วันนี้ (8 ม.ค. 58) ที่สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ
อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ท.จักรทิพย์ กูลพฤกษี รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ
พ.ต.ท.ทันสมัย พรหมสิทธิ์ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าบ่อ
พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.ต.สุริยะ เต่าทอง สว.สส.สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
แถลงข่าวจับกุม นายสกล ลวงงาม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 9 และนายศุรชัย
โครตชมพู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 9 ซึ่งทั้งสองเป็นคนตำบลหนองนาง อ.ท่าบ่อ
จ.หนองคาย ข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นและชิงทรัพย์
พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าผู้ต้องหาที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ยี่ฮ่อฮอนด้าเวฟ
สีดำ หมายเลขทะเบียน กษล 710 หนองคาย อาวุธมีดปลายแหลมแบบพับได้ 1 เล่ม สร้อยข้อมือของผู้เสียหาย 1 เส้น โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย
1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของทั้งสองคน
พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า
ผู้ต้องหาทั้งสองได้ล่อลวงหญิงสาวชาวลาว อายุ 15 ปี
ในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลโพนสา มาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณริมถนนมิตรภาพท่าบ่อ-หนองสองห้อง
หมู่ 9 ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 58 เวลา 20.10 น.
ต่อเนื่องถึงวันที่ 8 ม.ค. 58 เวลาประมาณ 03.30 น.
โดยได้ใช้กำลังบังคับพร้อมกับเอาเศษผ้ามัดมือ มัดเท้าผู้เสียหาย แล้วร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราจนเสร็จความใคร่ไปคนละครั้ง
ก่อนจากไปได้ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือและสร้อยข้อมือแบบลูกปัดสีเขียวของผู้เสียหายไปด้วย
ซึ่งก่อนไปหนึ่งในผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธมีดออกมาข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้บอกใคร
ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนั้น นายสกลฯ
มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่ารัดคอหญิงสาวนิรนามแล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 8
พ.ค. 57 ปีที่ผ่านมา และเป็นคดีในพื้นที่รับผิดชอบ
สอบสวนนายสกลฯ หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า
ในวันที่เกิดเหตุตนได้ไปเที่ยวและซื้อบริการหญิงสาวชาวลาวที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง
ในพื้นที่ ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ ในราคา 1,000 บาท แล้วจะพาไปยังรีสอร์ท แต่ได้แวะจอดรถรับนายศุรชัยฯ
ที่รออยู่กลางทาง และได้มีการเจรจากันกับหญิงสาวว่าขอให้ร่วมหลับนอนกับนายศุรชัยด้วย แต่ตกลงกันไม่ได้ โดยหญิงสาวไม่ยอมจึงได้ร่วมกันลงมือลากหญิงสาวรุมข่มขืนบริเวณริมถนนดังกล่าว
จนเสร็จความใคร่ไปคนละครั้ง หลังจากนั้นได้ใช้ผ้ามาทำเป็นเชือกผูกหมัดแขน ขา
ผูกติดไว้กับต้นไม้ข้างทาง โดยมีนายศุรชัยใช้มีดจี้บังคับไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร
นายสกลฯ ยังสารภาพว่า คดีฆ่ารัดคอหญิงสาวนิรนามแล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 57 ปีที่ผ่านมา ตนก็มีส่วนรู้เห็น แต่ตนไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า
คนลงมือฆ่าคือพี่ชายที่ตนนับถือชื่อ บุญส่ง ในวันที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 20.00 น.
ตนและนายบุญส่งได้ไปเที่ยวร้านคาราโอเกะแถวบ้านเสียว ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่
จ.หนองคาย อยู่ได้ไม่นานตนก็เดินออกจากร้านคาราโอเกะมานั่งอยู่ที่ท้ายรถกระบะ
ได้ประมาณ 5-6 นาที เห็นนายบุญส่งเดินออกมาจากร้านพร้อมกับหญิงสาวชื่อ “แพรว” แล้วได้ขับรถออกจากบริเวณนั้น
โดยตนนั่งอยู่ท้ายกระบะรถยนต์ ขับรถออกมาได้ประมาน 10 กิโลเมตร
นายบุญส่งกับหญิงสาวมีปากเสียงทะเลาะกันและได้จอดรถลงข้างทาง เห็นนายบุญส่งเปิดประตูรถจูงแขนผู้หญิงออกจากรถเดินเข้าไปข้างทาง
จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องแล้วก็เงียบหายไป ขณะที่ตนตอนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างรถกระบะ
ซึ่งไม่เห็นเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนั้นนายบุญส่งได้เรียกตนไปช่วยยกร่างผู้หญิงซึ่งตนคิดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วมาขึ้นรถ
แล้วนำร่างของผู้หญิงมาโยนทิ้งบริเวณริมโขงแถวบ้านกองนาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ ซึ่งก่อนจะโยนลงน้ำได้ทำการใช้เชือกรัดคอและหมุนขันชะเนาะจนแน่น
แล้วค่อยโยนร่างผู้หญิงทิ้งลงน้ำโขง
เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน
สภ.ท่าบ่อ และจะติดตามตัวนายบุญส่งมาทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น