนองคาย นำทีมสนธิกำลังทหาร ป่าไม้ ตำรวจ อาสาพิทักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ อบต.ผาตั้ง เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา อ้างถึงหนังสือจังหวัดหนองคาย ที่ นค 0013.3/008847 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพรายพร้าว-แก่งไก่
        โดยนำเจ้าหน้าที่ตัดโค่นต้นยางพาราของ นายสุทน อินทราณี และนางโฮม ก้านกิ่งเมือง ในเนื้อที่จำนวน 29 ไร่ 3 งาน หมู่ที่ 5 บ้านห้วยไซงัว ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ด้วยวิธีการโค่นยางพาราออก 60 % เหลือไว้ 40 % เป็นการตัด 3 แถว เว้น 2 แถว ตามหลักวิชาการในพื้นที่ที่ตัดออก 60% และให้ดำเนินการปลูกป่าท้องถิ่นทดแทนตามความเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาการบุครุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่เป้าหมาย เอโอ 1 ในการดำเนินการตามแผนบังคับใช้กฎหมายพื้นที่บุกรุกป่าปลูกยางพารา ตามยุทธการทวงคืนผืนป่า ท้องที่จังหวัดหนองคาย
        ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า กรณีพื้นป่าแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 29 ไร่ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเราดำเนินคดีถึงที่สุดแล้ว กระบวนการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมาดูในเรื่องทวงพื้นที่คืน และยังมีตัวอย่างอยู่ก็ต้องดำเนินการตัดต้นยางออกจากพื้นที่ กรณีนี้เจ้าของพื้นที่ได้ทำหนังสือยินยอมให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย มาช่วยในการที่จะตัดต้นยาง ก็มีหลายหน่วยมาช่วยกันสนับสนุนทั้งทหาร ตชด. และอำเภอสังคม นำเจ้าหน้าที่มาช่วยกันตัดต้นยางในวันนี้
       เราก็คงจะต้องทำไปจนถึงที่สุดแล้วสำหรับ เอโอ 1 สำหรับ เอโอ 3 นั้นยังอยู่ในขั้นตอนที่จะทำให้ครบถ้วนตามขั้นตอนของข้อกฎหมาย คิดว่าในเดือนตุลาคมในพื้นที่ เอโอ 3 ที่เป็นนายทุนกำลังดำเนินคดี น่าจะดำเนินการได้ครบถ้วน ตามโรดแน็บที่กำหนดไว้ให้เสร็จสิ้นประมาณเดือนธันวาคม เห็นว่าต้นเดือนตุลาคมคงดำเนินการได้เพราะว่าตามขั้นตอนเลื่อนเวลาของข้อกฎหมาย ลักษณะนี้ก็ได้มีการประชาสำพันธ์ให้พี่น้องในพื้นที่ได้รับทราบพื้นที่ที่ควรเป็นพื้นที่ป่าที่สงวนไว้ให้ต้นน้ำลำธารในขนะนี้  ในพื้นที่ เอโอ 1 ประมาณร่วมๆ 10 คดี เอโอ 3 มีอยู่ 10 กว่าแปลง เนื้อที่ก็ประมาณร่วมๆ 1,000 ไร่.