วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ชมรมผู้ประกอบการดูดทราย เข้าพบและยื่นหนังสือ ต่อ นรข.หนองคาย

ชมรมผู้ประกอบการดูดทราย เข้าพบและยื่นหนังสือ ต่อ นรข.หนองคาย ผ่านไปยังกรรมการเกี่ยวข้องระดับจังหวัด  เพื่อขอความอนุเคราะห์  ในการนำเรือและเครื่องอุปกรณ์ดูดทราย ออกลดลองดูดทรายหลังจากหยุดมานานกว่า 4 เดือน ตามมติของกรรมการ ก่อนจะถึงวันอนุญาตให้ดูดจริงในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
       วันที่ 20 ต.ค.ซช 58 เวลาประมาณ  14.00 น. ที่ สถานีเรือหนองคาย นรข.เขตหนองคาย นายนริศ  แป้นใหญ่ บริษัท อุดรสหโชค จำกัด  ประธานผู้ประกอบการดูดทรายจังหวัดหนองคาย  พร้อมด้วย นายนเรศ   แป้นใหญ่ ,นายพูนชัย  ภูตามาตย์ และ นายสมบัติ  ทะแพงพันธ์ เข้าพบและยื่นหนังสือต่อ น.ท.พงศกร   อิฐสมบัติ  ผบ.หมู่เรือที่ 4 และ รรก.หน.สน.เรือหนองคาย ที่เป็นตัวแทนส่วนราชการ และเป็นผู้รับผิดชอบดูแลน่านน้ำแม่น้ำโขงของประเทศไทย เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการนำเรือดูดทรายพร้อมอุปกรณ์ ออกลดลองดูดทรายหลังจากหยุดดูดทรายตามระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมการ นานกว่า  4 เดือน เพื่อเป็นการเช็คความพร้อมของเครื่องยนต์เรือและอุปกรณ์  ก่อนที่จะถึงวันอนุญาตให้ทำการดูดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 นี้
       น.ท.พงศกร   อิฐสมบัติ  กล่าวว่าจะได้รายงานให้ น.อ.สุชาติ  อุดมนาค ผบ.นรข.เขตหนองคาย  ทราบ และจะนำหนังสือและข้อเสนอของผู้ประกอบการ เสนอต่อกรรมการระดับจังหวัด หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบต่อไป และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ก่อนที่จะขนย้ายทรายนั้นควรเป็นทรายแห้ง ไม่ให้มีหยดน้ำ ให้คลุมด้วยผ้าใบ เพื่อป้องกันมวลพิษ ที่จะส่งผลต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ตลอดจนประชาชนที่อยู่ใกล้กับเส้นทางรถบรรทุกทรายวิ่งผ่าน  และให้ชมรมผู้ประกอบการดูดทรายไปประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกปฏิบัติตามระเบียบให้ถูกต้อง
       เรื่องเรือลาวที่ลักลอบเข้ามาดูดทรายในเขตประเทศไทยนั้น  ทางจังหวัดจะต้องทำหนังสือประท้วงไปยังเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ของ สปป.ลาว  ซึ่ง นรข.ก็ได้นำเรือออกไปผลักดันให้พ้นจากเขตน่านน้ำไทยแล้วถึง 2 ครั้ง  หลังจากการที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน  ถึงแม้จะมีการตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่ายว่าให้หยุดดูดทรายในห้วง  ก.ค.-ต.ค. รวม 4 เดือนเนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำโขงมีปริมาณน้ำสูงและหลาก ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ตลิ่งฝั่งโขงได้รับความเสียหาย  ผู้ประกอบการไทยได้หยุดดูดตามข้อตกลงร่วมกันเมื่อ ปี 2551
       แต่เรือดูดทรายของลาว ไม่ได้หยุด  คงดำเนินการดูดทรายต่อเนื่องโดยไม่ใส่ใจว่าจะส่งผลกระต่อความสัมพันธ์อันดีต่อประชาชนทั้งสองฝั่งแม้แต่น้อย และคาดว่าจะมีการประชุมผู้ประกอบการดูดทรายร่วมระหว่าง สปป.ลาว กับ จังหวัดหนองคาย  เกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวภายในเดือน พฤศจิกายน นี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น