วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หนองคาย - เกษตรกรเลี้ยงตะพาบน้ำประสบผลสำเร็จ หลังจากที่ทำนาข้าวถูกน้ำท่วมซ้ำซากและเลี้ยงปลายากกว่าเลี้ยงตะพาบน้ำ มีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาซื้อถึงที่ และตลาดเริ่มต้องการมาก จนต้องขุดบ่อดินเลี้ยงเพิ่มรองรับลูกค้าจากประเทศสมาชิกอาเซียน มีรายได้จากการจำหน่ายในแต่ละปีหลายแสนบาท

       นายกิตติพงษ์ ยอดคุณ อยู่บ้านเลขที่ 280 หมู่ที่ 13 บ้านหนองไผ่ ตำบลหาดคำ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เกษตรกรเลี้ยงตะพาบน้ำ กล่าวว่า แต่ก่อนตนมีอาชีพทำนา ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากนาที่ทำถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ได้ผลผลิตน้อย เลี้ยงปลาก็เลี้ยงยาก ลงทุนก็มาก จึงมีแนวคิดทำอาชีพเสริมหารายได้เลี้ยงครอบครัว จึงขุดบ่อดิน จำนวน 3 บ่อ บนเนื้อที่นาข้าว จำนวน 5 ไร่ ส่วนหนึ่งก็สร้างบ้านพักอาศัย ไปซื้อลูกตะพาบน้ำพันธุ์ไต้หวันมาเลี้ยงทดลอง บ่อละ 2,000 ตัว ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยงก็จะเป็นอาหารปลาดุก ปลาตาย และหอยเชอรี่ การให้อาหารตัวเล็กก็จะให้ 2 ครั้ง เช้า- เย็น ส่วนตัวโตก็จะให้อาหารครั้งเดียว เลี้ยงประมาณ 17-18 เดือน เก็บขายได้ กิโลกรัมละ 250-300 บาท มีลูกค้าและตลาดต้องการมาก โดยเฉพาะลูกค้าจาก สปป.ลาว จะเดินทางมาซื้อจำนวนมาก ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
       ช่วงระยะเวลาก่อนที่จะได้ขายตะพาบ ก็จะเพาะพันธุ์ลูกตะพาบน้ำขาย ด้วยการสร้างโรงวางไข่ไว้ เพื่อให้แม่พันธุ์ตะพาบน้ำมาวางไข่ 2 วัน จะเก็บได้ครั้งละ 200-300 ฟอง จากนั้นจะนำไปไว้ที่โรงฟักไข่ ทำพื้นที่กั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม นำทรายหยาบ ๆ มาเทใสไว้ แล้วนำไข่ที่ได้ไปวางไว้ถมด้วยทราย ประมาณ 50-60 วัน ไข่ก็จะทยอยฟักเป็นตัว จากนั้น จะนำไปลงบ่ออนุบาลที่ทำไว้ มี 48 บ่อ มีลูกพันธุ์ปล่อยไว้ประมาณ 3,000-5,000 ตัว โตได้ประมาณ 1 เดือน แข็งแรงดี ก็จะขายได้ตัวละ 10-15 บาท ก็มีลูกค้ามารับซื้อ และไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกเช่นกัน
       ช่วงที่วางไข่ตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม ซึ่งแต่ละปีตนก็จะเหลือลูกพันธุ์ไว้จะไม่จำหน่ายจนหมด เพราะจะนำลูกตะพาบน้ำไปเลี้ยงไว้ในบ่อดินหมุนเวียนกันไปในแต่ละปี ปัจจุบันได้ขุดบ่อดินเพิ่มอีก 2 บ่อ เป็น 5 บ่อ เพื่อเพิ่มปริมาณตะพาบน้ำ รองรับความต้องการของลูกค้าทั้งไทยและลาว ซึ่งคาดว่าหากเปิดประตูสู่อาเซียนจะมีลูกค้าจากจีน มาสั่งซื้อเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากตลาดความต้องการมีมากขึ้น
       สำหรับการเลี้ยงตะพาบน้ำ ตนคิดว่า เลี้ยงง่ายกว่าเลี้ยงปลาอีก ดูแลง่ายและเมื่อตัวโตจะแข็งแรง เป็นสัตว์ที่กินน้อย ไม่มีโรคภัย และจะไม่มีปัญหาในการเลี้ยง เพียงแต่เฝ้าระวังในช่วงหน้าฝนไม่ให้ออกจากบ่อดินได้ ต้องทำรั้วแผ่นกระเบื้องปิดกั้นไว้เท่านั้น สำหรับตนเองถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ ตะพาบน้ำที่เลี้ยงไว้วางไข่แต่ละปีรวมแล้วหลายพันฟอง ทำให้มีรายได้โดยการจำหน่ายลูกพันธุ์ และตะพาบน้ำ ในแต่ละปีมีรายได้กว่า 300,000 บาท หรือมากกว่านั้นแล้วแต่ขนาดของตะพาบน้ำ ถือว่าเป็นอาชีพเสริมเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี ส่วนผู้สนใจต้องการเลี้ยงตะพาบน้ำก็สามารถมาศึกษาดูงานได้ เพราะตะพาบน้ำเลี้ยงไม่ยากอย่างที่คิด จนถึงปัจจุบันตนเลี้ยงตะพาบน้ำประสบผลสำเร็จมาแล้วกว่า 5 ปี.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น