วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - บุกจับโรงผลิตฝิ่น มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท


ตำรวจ สภ.นางิ้ว สนธิกำลังหลายฝ่าย บุกจับโรงผลิตฝิ่นในสวนเงาะริมแม่น้ำโขง ยึดของกลางมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ส่วนเจ้าของหลบหนีไปได้
       วันนี้ (19 พ.ค. 58) พ.ต.ท.นิพนธ์ สมานชาติ สวญ.สภ.นางิ้ว, พ.ต.ต.สายัณห์ ผาพา สารวัตรสอบสวน สภ.นางิ้ว สนธิกำลัง นรข.เขตหนองคาย, ทหารจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.หนองคาย, ตชด.245 และฝ่ายปกครองอำเภอสังคม จ.หนองคาย ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 191 หมู่ 2 บ้านม่วง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ริมถนนสังคม-ปากชม ซึ่งเป็นบ้านของ นายประสงค์ อัญชลี อายุ 78 ปี และนางอุบล อัญชลี อายุ 54 ปี สองสามีภรรยา
       ขณะเข้าตรวจสอบไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน โดยพบว่าบริเวณบ้านของนายประสงค์ มีเนื้อที่ 30 ไร่ สร้างบ้าน 1 หลัง ด้านหลังทำเป็นโรงเรือนและปลูกสวนเงาะเต็มพื้นที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในโรงเรือน พบว่ามีการกั้นเป็นห้องจำนวน 2 ห้อง เป็นห้องเคี่ยวฝิ่น 1 ห้อง และเพื่อใช้เป็นห้องเก็บฝิ่นสุก 1 ห้อง พบฝิ่นสุกห่อด้วยพลาสติกสีชมพู 2 ขนาด ขนาดบรรจุฝิ่นสุก 500 กรัม จำนวน 30 ก้อน และขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม จำนวน 201 ก้อน รวมน้ำหนัก 216 กิโลกรัม
       นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การแปรรูปฝิ่น มีทั้งเตาแก๊ส ถังแก๊สอีกจำนวนหนึ่ง สารเคมีประเภทคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์(ผงสีฟ้า) และผงสีเหลืองไม่ทราบชนิดอีกเป็นจำนวนมาก บริเวณรอบๆ ผนังโรงเรือนจะมีเศษฝิ่นกระจายติดผนัง เจ้าหน้าที่จึงได้นำมาทดสอบกับน้ำยาทางเคมีพบว่าทั้งหมดเป็นฝิ่นจริง
       ในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านหลังนี้ จึงได้ให้กำลังตำรวจ ทหาร เข้าตรวจสอบโดยใช้กฎอัยการศึกเข้าตรวจค้น แต่เจ้าของบ้านไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน โดยฝิ่นที่พบนี้เป็นขบวนการใหญ่และปริมาณมากกว่าทุกครั้งที่เคยพบในพื้นที่ คาดว่าจะนำฝิ่นดิบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่กระบวนการแปรสภาพด้วยการเคี่ยวให้เป็นฝิ่นสุกก่อนบรรจุตามน้ำหนัก ครึ่งกิโล หนึ่งกิโลกรัม ตามลูกค้าต้องการ แล้วรอการส่งไปยังประเทศที่สาม ซึ่งฝิ่นสุกมีมูลค่าประมาณกิโลกรัมละ 60,000 - 80,000 บาท ของกลางทั้งหมดนี้มีมูลค่าประมาณกว่า 14 ล้านบาท
       สอบถาม นายอนุวรรัตน์ ชานัย กำนัน ต.บ้านม่วง กล่าวว่า นายประสงค์ เจ้าของบ้านเป็นชาวจังหวัดระยอง มาซื้อที่ดินทำสวนเงาะ บริเวณดังกล่าวได้ประมาณ 20 ปี ส่วนภรรยาเป็นชาว จ.มหาสารคาม โดยนายประสงค์ป่วยเป็นโรคกระดูกเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น และทราบว่าระยะหลังมีการคลุกคลีกับสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ยอมให้เพื่อนบ้านเข้ามาในบริเวณบ้าน ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่านายประสงค์หึงหวงภรรยา โดยที่ภรรยาเองได้พาลูกสาวซึ่งยังเรียนอยู่ชั้นประถมฯไปเรียนที่ จ.ขอนแก่น
       จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดพื้นที่โดยรอบ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินถ้าเข้าข่ายได้มาโดยมิชอบให้ดำเนินการตามกฎหมาย และเร่งติดตามจับกุมนายประสงค์ เจ้าของบ้านมาสอบสวนพร้อมขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น