วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - สาธารณสุขหนองคาย เตือนผู้ปกครองปิดเทอมหน้าร้อน เด็กเล่นน้ำระวังจมน้ำ

       นายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย แจ้งว่า จากสถิติการเสียชีวิตของเด็กไทยที่อายุต่ำกว่า 15 ปีของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า เด็กเสียชีวิตจากการตกน้ำ การจมน้ำมากเป็นอันดับหนึ่ง เฉลี่ยปีละ 1,243 คน หรือเฉลี่ยวันละ 3-4 คน โดยพบมากในกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี เพศชายเสียชีวิตมากกว่าเพศหญิง 2 เท่า และมักจะจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกันครั้งละหลายๆคน เนื่องจากเด็กไม่รู้ทักษะการเอาชีวิตรอดและทักษะการช่วยชีวิตที่ปลอดภัย จึงมักกระโดดลงไปช่วยคนที่ตกน้ำและถูกกอดรัตจนจมน้ำเสียชีวิตไปด้วยกัน โดยแหล่งน้ำที่เด็กจมน้ำมากที่สุดได้แก่ แหล่งน้ำธรรมชาติ รองลงมาคือสระว่ายน้ำ และอ่างอาบน้ำตามลำดับ ทั้งนี้ ยังพบว่าเด็กไทยกลุ่มอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ว่ายน้ำเป็นมีเพียงร้อยละ 23.7 เท่านั้น
       นายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล กล่าวด้วยความห่วงใยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมและอากาศก็ค่อนข้างร้อน จึงจะมีการไปพักผ่อนริมน้ำ ไปเล่นน้ำเพื่อคลายร้อนกันเยอะ บ้างก็ไปเป็นครอบครัว หรือดเด็กๆชวนกันไปเล่นน้ำเอง ดังนั้น จึงขอให้ผู้ปกครองได้เตือนและเฝ้าระวังป้องกันการตกน้ำ จมน้ำ ดังนี้

1. จัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น สร้างรั้ว หาฝาปิด ฝังกลบหลุมหรือบ่อที่ไม่ได้ใช้ หรือติดป้ายเตือน
2. ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เช่น ไม่ปล่อยเด็กอยู่กับน้ำตามลำพัง ไม่ให้เด็กไปเล่นใกล้แหล่งน้ำ
3. เตือนและให้ความรู้เรื่องทักษะการเล่นน้ำและการช่วยชีวิต ถ้าจะไปเล่นน้ำเมือไหร่ที่ไหนให้แจ้งผู้ปกครองไว้ก่อน และต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตไปด้วย เช่น เชือก ไม้ ห่วงชูชีพ ขวดหรือถังพลาสติก
4. หากเห็นคนตกน้ำ จะจมน้ำ อย่ากระโดดลงไปช่วยให้โยนอุปกรณ์ช่วยชีวิตลงไป และรีบไปเรียกผู้ใหญ่
5. สอนวิธีการว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด เช่น การลอยตัวหงายเหมือนแม่ชีลอยน้ำ การลอยตัวคว่ำ การใช้ขวดเปล่า
พลาสติกปิดฝาช่วยลอยตัว เป็นต้น
6. เมื่อพบเด็กจมน้ำ ห้ามจับเด็กอุ้มพาดบ่า หรือกดบ่า หรือกดท้อง หรือจับเด็กห้อยหัว หรือเขย่าเพื่อเอาน้ำออก เพราะจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น ให้ช่วยโดยการเปิดทางเดินหายใจและเป่าปาก เป่าลมเข้าให้หน้าอกผู้ป่วยอกขึ้นกดนวดหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง ทำไปจนกว่าจะรู้สึกตัว และนำส่งโรงพยาบาลต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น