วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - เกษตรกรชาวบ้านหนองแวง จ.หนองคาย หลังกลับจากต่างประเทศ ได้พลิกผันอาชีพปลูกต้นเพกาพันธุ์เตี้ย หรือลิ้นฟ้า พืชผักพื้นบ้านที่มีสรรพคุณเป็นยา ที่เกษตรกรเริ่มนิยมปลูกกัน

       หลังจากไปรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. และเมื่อเงินไม่พอใช้ก็หันไปเมืองนอกที่ประเทศญี่ปุ่นได้ 10 ปี แต่ไม่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ สุดท้ายกลับจากญี่ปุ่น นายอักศร หอมประเสริฐ อายุ 61 ปี ชาวบ้านหนองแวง หมู่ 7 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ตัดสินใจซื้อเพกาพันธุ์เตี้ย หรือลิ้นฟ้า มาปลูกเพื่อขายและกิน จนทุกวันนี้มีรายได้หมุนเวียนในครอบครัววันละกว่า 500 บาท จากการขายฝักลิ้นฟ้า
       นายอักศร หอมประเสริฐ เจ้าของสวนต้นลิ้นฝ้า กล่าวว่า หลังจากกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น มาพักอยู่บ้านและเห็นที่ว่างในสวนมีเยอะ และอายุก็มากแล้วก็เลยเกษียรตนเองและทำเกษตรที่บ้านเราดีกว่า ซึ่งตนได้นำพันธ์กล้ามาจากศูนย์สาธิตการพัฒนาพื้นที่บ้านยามกาน้อย อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี  ในต้นละ 200 บาท มีความสูง 20 เซนติเมตร จำนวน 50 ต้น นำมาปลูกในพื้นที่ 2 งานในที่ดินของตน ปลูกระยะห่างกัน 4 เมตร ปลูกง่ายในดินทุกสภาพ โตไว ทนแล้ง ไม่ต้องดูแลมาก เพียงใส่ปุ๋ยคอก ให้น้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้งเท่านั้น ยิ่งต้นลิ้นฟ้ามีอายุมากขึ้น ผลผลิตยิ่งเพิ่มขึ้น รับรองว่าจะมีผลผลิตให้ภายใน 8 เดือน
       นายอักศร กล่าวอีกว่า เริ่มแรกที่เริ่มปลูกก็มีคนมาหัวเราะตน ว่าปลูกทำไมเยอะแยะเมื่อไหล่จะได้กิน ในช่วงที่รอผลตนก็ปลูกมะเขือ พริกและพืชชนิดอื่นขาย พอลิ้นฟ้าใหญ่ขึ้นมาได้ 8 เดือน ก็ออกดอกให้เห็นและเริ่มเป็นผลลูก ไม่ต้องใส่น้ำมากเนื่องจากใบจะเหลืองและจะให้ลำต้นตาย ส่วนหญ้าในสวนก็ใช้เครื่องตัด เนื่องจากผมไม่ชอบใช้ยาฆ่าหญ้าเลยนำถุงพลาสติกดำมาคลุมร่องแทน
       การเก็บขายแต่ละครั้งก็ประมาณ 100 ฝัก มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ฝักละ 15 – 20 บาท ทุกกวันนี้มีคนมาซื้อจำนวนมาก ซึ่งตนมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 บาท/วัน หรือขายกิโลกรัมละ 50 บาท จะได้เงิน 10,000 บาท และก็ต้องขายตามแม่ค้าตามบ้าน ซึ่งจะขายถูกกว่าแม่ค้าไม่ได้ อนาคตก็จะทำการปักชำเพื่อขยายผลและจำหน่ายให้กับเกษตรที่สนใจ อีกด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น