วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว พื้นที่จังหวัดหนองคาย

     วันนี้ (21 เม.ย. 57) นางจิราวรรณ์ แย้มประยูร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามงานโครงการเมืองเกษตรสีเขียว ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชน บ้านหงษ์ทอง หมู่ 5 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการพัฒนาเกษตรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีความปลอดภัยด้านอาหารและเป็นฐานสร้างรายได้ที่สำคัญด้วยการขับเคลื่อนทุกภาคส่วน
     นางจิราวรรณ์ แย้มประยูร รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการเมืองเกษตรสีเขียว ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เลือกจังหวัดหนองคาย เป็น 1 ใน 6 จังหวัด ที่ถูกคัดเลือกให้มีการทำงานเป็นเมืองเกษตรสีเขียว โดยการทำงานของกระทรวงฯจะทำงานร่วมกับจังหวัด มีการจัดทำเป็นคณะทำงาน มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพราะเรามีเกษตรจังหวัดเป็นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ทำเรื่องผักปลอดสารพิษและขยายต่อไปในเรื่องของผักอินทรีย์ในอนาคต ก็เลยเป็นหนึ่งในโครงการที่เข้ามาในระบบของกระทรวงฯ อย่างไรก็ตามต้องประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้มีกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) ปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างในสินค้าเกษตรทั้งพื้นที่ และการพัฒนาคนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถทำการผลิตและอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
     จากนั้น รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางไปยังบ่อปลาสุรินทร์ฟาร์ม ณ บ้านกองนาง หมู่ 1 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลานิลหมันส่งออกไปยัง สปป.ลาว มากที่สุดสำหรับในพื้นที่ และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์ในแม่น้ำโขงที่หายาก เช่น ปลาบึก ปลาคัง เป็นต้น ก่อนที่รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ จะเดินทางไปดูไร่สับปะรดในที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ต่อไป.

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงาน แก่ข้าราชการตำรวจ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 4

     เวลา 14.30 น. วันนี้ (18 เม.ย. 57)  ที่สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ(ชั่วคราว) อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้กับข้าราชการตำรวจ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 4 โดยมี พล.ต.ต.ชัยญัติ  สายถิ่น ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.หนองคาย พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผู้กำกับการ สภ.ท่าบ่อ นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ หัวหน้าส่วนราชการ แม่บ้านตำรวจ พร้อมด้วยคณะ กต.ตร.สภ.ท่าบ่อ ประชาชนให้การต้อนรับ
     พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าตรวจแถวตำรวจพร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เจ้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ และเยี่ยมชมภายในอาคารสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ที่ใช้บ้านพักของผู้กำกับเป็นอาคารปฏิบัติราชการชั่วคราว เพื่อให้สามารถใช้งานราชการบริการประชาชนได้ ซึ่งสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ได้ปรับปรุงอาคารห้องปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งห้องควบคุมผู้ต้องหา ห้องวิทยุสื่อสาร จุดรับแจ้งความ แม้กระทั่งห้องน้ำไว้บริการประชาชน สถานที่จอกรถได้ปรับปรุงตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อให้บริการประชาชนที่มาติดต่อราชการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นประธานรับมอบรถจักรยาน 8 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน จากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวอำเภอท่าบ่อ ที่ได้ร่วมบริจาคเพื่อนำไปใช้ตรวจตราดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมปลูกต้นมะค่าแดง เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ
     ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบว่าที่นี้ได้เป็นหน่วยที่มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นตัวอย่างได้ ก็ตั้งใจมาดูเพื่อให้เป็นกำลังใจท่านผู้กำกับและน้องๆ ตำรวจ และมอบนโยบายวิสัยทัศในการบริหาร เพื่อความผาสุกของประชาชน โดยได้กำหนดเจตนารมณ์ไว้ 3 ประการ ประการแรก เป็นตำรวจที่ปกป้อง เทิดทูน ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นสำคัญ ประการที่ 2 ได้เน้นย้ำอีกว่า เป็นตำรวจมืออาชีพ ยึดมั่นในธรรมมาภิบาลและพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยน คือการทำงานทั้งหมดนั้นต้องยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักความโปร่งใส ยึดหลักความมีส่วนร่วม ยึดหลักความคุ้มค่าและรับผิดชอบ และในข้อที่ 3 ผมให้เน้นย้ำถึงว่า เราเป็นตำรวจนั้นต้องให้ประชาชนมีความรักศรัทธา เชื่อถือ เป็นหัวใจสำคันในประการที่ 3

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

ที่หาดทรายทอง บ้านหัวทราย มีนักท่องเที่ยวแห่เล่นน้ำช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาอย่างล้นหลาม ประเมิน 3 วัน เงินสะพัดวันละ 500,000 บาท ซึ่งปีหน้า อบต.พานพร้าว เตรียมรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นสงกรานต์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะที่จอดรถ

     วันนี้ (16 เม.ย. 57) ที่หาดทรายทอง บ้านหัวทราย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ลงเล่นน้ำโขงเพื่อคลายร้อนจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมาเป็นแบบครอบครัว และบริเวณหาดทรายทองช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างคึกคักจนล้นหลาม ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งร้านบริการเป็นซุ้มอาหาร บริการห่วงยาง และบริการที่จอดรถ ต่างพออกพอใจสร้างรายได้ช่วงสงกรานต์ 3 วัน กำไรได้ไม่น้อย ตกประมาณ 500,000 บาท/ วัน มากกว่าปีที่ผ่านๆ มาถึง 1-2 เท่าตัว
     นายวิเชียร ศรีบุตรดี รองนายก อบต.พานพร้าว เปิดเผยว่า สำหรับหาดทรายทอง บ้านหัวทราย หมู่ 12 เปิดมาได้ประมาณ 5-6 ปี แต่ว่าการโปรโมทก็ยังไม่เท่าไหล่ สำหรับปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมารายได้ของร้านค้าในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นบนบ้านหรือที่ชายหาดรายได้จะมากกว่าปีก่อน เฉลี่ยแล้วรายได้จะอยู่ที่ประมาณ 400,000 – 500,000 บาท / วัน และปีนี้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวกันมากมาย ถึงขนาดว่าบางร้านรับไม่ไหว หาที่นั่งก็ไม่มี และแขกที่มาเที่ยวเราบริการไม่ทันเพราะมาเยอะมาก สาเหตุที่มีนักท่องเที่ยวมาลงเล่นน้ำโขงที่หาดทรายทองจำนวนมาก เพราะว่าที่หาดจอมมณีปีนี้ไม่มีหาดทรายให้ลงเล่น เมื่อนักท่องเที่ยวทราบว่าที่บ้านหัวทรายก็มีหาดทรายให้เล่นจึงเดินทางกันมาจำนวนมาก ภูมิประเทศก็น่าเที่ยว เพราะมีหาดทรายไม่ลึก เด็กตัวเล็กๆก็ยังลงไปเล่นได้ และบรรยากาศดีมากสามารถมองเห็นฝั่งนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ได้อย่างชัดเจน

     สำหรับปีหน้าทาง อบต.พานพร้าว จะพัฒนาปรับปรุง แก้ไข ให้สะดวกสบายกับนักท่องเที่ยวให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะสถานที่จอกรถ จะหาจุดจอดรถให้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวอีกด้วย.        
  

หลังเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ร้านคาร์แคร์หลายแห่งในอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย คึกคัก มีประชาชนนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ มาเข้าคิวรอใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อทำความสะอาดล้างคราบจากแป้งและดินโคลน

     ภายหลังจากเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ได้เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา บรรยากาศร้านคาร์แคร์ในตัวอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ในวันนี้ (16 เม.ย. 57) หลายแห่งเริ่มคึกคัก มีเจ้าของรถได้นำรถยนต์ของตนเองมาใช้บริการล้างอัดฉีดคราบสกปรก อย่างเช่นคราบแป้งและดินโคลนออกจากรถกันเป็นจำนวนมาก หลังจากได้นำรถยนต์ออกตระเวนเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจรับล้างอัดฉีดรถยนต์ภายในตัวเมืองอำเภอท่าบ่อ มีรายได้มากกว่าวันปกติเป็นพิเศษ โดยเฉพาะที่ร้านออโต้คลีน บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านน้ำโมง ภายในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีรถยนต์และรถจักรยายนต์มาเข้าคิวรอใช้บริการเป็นจำนวนมาก
     ซึ่งเจ้าของร้านออโต้คลีน เปิดเผยว่า ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ได้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการล้างรถเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากช่วงปกติจะอยู่ที่วันละไม่กี่คัน ขณะนี้เพิ่มมากขึ้น โดยคิดค่าบริการล้างรถยนต์ในราคาคันละ 160-400 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์กระบะและรถยนต์เก๋ง ส่วนรถจักรยานยนต์ก็พอมีเล็กน้อย คิดค่าบริการคันละ 50 บาท ซึ่งพนักงานในร้านต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่จะบริการเฉพาะเคลือบสีและล้างห้องเครื่อง เนื่องจากล้างรถไม่ทัน เพราะพนักงานล้างรถไม่เพียงพอเพราะหยุดงานกัน และคาดว่าจะมีลูกค้านำรถเข้ามาบริการจำนวนมากเช่นนี้ไปอีกประมาณ 2-3 วัน ซึ่งก็จะทำให้ที่ร้านของตนนั้นมีรายได้มากขึ้น ประมาณ 3,000-4,000 บาท/วัน

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

เทศบาลเมืองท่าบ่อ เปิดอุโมงค์น้ำ ภายใต้ชื่อ “ถนนข้าวกี่” ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงเดินเล่นสาดน้ำสงกรานต์กัน เป็นปีแรก

        เวลา 13.00 น. วันนี้ (15 เม.ย. 57) ที่ถนนท่าเสด็จ เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองท่าบ่อ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงาน ประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมเปิดถนนท่าเสด็จ จัดเป็นโซนนิ่งในการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ในลักษณะเป็นอุโมงค์น้ำ โดยใช้ชื่อว่า “ถนนข้าวกี่” ที่ได้จัดขึ้นเป็นปีแรก สำหรับให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเมืองท่าบ่อ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้เล่นสงกรานต์บนถนนข้าวกี่อย่างเต็มที่และสนุกสนาน
       ซึ่งภายในถนนข้าวกี่ ยังมีการจี่ข้าวกี่ทาไข่ขนาดใหญ่ไว้แจกจ่ายให้กับผู้เข้าร่วมงานได้กินกันอย่างอิ่มหนำสำราญแบบไม่คิดเงิน พร้อมความบันเทิงบนเวทีกลาง มีวงดนตรีขึ้นแสดงสลับสับเปลี่ยนสร้างความสนุกสนานตลอดทั้งวัน โดยเปิดให้สนุกสนานกันถึง 19.00 น. มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นสาดน้ำกันในบริเวณอุโมงค์น้ำที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดขึ้น ยาว 40 เมตร ซึ่งทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างมาก.

เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดขบวนแห่สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีไทย วันสงกรานต์ 57 อย่างยิ่งใหญ่ ส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

          วันที่ 13 เม.ย. 57 ที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้มีการจัดขบวนแห่ สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีไทย วันสงกรานต์ 57 ภายใต้ชื่อ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์”  ซึ่งปีนี้ยังจัดได้อย่างยิ่งใหญ่เหมือนเช่นปีผ่านๆ มา โดยพ่อค้าและประชาชนทั้ง 19 ชุมชน ร่วมงานสืบสานประเพณีสงกรานต์เมืองท่าบ่อ ตั้งขบวนจากปากทางซุ้มประตูเมืองท่าบ่อ ไปสิ้นสุดที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองท่าบ่อ มีระยะแห่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร ภายในขบวนมีขบวนรถบุพชาติแห่นางสงกรานต์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีขบวนฟ้อนลำ ซึ่งแต่ละชุมชนได้นำดนตรีพื้นบ้าน กลองยาว พิณ มาร่วมบรรเลงในขบวนแห่แต่ละชุมชนอย่างสนุกสนาน ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมสาดน้ำพระพุทธรูปในขบวนแห่ตลอดเส้นทาง
         สำหรับงานสงกรานต์ปีนี้ เทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้จัดงานประเพณีถึงความเหมาะสมให้อยู่ในกรอบวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม และความพอเพียงให้เหมาะสมต่อสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพต่างๆ ในทุกท้องที่ได้กลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง สร้างความสัมพันธ์อันดีในหมู่ญาติมิตร ตลอดทั้งส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นที่ลูกหลานจะได้รดน้ำขอพร พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ตลอดทั้งผู้สูงอายุที่เคารพนับถือเพื่อเป็นสิริมงคลสืบไป.

เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ จัดขบวนแห่งานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2557 ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ในงานประเพณีสงกรานต์

          เวลา 13.00 น. วันที่ 13 เม.ย. 57 ที่เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายพรชัย ปุริวัฒน์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาล พร้อมด้วยประชาชนใน 8 ชุมชน ร่วมจัดขบวนแห่งานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2557 ของเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ เพื่อเป็นการร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ในงานประเพณีสงกรานต์
          โดยในขบวนได้มีขบวนแห่สรงน้ำพระ ขบวนแห่เทพีสงกรานต์ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชม นอกจากนี้ยังมีขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นมาประยุกต์เข้าร่วมกับขบวนแห่ ร่วมถึงการแสดงฟ้อนรำจากประชาชนในชุมชนต่างๆ ทั้ง 8 ชุมชน อย่างสนุกสนาน ซึ่งตลอดเส้นทางของขบวนแห่ก็ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ สร้างความชุ่มฉ่ำและคลายร้อนให้กับขบวนแห่ด้วย.