วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หนองคาย - บรรณาธิการข่าวออนไลท์หนองคาย พร้อมผู้สื่อข่าว ยอมนำช่อดอกไม้กล่าวขอโทษต่อประธานสภาเมืองท่าบ่อ กรณีฟ้องหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประธานฯ บอกรับไม่ได้เขียนข่าวกระทบเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ก็ให้อภัยหลังคู่กรณีหอบดอกไม้ขอโทษ ติงจะเขียนข่าวควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนนำเสนอข่าว โดยไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวแขนงอื่นเข้าไปทำข่าว


     เวลา 10.30 น. วันนี้ (21 พ.ย. 57) นายมานะชาย เจริญสุข ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้นายภัทรวินทร์ ลีปาน (โจ้) บรรณาธิการข่าวออนไลน์หนองคาย นายกิตติศักดิ์ ขันตี (ปุ๊) ผู้สื่อข่าวออนไลท์หนองคาย พร้อมนายวสันต์ พานจันทร์ ทนายความของฝ่ายข่าวออนไลน์หนองคาย เข้ามอบช่อดอกไม้ให้กับตนและกล่าวคำขอโทษ กรณีได้เขียนข่าวโจมตีตนทางสื่อฯ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2556 ว่าประธานสภาฯไม่พอใจที่สื่อเข้าไปทำข่าวการประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ซึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2556  ซึ่งตนยอมรับไม่ได้ที่เขียนข่าวกระทบและเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะไม่เป็นความจริง เล่นการเมืองท้องถิ่นมานานไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าบ่อ เพื่อดำเนินคดีต่อสำนักข่าวดังกล่าว ด้วยข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
     นายมานะชายฯ ได้เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดหนองคายได้ออกหมายเรียกเพื่อพิจารณาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1248/2557 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดหนองคาย (โจทก์) กับนายกิตติศักดิ์ ขันตี (ปุ๊) จำเลย ที่ 1 กับพวกคือนายภัทรวินทร์ ลีปาน (โจ้) จำเลยที่ 2 ซึ่งผู้พิพากษาศาลฯ ได้ทำการเบิกความนานถึง 1 ชั่วโมง โดยที่ฝ่ายทนายความของฝ่ายจำเลยไม่มีคำโต้แย้งใดๆ ผู้พิพากษาฯ จึงได้พิจารณาไกล่เกลี่ยคดีความ โดยฝ่ายจำเลยทั้งสองได้ยอมความพร้อมที่จะกล่าวขอขมาและขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น และยอมลงข่าวขอโทษทางสื่อออนไลท์หนองคาย พร้อมชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 5,000 บาท ตามที่ฝ่ายโจทก์ร้องขอ ตนจึงได้ถอนคำฟ้องในเวลาต่อมา
     และวันนี้ นายภัทรวินทร์ ลีปาน (โจ้) และนายกิตติศักดิ์ ขันตี (ปุ๊) พร้อมทนายความ ได้ทำตามที่ศาลสั่ง โดยนำช่อดอกไม้มาขอขมาและขอโทษตน ภายในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ โดยมีนายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ สมาชิกสภาเทศบาลฯ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ร่วมเป็นพยาน โดยมีนายภัทรวินทร์ ลีปาน (โจ้) ได้อ่านร่างคำกล่าวขอโทษที่มีใจความว่า การเดินทางมาในวันนี้ เพื่อต้องการมาขอโทษคุณมานะชาย เจริญสุข ประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ หลังจากข่าวออนไลน์หนองคาย ได้นำเสนอข่าว สื่อมวลชนสุดมึนหลังประธานสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ไม่พอใจที่สื่อเข้าไปทำข่าวการประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อ ด้านชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันไม่เข้าใจเพราะการประชุมสภาเทศบาลฯ ชาวบ้านมีสิทธิรับรู้ทุกเรื่องผ่านการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เพราะผลของการประชุมมีผลโดยตรงต่อชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ไปเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2556  โดยภายหลังมีการนำเสนอข่าวออกไป ได้สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับคุณมานะชายเป็นอย่างมาก เนื่องจากในวันดังกล่าวคุณมานะชายไม่ได้ตำหนิการเข้ามาทำข่าวของสื่อมวลชน แต่ได้มี สท.คนหนึ่งในที่ประชุมยกมือขึ้นสอบถาม ซึ่งคุณมานะชายก็ได้ชี้แจงไปว่า ไม่ได้ห้ามสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว เพียงแต่ต้องทำให้ถูกกฎระเบียบและขั้นตอนเท่านั้น
     โดยจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ในวันนั้นผู้สื่อข่าวที่เข้าไปทำข่าวคือนายกิตติศักดิ์ ขันตี ผู้สื่อข่าวข่าวออนไลน์หนองคาย และได้ถูกนำเสนอข่าวออกไป และพบว่าเป็นการนำเสนอข่าวที่ผิดพลาด ตนในฐานะบรรณาธิการข่าวจึงน้อมรับความผิดพลาด โดยการเดินทางมาขอโทษและขออภัยกับคุณมานะชายในครั้งนี้
      นายมานะชายฯ เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ทั้งสองได้กล่าวคำขอโทษพร้อมมอบช่อดอกไม้ ซึ่งตนก็ให้อภัยทั้งสองคน และก็ได้ติติงไปว่า เมื่อผู้สื่อข่าวมีความสำนึกผิดและยอมรับความผิดพลาด ตนในฐานะผู้ใหญ่ที่อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน เป็น สท.มาหลายสมัย จึงพร้อมยกโทษให้และถอนคำร้องทุกข์ และขอให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนกับสื่อมวลชน เมื่อจะนำเสนอข่าวควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนนำเสนอข่าว และตนก็พร้อมเปิดกว้างให้สื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวการประชุมสภาเทศบาลเมืองท่าบ่อได้ตลอด แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ร่วมถ่ายภาพและจับมือประสานสามัคคีกัน ก่อนแยกย้ายกัน
     ซึ่งก่อนที่นายภัทรวินทร์ ลีปาน (โจ้) บรรณาธิการข่าวออนไลน์หนองคาย นายกิตติศักดิ์ ขันตี (ปุ๊) ผู้สื่อข่าวออนไลท์หนองคาย จะเข้ามอบช่อดอกไม้ขอขมาขอโทษต่อประธานสภาฯ ได้ให้ทนายความส่วนตัวเข้าทำความเข้าใจว่าไม่ให้ใคร คนไหน หรือนักข่าวแขนงใดเข้าไปทำข่าวอย่างเด็ดขาด เพราะอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลังการขอโทษ นายมานะชายฯ จึงได้เปิดเผยในเรื่องดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวภายหลัง.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น