วันนี้ (21 เม.ย. 58) ที่บริเวณที่ดินสาธารณะ
หรือดอนหอ เขตรอยต่อ 2 ตำบล ระหว่าง ต.บ้านว่าน กับ ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายพัฒนธรณ์
กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ พร้อมด้วย น.ท.พงศกร อิฐสมบัติ
หัวหน้าสถานีเรือศรีเชียงใหม่ (นรข.เขตหนองคาย) พ.ต.ต.อนันต์ สุพรรณเภสัช
สวป.สภ.ท่าบ่อ จ.ส.อ.เทพชัย สารีโท เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.จังหวัดหนองคาย นางวาสนา
ทิพย์ทรีย์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการสำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคาย (สาขาท่าบ่อ) นายประภาส
คลังชำนาญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านว่าน นายบุญกร บุตรศรี
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน ผู้นำหมู่บ้าน/ตำบล และชาวบ้านกว่า 100 คน ลงพื้นที่สำรวจที่ดินสาธารณะ(ดอนหอ) เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์หรือเป็นที่ดินครอบครองของชาวบ้าน
หลังมีข้อพิพาทมานาน
สำหรับพื้นที่ดอนหอ อยู่ใจกลางเขตรอยต่อระหว่างบ้านโพนธาตุ
หมู่ 6 ต.บ้านว่าน กับบ้านโคกคอน หมู่ 6 ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ห่างจากทางหลวงชนบท
สายโคกคอน – บ้านว่าน ประมาณ 1 กิโลเมตร ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาของชาวบ้านของทั้งสองหมู่บ้าน
มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ลักษณะกำลังถูกบุกลุกแผ้วทางป่าและต้นไม้หลายต้น
และมีกระท่อมปลูกไว้ในลักษณะเป็นสำนักสงฆ์ พบในกระท่อมมีหิ้งพระและพระพุทธรูป มีป้ายที่เขียนไว้ว่า
“สำนักวิปัสสนาเขมธัมโมญาณสัมปัญโน” สังเกตรอบๆ พื้นที่ยังพบต้นไม้ใหญ่หลายต้น
รวมถึงต้นประดู่อีก 1 ต้น
นายคมสัน รามบระพฤติ อายุ
62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 6 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กล่าวว่า
ตนมีที่นาติดกับดอนหอ และได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่นี้มานานตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นที่ดินครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย
เนื่องจากใช้เป็นที่พักอาศัยและทำกินมานาน ซึ่งปัจจุบันได้มีกลุ่มคนเข้ามาแผ้วถางป่า
ตัดต้นไม้ใหญ่-เล็ก ไปหลายต้น และกำลังจะตัดต้นประดู่ เพื่อทำเป็นสำนักสงฆ์ ซึ่งตนและชาวบ้านโพนธาตุส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย
จึงได้มาทำการคัดค้านการกระทำดังกล่าว
นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์
นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า พื้นที่ดอนหอได้เกิดข้อพิพาทกันมานาน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์
ระหว่างกลุ่มคนที่จะตั้งเป็นสำนักสงฆ์กับชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่บริเวณนั้นมานาน โดยอ้างว่าถูกชาวบ้านลุกล้ำที่สาธารณะโดยไม่มีเอกสารจากทางราชการใดๆ
มาแสดง ซึ่งก็ได้สั่งการให้นายก อบต.บ้านว่าน,
อบต.โคกคอน และที่ดินจังหวัดหนองคาย (สาขาท่าบ่อ) เร่งสำรวจพื้นที่ข้อพิพาทดังกล่าว
คาดว่าไม่เกิน 10 วัน หากที่ดินจังหวัดชี้ชัดว่าเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ก็จะดำเนินการยื่นขอใบหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง
(นสล.) ทันที เพื่อจัดทำเป็นที่สาธารณะให้ถูกต้องตามกฎหมายให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น