วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นายอำเภอท่าบ่อ และหัวหน้าส่วนราชการ นำคณะกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน เข้ากราบไหว้สักการะพระธาตุหลวงและหอพระแก้ว นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย



     วันที่ 25 ก.ค. 56 นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และหัวหน้าส่วนราชการด้านการปกครอง นำกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 50 คน เดินทางเข้ากราบไหว้พระธาตุหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว หลังจากเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ลาว ระหว่างอำเภอท่าบ่อ กับเมืองหาดซายฟอง ซึ่งพระธาตุหลวงนี้ เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งนครหลวงเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ โดยนายอำเภอท่าบ่อ ได้นำคณะร่วมสวด อิติปิโส และเวียนเทียนรอบพระธาตุหลวง 3 รอบ เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และเดินชมบริเวณรอบๆพระธาตุหลวง ชมศาลาพันห้อง 
   
     
     สำหรับศาลาพันห้อง แต่เดิมนั้นเป็นอาคารไม้ มีอายุยืนยาวหลายร้อยปี ต่อมารัฐบาลลาว ร่วมกับองค์การศาสนาสัมพันประเทศลาว และชาวลาว เห็นว่าอาคารที่เป็นไม้มีความชำรุดทรุดโทรม จึงร่วมกันรื้อถอนและก่อสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนพิธี เป็นศูนย์รวมใจของชาวลาว และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางศาสนาที่สำคัญของประเทศลาว ใช้งบประมาณในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ 18 ตื้อกีบ โดยหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ยังได้มอบเงิน 300 ล้านกีบ สร้างศาลาพันห้องและกุฏิ ด้วย

    
     จากนั้น คณะทั้งหมดก็ได้เดินทางไปยัง หอพระแก้ว  ซึ่งเคยเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกต ปัจจุบันได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานคร ในสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นผู้อัญเชิญ ภายในหอพระแก้วจะมี "พระบาง" เป็นพระพุทธรูปทรงยืนที่สร้างขึ้นมาพร้อมๆกับพระแก้วมรกต เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปคู่บารมีพระแก้วมรกต นั้นเอง.
     
อภิชาติ แสงรุ่ง ข่าว NC News รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น