หนุ่มใหญ่ วัย 44 ปี ขับจักรยานยนต์แหกโค้งเสียหลักตกถนนเสียชีวิตคาที่ ก่อนหน้าเกิดเหตุนั่งดื่มเบียร์กับเพื่อนแล้วแยกกันกลับ มารู้อีกทีเสียชีวิตแล้ว

     เช้าของวันที่ 29 ต.ค.56 ร.ต.ท.ไพฑูรย์ ชั้นเสมา ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบรถจักรยานยนต์ล้ม และตกลงข้างถนนมีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ ข้างวัดอรัญญบรรพต ระหว่างหลัก กม.ที่ 30-31 ถนนมิตรภาพสาย อ.ศรีเชียงใหม่-อ.สังคม จ.หนองคาย จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศรีเชียงใหม่ และทีมกู้ภัยประจักษ์ อ.ท่าบ่อ รุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน คบท 979 อุดรธานี สภาพใหม่ ล้มตะแคง และตกลงจากถนนสูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งเป็นทางโค้ง และมีร่องรอยรถจักรยานยนต์ครูดไปกับไหล่ทางเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร โดยมีศพชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์ ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอนก อุตมะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 269 ม.8 ต.บ้านหม้อ อ.ศรเชียงใหม่ จ.หนองคาย

     จากการสอบสวนที่เกิดเหตุทราบว่า ตอนเย็นวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอเนก ผู้ตายได้นั่งดื่มเบียร์อยู่กับเพื่อนๆ อยู่ที่บ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ โดยหมดเบียร์ไป 4 ขวด กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. จึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งไม่มีใครทราบว่า นายอเนก ไปกินต่อที่ไหน กระทั่งดึกดื่นก็ไม่ยอมกลับบ้าน ขณะที่ภรรยาของ นายเอนก ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อตลอดทั้งคืนก็ไม่รับสาย จนมีผู้มาพบเป็นศพดังกล่าว

     ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายเอนก ได้ขับรถมาเพียงลำพังเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งซ้าย ผู้ตายได้พยายามบังคับรถเข้าโค้งกระทั่งรถตกลงไหล่ทาง และเกิดแฉลบล้มตกลงข้างถนน จนทำให้นายอเนก เสียชีวิตดังกล่าว

เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดงบติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV รอบเมืองท่าบ่อ ป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่

     นายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่าเทศบาลเมืองท่าบ่อ คณะนี้ได้จัดงบประมาณติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV รอบเมืองท่าบ่อ จำนวน 10 จุด เมื่อเริ่มเปิดทำการแล้ว เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อได้เป็นอย่างมาก เช่น การขโมยรถจักรยานยนต์ ขโมยรถยนต์ วิ่งราวทรัพย์ ปล้นร้านทอง ปล้นธนาคาร ปล้นร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น ก็จะมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ และสามารถเห็นได้ว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางหนีไปทางไหน โดยที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบ้านเมือง เช่น ตำรวจ สามารถเข้ามาตรวจสอบจากศูนย์ควบคุมระบบกล้องวงจรปิดได้ทันที และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายได้ทันทีเช่นกัน ซึ่งทางศูนย์ควบคุมมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ตลอด 24 ชั่วโมง

     สำหรับกล้องวงจรปิด CCTV ที่ดำเนินการติดตั้งทั้ง 10 จุดนั้น ประกอบด้วย จุดที่ 1.สี่แยกบ้านน้ำโมง, จุดที่ 2. ปากซอยจรดลสุวรรณ ซอย 4, จุดที่ 3. สามแยกปิ่นเกล้า, จุดที่ 4. สามแยกศาลหลักเมืองเทศบาลเมืองท่าบ่อ, จุดที่ 5. หกแยกโรงน้ำแข็งเก่า, จุดที่ 6. ห้าแยกวัดอรัญญวาสี, จุดที่ 7. สี่แยกไฟแดงไปบ้านผือ, จุดที่ 8. แยกประตูเมืองท่าบ่อ, จุดที่ 9. ปากซอยนิกรประสิทธิ์ ซอย 4 และจุดที่ 10. ถนนชลประธาน สี่แยกวัดแก้วพิจิตร

อำเภอโพนพิสัย ร่วมกับเมืองปากงึม สปป.ลาว จัดการประชุมคณะอนุกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน เพื่อให้การปฎิบัติเป็นไปตามบทบันทึกความร่วมมือ

     วันนี้ (29 ต.ค. 56) ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ได้จัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดน อำเภอโพนพิสัย-เมืองปากงึม สปป.ลาวโดยมี นายคณกร เครือวรรณ นายอำเภอโพนพิสัย เป็นประธานฝ่ายไทย และท่านวงเดือน บุนยะแสง เจ้าเมืองปากงึม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานฝ่าย สปป.ลาว โดยมีคณะอนุกรรมการร่วมทั้งสอง เข้าร่วมในการประชุม

     การประชุมได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องต่าง ๆ อาทิเช่น การร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามบริเวณชายแดน การเดินทางข้ามแดนบริเวณชายแดน การแก้ไขปัญหาบุคคลสองสัญชาติ การพัฒนาจุดผ่านแดนและการจัดระเบียบสัญจรตามบริเวณชายแดน ความร่วมมือในการป้องกันและการปราบปรามยาเสพติด การส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือด้านแรงงานในการพัฒนาฝีมือแรงงาน และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การร่วมมือในการรักษาป้องกันตลิ่งพัง การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่าง เช่น เรื่องโรคระบาด หรือหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจับกุมประชาชนของแต่ละฝ่ายได้ให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายนั้น ๆ ภายใน 7 วัน และการข้ามไป-มา ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้ปฏิบัติตามข้อบันทึกตกลงร่วมอย่างเคร่งครัด และการแก้ไขปัญหาการลักลอบดูดกรวด-ทราย ในลำแม่น้ำโขง การส่งเสริมสนับสนุนการร่วมมือด้านเศรษฐกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน เพื่อเตรียมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

     ซึ่งการประชุมฝ่ายไทย ขอขยายวันในการเปิดจุดผ่อนปรนจากเดิม 2 วัน คือวันอังคารและพฤหัสบดี นั้น ขอขยายเพิ่มเป็น 3 วัน คือ ในวันเสาร์ ด้วย โดยทาง สปป.ลาว รับจะนำเรื่องนี้เข้าไปรายงานต่อเจ้าหน้าที่ในส่วนกลาง คือ นครหลวงเวียงจันทน์เพื่อพิจารณา ต่อไป.

นรข.รัตนวาปี หนองคาย ผสานกำลังตรวจยึดไม้พะยูง 155 ท่อน ขณะแก๊งลักลอบเตรียมนำข้ามแม่น้ำโขง

     วันนี้ (28 ต.ค.56) เวลา 10.00 น. ที่สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นาวาเอก มรุเดช บุญนิตย์ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (ผบ.นรข.) เขตหนองคาย, เรือเอก ณรงค์ สุขุมประเสริฐ หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.1 (หนองหลวง) ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดไม้พะยูง ขนาดยาว 45-60 ซม. จำนวน 155 ท่อน ปริมาตร 1.040 ลบ.ม.มูลค่าประมาณ 200,000 บาท

     ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 00.30 น.วันเดียวกันนี้ เรือเอก ณรงค์ สุขุมประเสริฐ ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำไม้พะยูงลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณบ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จึงผสานกำลังกับหลายฝ่ายออกตรวจสอบ

     จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะโตโยต้า สีแดง ทะเบียน จ 5340 หนองคาย ขับเข้ามายังริมฝั่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้น ปรากฏว่าคนขับรถรีบจอดแล้วกระโดดลงจากรถอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบหลังกระบะพบฟางข้าวปกคลุมกระสอบปุ๋ยที่ปิดทับไม้พะยูงอีกชั้นหนึ่ง จึงตรวจยึดไว้และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอถวายความอาลัย

สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ข้าพระเจ้า หจก.เอ็น ซี เคเบิ้ลทีวี สาขาท่าบ่อ

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำหัวหน้าส่วนราชการ ถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

     วันที่ 25ต.ค.56  ที่ศาลาวัดศรีสะเกษ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นำหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดหนองคาย ประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยพระครูวรรณสารโกวิทย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองหนองคาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์จุดธูปเทียน สรงน้ำพระศพ เป็นพระสงฆ์รูปแรก

     ก่อนที่คณะสงฆ์จะถวายน้ำสรงพระศพ หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดร่วมถวายน้ำสรงพระศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก และเงียบสงบ ผู้ที่มาร่วมงานต่างตั้งจิต น้อมส่งดวงพระวิญญาณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก

พุทธศาสนิกชนในพื้นที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ ร่วมจัดกฐินสามัคคีประจำปี 2556 ทอด ณ วัดแก้วพิจิตร เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาบำเพ็ญกุศลของวัด

     วันนี้ (27 ต.ค.56)  ประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ปี 2556 ณ วัดแก้วพิจิตร เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อสมทบทุนก่อสร้างศาลาบำเพ็ญกุศล ซึ่งต้องใช้ทุนมากกว่า 1 ล้านบาท

     สำหรับการจัดทอดกฐินดังกล่าว ได้มีประชาชนและผู้มีจิตศรัทธารวมกันบริจาคยอดเงิน รวมเป็นเงินจำนวน 452505.50  บาท โดยมีคุณยายทองคับ สุวรรณบุตร พร้อมลูกหลาน เป็นประธานร่วมถวายกฐิน

      ภายในงานยังมีประชาชนที่มีจิตอันกุศล จัดซุ้มอาหารเพื่อเลี้ยงให้กับผู้เข้าร่วมงานอย่างเต็มที่ โดยมีประชาชนและพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก.

ชาวท่าบ่อ แห่ดูรอยประหลาด เชื่อว่าเป็นรอยพญานาค ขึ้นบนหลังคารถของปลัด อบต.บ้านว่าน หลังนำรถมาจอดไว้ที่ร้านคาร์แคร์เพื่อเตรียมล้าง สุดท้ายต้องนำรถกลับบ้านเชื่อเป็นสิริมงคล

     วันนี้(26 ต.ค. 56) เวลา 13.00 น. ที่หน้าร้านสมบูรณ์ คาร์แคร์ เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มีประชาชนกำลังมุงดูรอยประหลาดบนหลังคารถยนต์เก๋ง ยี่ฮ้อ ฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 8715 หนองคาย เป็นรถของนายบรรยง มาตรโสภา อายุ 41 ปี เป็นปลัด อบต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ ซึ่งผู้ที่มุงดูเชื่อว่าเป็นร่องรอยของพญานาคตามความเชื่อของผู้ที่พบเห็น

     ทั้งนี้ รอยดังกล่าวมีขนาดประมาณ 2-3 นิ้ว คดเคี้ยวไปมาบนหลังคารถ โดยรอยมีลักษณะเหมือนเลื้อยขึ้นจากประตูด้านหลังรถฝั่งด้านขวา แล้วขึ้นหลังคาก่อนจะหายไปที่บริเวณด้านหน้ากระจกรถยนต์

     สอบถาม น.ส.ญาดา โพธิมาย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 3 เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ซึ่งเป็นภรรยาของปลัด อบต.บ้านว่าน กล่าวว่า สามีของตนได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากบ้าน เพื่อนำรถมาล้างที่ร้านสมบูรณ์ คาร์แคร์ และได้จอดรถทิ้งไว้

     จากนั้นไม่นาน เจ้าของร้านได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับตนว่า พบรอยพญานาคอยู่บนหลังคารถ จึงได้เดินทางมาดูก็พบเห็นเป็นรอยพญานาคจริงๆ ชาวบ้านทราบข่าวก็แห่มามุงดูเป็นการใหญ่ ซึ่งก่อนจะพบรอยดังกล่าวตนได้ฝันเห็นต้นโพธิ์ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ส่วนรถจะนำกลับบ้านเลยไม่ขอล้าง เชื่อว่าคงจะเป็นสิริมงคลกับครอบครัวของตน

     ด้าน เรืออากาศตรี สุกันย์ สาชนะ เจ้าของร้านสมบูรณ์ คาร์แคร์ กล่าวว่า รถคันดังกล่าว ปลัด อบต.บ้านว่าน ได้นำมาฝากเพื่อล้างรถ เป็นช่วงจังหวะคนงานในร้านกำลังจะฉีดน้ำล้างรถ บังเอิญมีชาวบ้านเดินผ่านมาแล้วร้องขึ้นทักว่า เห็นรอยอะไรรึเปล่าอยู่บนหลังคา คนงานก็เลยหยุดล้างแล้วมองดูก็พบรอยดังกล่าว จากนั้นตนได้โทรศัพท์ไปบอกเจ้าของรถมาดูดังกล่าว.     

อำเภอท่าบ่อ ร่วมกับหน่วยงานราชการ สนง.วัฒนธรรมอำเภอ ภาคเอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชน นำกฐินสามัคคีทอดถวาย ณ วัดประภารังสีบ้านโพนตาล

     วันนี้(25 ต.ค. 56) เวลา 09.00 น. ที่บ้านโพนตาล หมู่ที่ 3 ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ  สนง.วัฒนธรรมอำเภอ หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่บ้านโพนตาลและใกล้เคียง ร่วมนำขบวนแห่กฐินสามัคคีอำเภอท่าบ่อ ทอดถวายตามประเพณี ที่วัดประภารังสีบ้านโพนตาล ประจำปี 2556  มีพุทธศาสนิกชนชาวบ้านโพนตาลได้ให้การต้อนรับคณะกฐินสามัคคีครั้งนี้อย่างอบอุ่น

     คณะกฐินสามัคคีของอำเภอท่าบ่อ ได้แห่ขบวนกฐินจากปากทางเข้าวัด โดยมีนักศึกษาจาก กศน.อำเภอท่าบ่อ ร่วมฟ้อนรำนำขบวนกฐิน ก่อนที่จะนำขบวนกฐินแห่รอบศาลาการเปรียญ 3 รอบ และมีการแสดงฟ้อนรำจากเด็กนักเรียนของโรงเรียนร่วมมิตรวิทยา เพื่อเป็นการต้อนรับนายอำเภอท่าบ่อและคณะ  และประกอบพิธีทอดกฐินสามัคคีในเวลาต่อมา

     โดยทางอำเภอท่าบ่อ ยังได้มีการต่อยอดกฐินสามัคคี ด้วยการนำฉลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีเลขท้ายสวยๆ มาให้ประชาชนได้ร่วมประมูล ซึ่งก็มีประชาชนร่วมประมูลกันมาก โดยเฉพาะหัวหน้าส่วนราชการ ประมูลกันตั้งแต่ 400 บาทถึง 1.000 บาท ได้ไปคนละใบสองใบ  ซึ่งยอดทอดถวายกฐินอำเภอท่าบ่อครั้ง เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 158,519 บาท

     หลังเสร็จพิธีด้วยความเรียบร้อย  ประชาชนยังได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะเดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพ.

ตำรวจท่าบ่อ ประชุมเข้ม แนะผู้ประกอบการร้านทอง ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ร่วมหามาตรการป้องกันเหตุร้าย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คาดจะมีนักโทษที่ถูกปล่อยออกมาหลังวันที่ 5 ธันวาคม อาจมีส่วนหนึ่งจะกลับมาก่อเหตุร้ายอีก

     วันนี้(25 ต.ค. 56) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ชั่วคราว อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ. สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.จักรทิพย์ กูลพฤกษี รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ประชุมผู้ประกอบการร้านทอง ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ เพื่อร่วมหาแนวทางป้องกันเหตุร้าย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตามโครงการเพิ่มมาตรการป้องกันเหตุคดีเกี่ยวกับทรัพย์

     พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ เปิดเผยว่า เนื่องจากคนร้ายได้ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ธนาคาร ร้านทอง และร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นหลายครั้ง บางแห่งคนร้ายใช้อาวุธทำร้ายผู้ประกอบการจนได้รับบาดเจ็บ และในพื้นที่ของจังหวัดหนองคาย ได้เคยเกิดขึ้นกับร้านทองมาแล้ว 2 ครั้ง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ตระหนักและมีความห่วงใย จึงได้เรียกตัวแทนผู้ประกอบการร้านทอง ธนาคาร รวมทั้งร้านสะดวกซื้อต่างๆ ในพื้นที่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบมาพบปะพูดคุย ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้เพิ่มมาตรการป้องกันระมัดระวังคนร้าย ที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยเฉพาะหลังวันที่ 5 ธันวาคม กรมราชทัณฑ์จะมีการปล่อยนักโทษออกมาจำนวนมาก และอาจมีส่วนหนึ่งจะกลับมาก่อเหตุชิงทรัพย์อีก ขอให้ผู้ประกอบการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้ส่วนหนึ่ง และขอให้สังเกตบุคคลที่แต่งตัวรัดกุม และสวมหมวกต่างๆ รวมถึงบุคคลที่ปิดบังใบหน้า หรือสวมแว่นตาดำ ให้ผู้ประกอบการเฝ้าสังเกต และจับตาดูพฤติกรรมของบุคคลเหล่านี้เป็นกรณีพิเศษ และกล้อง cctv ให้ตรวจสอบกล้องให้ใช้การได้ดีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อง่ายต่อการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่หลบหนี รวมทั้งตรวจสอบสัญญาณเตือนภัย หากเกิดเหตุจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ สภ.ท่าบ่อ และศูนย์วิทยุ 191 ทราบเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และเทศบาลเมืองท่าบ่อก็เริ่มติดตั้งกล้อง cctv ในพื้นที่สำคัญจำนวน 10 จุดแล้ว

      ด้าน พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า ปัจจุบันร้านทองในเขตรับผิดชอบมีทั้งหมด 12 ร้าน ธนาคาร 7 แห่ง ร้านสะดวกซื้อกระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีอยู่ 4 แห่ง เบื้องต้นเราได้นำแผ่นสติ๊กเกอร์ที่มีเบอร์โทรศัพท์ของสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับผู้กำกับ รองผู้กำกับ และตำรวจชั้นสัญญาบัตร มอบให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้โทรแจ้งโดยตรงเมื่อมีเหตุร้ายขึ้น.

ชาวบ้านตำบลโพนสา ร่วมกับ อบต.โพนสา สืบสานงานประเพณีประจำท้องถิ่น จัดการแข่งขันเรือเล็กมหาสนุก หัวใบ้ ท้ายบอด มีแห่งเดียวในจังหวัดหนองคาย โดยการจับฝีพายทั้งคู่ให้หัวเรือใช้จุกนมปิดปาก ท้ายเรือใช้ผ้าปิดตา ก่อนพายเรือเข้าสู่เส้นชัย สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนชมเป็นอย่างมาก

     วันที่ 24 ต.ค. 56 ที่บริเวณหนองสุพรรณ หน้า อบต.โพนสา บ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย  ชาวตำบลโพนสาและ อบต.โพนสา จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณี 12 ฝีพาย และเรือหาปลาหรือเรือเล็ก 5 ฝีพาย และเรือกีฬามหาสนุกพื้นบ้าน 2 ฝีภาย ท้ายบอดหัวใบ้ ซึ่งเป็นแนวคิดของผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อสืบสานงานประเพณีท้องถิ่น และสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้แก่ประชาชนในพื้นที่เกิดความรักใคร่ปรองดอง

     การแข่งขันเรือเล็กสำหรับปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ไฮไล้อยู่ที่การแข่งขันเรือเล็กหัวใบ้ ท้ายบอด โดยการนำเรือหาปลาหรือเรือเล็กของชาวบ้านในพื้นที่ ที่ยึดอาชีพหาจับปลาจัดทีมเรือเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเรือเล็ก แยกออกเป็นประเภทชาย – หญิง

     โดยคนที่อยู่หัวเรือจะใช่จุกนมพลาสติกอมปิดปาก ห้ามฝีพายพูดหรือส่งเสียงจนจุกนมหลุดออกจากปาก ส่วนนายท้ายเรือใช้ผ้าปิดตาให้สนิท

     โดยทั้งคู่จะต้องมีความเข้าใจและมีความชำนาญจึงจะเข้าถึงสู่เส้นชัยได้ ซึ่งแต่ละเที่ยวจะมีเรือลงแข่งขันเที่ยวละ 2 ลำ บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกสนาน บางลำก็ออกนอกเส้นทางไปไม่ถึงเส้นชัย บางลำพอจะถึงเส้นชัยแต่ดันขวางลำน้ำไม่ยอมเข้าเส้นชัย สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนชมเป็นอย่างมาก.

อำเภอศรีเชียงใหม่ นำหน่วยงานภาครัฐ เอกชนประชาชน ประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ประจำปี 2556

     เช้าวันนี้ ( 23 ต.ค.56 ) เหล่าพสกนิกรทุกหมู่เหล่าชาวอำเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้พร้อมใจกันนำพวงมาลามาถวายราชสักการะ พระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 หน้าที่ว่าการอำเภอศรีเชียงใหม่ โดยมีนายสำเริง สำราญรมย์ ปลัดอาวุโส ปฏิบัติราชการแทนนายอำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นประธานประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันปิยมหาราช ซึ่งเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง โดยมีหน่วยงานราชการทหารตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ประชาชน สถาบันการศึกษา สมาคม ชมรม มูลนิธิ มาร่วมวางพวงมาลาจำนวนมาก

     พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ตรงกับวันอังคารเดือน 10 ค่ำ ปีฉลู พระองค์เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติสืบสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อพระชนมายุได้ 15 พรรษา ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2411 และเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 รวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา นับเวลาครองราชสมบัติ 42 ปี

     พระราชกรณียกิจที่สำคัญด้านการเมืองการปกครอง พระองค์ท่านทรงปรับปรุงระบบการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเปลี่ยนจากแบบจตุสดมภ์ เป็นกระทรวง ทบวง กรม ตามอารยะประเทศ จัดให้มีการปกครองตนเองโดยจัดตั้งสุขาภิบาลขึ้นเป็นแห่งแรกที่ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร ทรงทดลองให้มีการเลือกตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นแห่งแรก ที่อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2435 ด้านเศรษฐกิจเป็นผู้ริเริ่มการก่อตั้งการรถไฟ ไปรษณีย์โทรเลข ด้านการศึกษา ทรงส่งเสริมให้สามัญชนทั่วไปได้รับการศึกษาและทรงจัดตั้งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า นอกจากนี้ พระองค์ทรงได้ประกาศเลิกทาส โดยออกพระราชบัญญัติรัตนโกสินทร์ศก 125 ใน พ.ศ.2448 ให้ยกเลิกการมีทาสโดยสิ้นเชิงซึ่งจากพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติมา ประกอบกับทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม อันประเสริฐเป็นที่ชื่นชมของพสกนิกรชาวไทย จึงได้รับการขนานพระนามพระนามาภิไธยว่า “พระปิยะมหาราชเจ้า” เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน

ชาวบ้านในพื้นที่บ้านน้ำโมง ร้องเรียนเรื่องท่อระบายน้ำที่ได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จของเทศบาลเมืองท่าบ่อ ยังไม่มีฝาปิด สุนัขและแมวตกลงไปตายหลายตัวแล้ว ต้องนำไม้ สังกะสี มาปิดไว้ชั่วคราว เพราะกลัวจะมีอุบัติเหตุ

     วันนี้ (22 ต.ค. 56) ชาวบ้านที่บ้านน้ำโมง เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าว ว่าเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้ทำการก่อสร้างท่อระบายน้ำสาธารณะจนแล้วเสร็จมานานหลายเดือน แต่บ่อพักน้ำยังเปิดท่อโล่งโจ้งหลายจุด กลัวว่าจะมีอุบัติเหตุ

     เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ เป็นท่อระบายน้ำที่ได้ทำการก่อสร้างเสร็จแล้วดังที่ชาวบ้านบอก และยังไม่มีฝาปิดปากท่อพักจำนวน 19 จุด อยู่ริมถนนพุทธบูชา จากปากทางเข้าบ้านน้ำโมงไปจนถึงหน้าวัดศรีบุญเรือง ระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยปากท่อพักมีขนาด 80 x 100 เซนติเมตร ลึก 3 เมตร บริเวณปากท่อมีทรายทับถมอยู่เกือบจะเต็มปากท่อและมีน้ำอยู่เต็มปากท่อ โดยชาวบ้านได้นำไม้ สังกะสี และวัสดุต่างๆที่หาได้ มาวางและปิดปากท่อเอาไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ บางบ้านบ่อพักอยู่หน้าบ้าน ทำให้ไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปจอดภายในบริเวณบ้านได้

     

     ชาวบ้านได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ท่อระบายน้ำสาธารณะดังกล่าว เทศบาลเมืองท่าบ่อได้ทำการก่อสร้างเสร็จมานานหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีฝาท่อปิดปากบ่อพัก ทำให้สุนัขและแมวตกลงไปหลายครั้งและต้องช่วยกันนำขึ้นมา บางครั้งสุนัขและแมวก็ตายเพราะขึ้นไม่ได้ บางบ้านไม่สามารถนำรถเข้าไปจอดภายในบ้านได้ เนื่องจากบ่อพักท่อระบายน้ำอยู่หน้าบ้านพอดี เบื้องต้นชาวบ้านได้ช่วยกันหาไม้บ้าง สังกะสีบ้าง มาปิดเป็นสัญลักษณ์ห้ามเข้าไปใกล้ภายในบริเวณนั้น เพราะกลัวมีอุบัติเหตุกับเด็กและลูกหลานที่วิ่งซนแล้วตกลงไป รวมไปถึงผู้ที่ขับขี่รถต่างๆที่สัญจรไปมายังถนนเส้นนั้น อาจพลาดตกลงไปก็เป็นได้ ไม่รู้ว่าติดคัดปัญหาอะไรถึงยังไม่ดำเนินการให้เรียบร้อย จึงอยากจะให้เทศบาลเมืองท่าบ่อ เร่งดำเนินการเรื่องนี้เป็นการด่วน ก่อนที่จะมีเหตุเกิดขึ้น.