วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หนองคาย - ชาวตำบลโคกคอน โชว์แสดงแสงสีเสียง บรรพวิถี ชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน ถวายพระพรวงศ์จักรีนฤบดินทร์ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาวตำบลโคกคอน อย่างยิ่งใหญ่

     เมื่อเวลา 19.00 น. คืนวันที่ 5 พ.ย. 57 ที่บริเวณลานหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานเปิดการแสดงประกอบแสงสีเสียง ในชื่อ “บรรพวิถี ชีวีอีสาน แหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน ถวายพระพรวงศ์จักรีนฤบดินทร์”  ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลโคกคอน จัดขึ้นเป็นครั้งแรก  เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของชาวตำบลโคกคอนและแหล่งโบราณคดีบ้านโคกคอน เพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนอีสานในตำบลโคกคอน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดหนองคาย ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
     โดยการแสดงนั้น เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวความความเป็นมาทางประศาสตร์ของชาวตำบลโคกคอน โดยมีราษฎรจากหมู่บ้านท่าช้าง ประเทศลาว ได้อพยพหลบหนีการสงครามฮ่อ (จีนใหญ่) ข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นฝั่งประเทศไทย การอพยพในครั้งนั้นได้ขนสัมภาระทรัพย์สินเงินทองติดตัวมาด้วย มีครอบครัวหนึ่งได้หาบครกหินเคลือบทองคำมาด้วย ซึ่งเป็นครกหินที่มีขนาดใหญ่ ขนาดกว้างมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร สูง 45 เซนติเมตร พอมาถึงบริเวณที่เหมาะสมจึงหยุดการเดินทาง แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน กลุ่มกบฏฮ่อได้เข้าโจมตีหมู่บ้านและปล้นสะดม ชาวบ้านกลัวกลุ่มกบฏฮ่อจะปล้นครกหินเคลือบทองคำไป จึงได้ซ่อนครกหินเคลือบทองคำไว้ที่หนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้าน และเมื่อสงครามสงบลงก็ได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านโคกคอนคำ” จนกระทั่งเห็นว่าชื่อเก่ายาวเกินไป จึงได้เป็นมาใช้ชื่อ “บ้านโคกคอน” สืบเนื่องต่อมาจนถึงปัจจุบัน
     ตำบลโคกดอน ยังเป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาถึงสมัยทราวดี เป็นเวลา 1,500 – 2,500 ปี มีทรัพยากรทางด้านวัฒนธรรมที่เป็นวัตถุทางศาสนา มีความหลากหลายของอุปกรณ์ทางชาติพันธ์ มีภูมิปัญญาพื้นบ้าน และเป็นชุมชนทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

     ซึ่งการแสดงชุดนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมการแสดงอย่างคับคั่ง การแสดงแสงสีเสียงก็เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นการนั่งชมพร้อมรับประทานอาหารแบบพาแลงพื้นบ้านอีสาน ไปพร้อมๆ กัน.














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น