วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ขบวนการค้ายาเสพติด ปะทะกับเจ้าหน้าที่ ยึดกัญชา 765 กก.

เกิดการปะทะกันระหว่างขบวนการค้ายาเสพติด กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม ยิงกันสนั่น นานกว่า 5 นาที ต้องขอกำลังเสริมจาก ตชด. และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ก่อนคนร้ายทิ้งรถและกัญชากระโดดลงเรือขับหลบหนีข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว  และสามารถยึดกัญชาแห้งอัดแท่งได้ประมาณ 756 กิโลกรัม โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
       เมื่อเวลาประมาณ  20.00 น. ในคืนวันที่ 21 ต.ค.58  ที่บริเวณสวนยางพาราริมฝั่งโขง บ้านม่วง หมู่ 2 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เกิดการปะทะกันระหว่างขบวนการค้ายาเสพติด กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังคม ยิงกันสนั่นสวนยางริมแม่น้ำโขง ต้องขอกำลังเสริมจาก ตชด. และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี คนร้ายได้ทิ้งรถและกัญชากระโดดลงเรือขับหลบหนีข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว  จึงได้รายงานให้ นายสุชาติ นพวรรณ  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ทราบ
       จากนั้น ได้สนธิกำลังหน่วยงานในพื้นที่เข้าตรวจสอบพบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 16 กระสอบ น้ำหนัก 756 กิโลกรัม ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ตระกั่วกันน้ำ บรรจุในถุงหัวอาหารปลาสีขาว ทับด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง บรรทุกอยู่บนรถยนต์ปิคอัพ อีซูซุ  ดีแม็กสี่ประตู สีบรอนเทา หมายเลขทะเบียน ฎบ 6503  กรุงเทพมหานคร ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ตรวจค้นภายในรถพบสมุดคู่มือรถ จำนวน 2 เล่ม และแผ่นทะเบียนปลอม จำนวน  2 แผ่น  จึงได้ตรวจยึดมาที่ กองร้อย อส.ที่ 5 อ.สังคม จ.หนองคาย
       ในการปะทะกันครั้งนี้ นายนพดล  วิริยะยุทธ นายอำเภอสังคม ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดประเภทกัญชา ข้ามจาก สปป.ลาว มาส่งที่บริเวณสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านบ้านม่วง หมู่ 2  ต.บ้านม่วง ประมาณ 1,000 แท่ง (พันกิโลกรัม) จึงได้รายงานให้ นายสุชาติ  นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ทราบ  จากนั้นได้จัดกำลังเจ้าหน้า อส.ออกปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามเข้าดักซุ่ม
       จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. อส.ชัยยา ปลัดพรหม อส.วีระชัย พิมโพธิ์พันธ์ สังเกตุเห็นเรือจำนวน 5 ลำ บรรทุกสิ่งของและมีชายนั่งมาในเรือลำละ 2 คน มุ่งหน้ามายังฝั่งไทย ใกล้กับที่ทั้งสองซุ้มอยู่ และพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในสวนยางพารา และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  จึงได้แสดงตนเข้าตรวจค้น เมื่อคนขับเห็นจึงบีบแตรรถยนต์ดังยาวเป็นการส่งสัญญาณ และวิ่งกระโดดลงเรือ หลบหนีพร้อมกัญชาอีกจำนวน 300 กิโลกรัม ที่ยังลำเลียงขึ้นไม่หมด
       จากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนไม่ทราบชนิดยิงมาจากเรือ เป็นชุดๆ จึงเข้าที่กำบังและยิงสวนกลับไปนานประมาณ 5 นาที จึงได้วิทยุขอกำลังจาก กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ตชด. ที่อยู่ใกล้ เข้าช่วย และเข้าตรวจสอบพบกัญชาจำนวนดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดและนำมาที่ กองร้อย อส.ที่  5 อ.สังคม เพื่อตรวจนับละเอียดอีกครั้ง
       ต่อมาเจ้าหน้าที่ยังสามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีมาได้จำนวน 3 ราย เบื้องต้นทั้งหมดรับว่าพวกตนเป็นเพียงคนรับจ้างให้มารับกัญชาเท่านั้น เพื่อจะนำไปส่งให้กับผู้ค้าในพื้นที่ตอนในของประเทศ  ขณะเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปรับกัญชาที่พ่อลาวนำมาส่งให้ที่บริเวณเกิดเหตุ  ขณะกำลังลำเลียงกัญชาขึ้นจากเรือมาใส่รถ  พบเจ้าหน้าที่ ตกใจวิ่งหลบหนี แต่ในที่สุดไปไม่รอดเนื่องจากพวกตนเป็นคนมาจากที่อื่น ไม่รู้พื้นที่ จึงหลบอยู่ป่าริมแม่น้ำโขงใกล้กับที่เกิดเหตุ  เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้ออกจากพื้นที่ไปแล้ว  จึงได้แยกกันหลบหนีออกจากพื้นที่  ลัดเลาะไปตามป่าเดินเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อหาซื้อรองเท้าและข้าวทาน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว
         จากนั้น จะนำตัวทั้งสองคนมาทำการสอบสวน และควบคุมตัวพร้อมของกลางกัญชา จำนวน 765 แท่ง (765 กก.) ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นางิ้ว อ.สังคม ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.   

 .   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น