วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

ตำรวจหนองคาย ซ้อนแผนนำกำลังเข้ารวบแก๊งตำรวจเมืองอุดรฯ นอกรีต


ตำรวจหนองคาย ซ้อนแผนนำกำลังเข้ารวบแก๊งตำรวจเมืองอุดรฯ นอกรีต ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยวชาวลาว เรียกเงิน ล้านบาท หลังเข้าขอความช่วยเหลือ จาก ผบก.ภว.หนองคาย ว่าแม่และน้องชายถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ และถูกยัดยาบ้าให้นำเงินมาแลกก่อนจะถูกส่งตัวดำเนินคดี
          เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 26 เม.ย.58 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย ,พ.ต.อ.อัครพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย ,พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น  สวป.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง เข้าจับกุม ร.ต.อ.สุรพัศ เพ็ญศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี, ร.ต.ท.พีระพงษ์ ตรีพงษ์ รองสว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ,ร.ต.ต.สมเด็จ สุขรมย์ รองสว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี, ด.ต.ปกรณ์ สุขประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี ,ด.ต.ชัยณรงค์ อรดี ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี, ด.ต.วิรัตน์ ตานุชนม์ ผบ.หมู่ (สส.)สภ.เมือง อุดรธานี, นายธวัช ทิพสุภา ตำรวจอาสา และนายตี๋ อาจสุวรรณ์ พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน  7 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง เงินสด 300,000 บาท ยาบ้า 108 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง รถยนต์กระบะ 2 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน
       การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นางพวงมาลี ตันทะแก้ว อายุ 20 ปี อยู่เมืองสีโคตรตะบอง กำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ชูรัตน์  ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่า เมื่อเย็นของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา นางบัวจัน ตันทะแก้ว อายุ 55 ปี และท้าวพอนสะหวัน ตันทะแก้ว อายุ 14 ปี แม่และน้องชายของตน ได้เดินทางมาที่จังหวัดหนองคาย เพื่อมาหาซื้อเครื่องใช้ต่างๆ แต่ได้ถูกกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับกุมและตั้งข้อหาค้ายาบ้า ทั้งๆที่ตนและครอบครัวไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องยาเสพติดเลย และกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ให้แม่ของตนโทรศัพท์มาหาตน แล้วให้นำเงินจำนวน 2 ล้านบาทมาไถ่ตัว ไม่เช่นนั้นจะถูกนำตัวส่งที่สถานีตำรวจ กลัวว่าแม่และน้องชายจะได้รับอันตราย จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือจาก ผบก.ภ.จว.หนองคาย
       หลังจากนั้น พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย  ได้เรียกเจ้าหน้าที่เข้าวางแผนเพื่อให้ความช่วยเหลือสองแม่ลูกชาวลาว โดยได้ให้นางพวงมาลี ทำทีเป็นโทรศัพท์ต่อรองค่าไถ่ กระทั่งตกลงค่าไถ่เหลือ 3 แสนบาท และนัดจ่ายเงินกันที่ลานจอดรถตรงข้ามวัดจันทรสามัคคี อ.เมืองหนองคาย เชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในเวลา 19.00 น. เมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองหนองคายได้ปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่ โดยมีนางพวงมาลี พร้อมเงินสด 3 แสนบาท นั่งไปยังจุดนัดหมาย พอถึงลานจอดรถได้พบกลุ่มคนดังกล่าวและท้าวพอนสะหวัน อยู่ในรถกระบะ โตโยต้าวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บษ 5977 อุดรธานี และรถกระบะ  โตโยต้าวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บม 1672 ร้อยเอ็ด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่เมื่อได้รับสันญาณจึงได้เข้าแสดงตัวจับกุม ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 108 เม็ด ยาไอซ์ 1 ถุง ต่อมา ร.ต.อ.สุรพัศ เพ็ญศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 9951 อุดรธานี มาพร้อมกับนางบัวจัน โดยอ้างว่าตนอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เป็นการขยายผลการจับกุม
       ด้านนางบัวจัน ตันทะแก้ว ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองหนองคายว่า  เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 25 เม.ย.2558 ตนและท้าวพอนสะหวัน ตันทะแก้ว ลูกชายได้เดินทางมายังจังหวัดหนองคาย เพื่อซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย  ต่อมาก็ได้รับโทรศัพท์จากท้าวทอง ชาวลาว ซึ่งเป็นคนรู้จักกันว่าให้ตนไปรับเงินค่าซื้อขายไม้ แทนท้าวทองให้ด้วย และจะมีคนนำเงินมามอบให้ ต่อมาได้มีนางพัชรมัย พรหมวิชัย อายุ 40 ปี บ้านลุมพุก ต.ท่าศิลา อ.สองดาว จ.สกลนคร นำถุงมาให้โดยไม่ทราบว่าข้างในถุงมีอะไร จากนั้นก็ได้มีกลุ่มบุคคลทั้ง 8 คน ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจเมืองอุดร เข้าจับกุมและบอกว่า ตนขายยาบ้า และได้มารับเงินค่ายาบ้า ซึ่งตนได้ปฎิเสธไปว่าตนและครอบครัวไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างไร แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ยอมและได้เรียกเงินแทนการปล่อยตัว
       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้นำตัวทั้ง 8 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น