วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ตำรวจหนองคาย รวบผู้ต้องหาสามีภรรยาฉ้อโกงเงินหลายสิบล้านบาท หลังชักชวนเหยื่อร่วมลงทุนทำออร์แกไนซ์จัดงาน แถมจ่ายเช็คเด้ง ผู้เสียหายเบื้องต้นที่เข้าแจ้งความไว้ 12 ราย

       วันที่ 21 ส.ค.58 ที่ สภ.เมืองหนองคาย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายธัชชัย ยอดถา อายุ 47 ปี และ น.ส.กานต์มธุลดา สินนวกุลธร อายุ 41 ปี สองสามีภรรยาฐานฉ้อโกงเงินจำนวน 23 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความไว้ 12 ราย และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่ม หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการจับกุมตัวสองสามีภรรยาได้แล้ว คาดว่ามีเงินที่ถูกฉ้อโกงแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
       การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 น.ส.วารี ปัญญาศิริ กับพวกรวม 12 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองคน ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 โดยผู้แจ้งได้มอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีไว้ให้กับพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ
       ต่อมาศาลได้อนุมัติออกหมายจับเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2558 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ที่บ้านพักเลขที่ 538 หมู่ 3 ต.หนองขอนกว้าง จังหวัดอุดรธานี ในช่วงบ่ายของวันที่ 19 สิงหาคม 2558 และได้นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองหนองคาย
       สำหรับพฤติกรรมการฉ้อโกงของผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้อ้างกับผู้เสียหายว่า รับจัดบูธงานแสดง(ออร์แกไนซ์จัดงาน) หรือประมูลพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ได้ จึงชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนด้วย โดยจะได้ผลกำไรตอบแทนจากเงินที่ลงทุนร้อยละ 10 ทุก 15 วัน โดยผู้ต้องหาได้ออกเช็คค้ำประกันเงินที่มาลงทุนไว้
       ซึ่งตอนแรก ๆ ผู้เสียหายจะได้รับเงินที่อ้างว่าเป็นผลกำไร จากนั้นผู้เสียหายก็จะลงทุนเพิ่มมากขึ้นและชักชวนให้ญาติพี่น้องและคนที่รู้จักมาร่วมลงทุน  ซึ่งทุกคนที่นำเงินมาร่วมลงทุนก็จะได้รับผลกำไรตอบแทนในระยะแรก ๆ  จึงทำให้นำเงินมาลงทุนมากขึ้น
       เวลาผ่านประมาณ 1 ปีเศษ ก็จะไม่ได้รับผลกำไรอีก จึงได้นำเช็คที่ค้ำประกันเงินที่ลงทุนไว้ไปขึ้นเงิน ปรากฏว่าเช็คเด้ง เมื่อไปทวงถามก็ได้รับการปฏิเสธที่จะจ่ายเงินคืนให้ จึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น