เทศบาลตำบลโพนสา ดำเนินโครงการด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำชุมชนไปสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนและปลอดภัย

     เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 มี.ค. 57 ที่ แปลงสาธิต ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ประจำตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายสุรศักดิ์ บุญตาระวะ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลโพนสา นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ผู้นำชุมชน คณะกรรมการหมู่บ้าน เกษตรกร เข้าศึกษาและเรียนรู้เกษตรพอเพียงและการทำปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ ตามโครงการส่งเสริมรักษ์สุขภาพและพัฒนาเกษตรกรผู้ปลูกพืชปลอดภัย ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่เทศบาลตำบลโพนสา โดยการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชน ท้องถิ่น และภาคีต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการลดปริมาณการใช้สารเคมีและมาใช้เกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อนำชุมชนไปสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนและปลอดภัย และเพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้สารเดมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างจิตรสำนึกให้เกษตรกรมีความรับผิดชอบในการผลิต โดยไม่ทำรายผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดสินค้าที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน สามารถแข่งขันตลาดภายนอกได้ต่อไป. 

เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง พัดเอาหลังคาบ้านปลิวว่อนไปติดบนต้นไม้สูง ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่

     ที่บ้านแสนสุข หมู่ 3 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย บ้านเรือนราษฎรถูกลมพายุพัดทำให้ได้รับความเสียหายหลังคาบ้านถูกลมพัดหลุดออกทั้งแผง และไปตกห่างตัวบ้านและไปติดบนต้นไม้ได้รับความเสียหาย  นายสุรสิทธิ์ ดอนเกิด ส.อบต.บ้านว่าน กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 19 น. วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนั่งกินข้าวเย็นอยู่บ้านเพื่อน ก็เกิดมีลมพายุหมุนพัดมาจากท้ายหมู่บ้านทางทิศตะวันตก ด้วยความแรงและความเร็วพัดเข้าหลังคาบ้านและฉางข้าวหลุดออกไปทั้งแถบ และมีฝนตกลงมาเล็กน้อย ส่วนลมพัดอยู่นานประมาณ 45นาที จึงสงบ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

     ในการเกิดพายุฤดูร้องครั้งนี้ ยังทำให้ต้นมะขามอยู่ริมถนนสาย อ.ท่าบ่อ – อ.บ้าผือ จ.อุดรธานี ล้มทับเส้นทางจราจร เจ้าหน้าที่ได้เร่งตัดกิ่งไม้ออก นอกจากนี้ยังมีก่อไผ่ถูกแรงลมพัดล้มทับสายไฟฟ้า จนทำให้สายไฟฟ้าหักล้ม 2 ต้น

     ขณะที่ห้องเก็บของที่ติดกับกุฏิเจ้าอาวาสวัดแก้วพิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ ถูกต้นมะพร้าวล้มทับ ทำให้หลังคาห้องเก็บของได้รับความเสียหาย รวมทั้งฝ้าเพดาน พระลูกวัดต้องนำผ้าเต็นท์มาคลุมลังคาเพื่อป้องกันฝนชั่วคราว รวมไปถึงหลังคาศาลาบำเพ็ญกุศลหลังเก่า ก็ถูกกิ่งไม้ของต้นยางนาอายุกว่า 30 ปี หักลงมาทับหลังคาเสียหายเช่นกัน และยังมีเศษกิ่งไม้ ใบไม้ ตกเกลื่อนไปทั่วบริเวณวัด ส่วนความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป.

การแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิค ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 3 ระดับภาคอีสานตอนบน ได้ปิดฉากการแข่งขันลงอย่างเป็นทางการ โดยได้ตัวแทนไปแข่งขันรอบสุดท้าย 3 ทีม ซึ่ง 2 ใน 3 ทีม เป็นตัวแทนจากอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย

          เมื่อค่ำของวันที่ 18 มี.ค. 57 ที่ลานเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้มีการแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิค ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 3 ระดับภาคอีสานตอนบน ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน เป็นการชิงชนะเลิศในรุ่น 12-18 ปี 19-30 ปี และ 31 ปี ขึ้นไป โดยได้จัดการแข่งขันกันมาตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. เป็นต้นมา ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง กรมพละศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน / เยาวชน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากจากโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมกับการร่วมกันปลุกจิตสำนึกให้มีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ และทำการคัดเลือกทีมชนะเลิศไปเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย รอบสุดท้ายที่ จ.นครสวรรค์

     สำหรับผลการแข่งขันในรุ่น 12-18 ปี ปรากฏว่า ทีมท่าบ่อ โซไซตี้ จ.หนองคาย ชนะเลิศในรุ่นนี้ ได้รับถ้วยรางวัลและเงินบำรุงทีม 30,000 บาท ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับ 1ได้แก่ ทีม NHP Club น้ำโสม จ.อุดรธานี และรองชนะเลิศอันดับ 2ได้แก่ ทีมเด็กชนบท จ.ขอนแก่น  ได้รับถ้วยรางวัลและเงินบำรุงทีม 20,000 และ 10,000 บาท ตามลำดับ  ส่วนในรุ่น 19-30 ปี มีทีมส่งเข้าแข่งขันเพียงทีมเดียว ได้แก่ทีมชายจริง จาก จ.หนองบัวลำภู ได้รับถ้วยรางวัลและเงินบำรุงทีม 30,000 บาท

        สำหรับผลการแข่งขันในรุ่น 31 ปี ขึ้นไป ปรากฏว่า ทีมจากเทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย ชนะเลิศในรุ่นนี้ ได้รับถ้วยรางวัลและเงินบำรุงทีม 30,000 บาท ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับ 1ได้แก่ ทีม มอดินแดง จ.ขอนแก่น และรองชนะเลิศอันดับ 2ได้แก่ ทีม วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ได้รับถ้วยรางวัลและเงินบำรุงทีม 20,000 และ 10,000 บาท ตามลำดับ  ซึ่งทีมท่าบ่อ โซไซตี้ จ.หนองคาย, ทีมชายจริง จ.หนองบัวลำภู และทีมเทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ไปแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิค ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 3 รอบสุดท้าย ที่ จ.นครสวรรค์ ต่อไป.

การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย ร่วมกับบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และเทศบาลเมืองท่าบ่อ เปิดการแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์แอโรบิค ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 รอบคัดเลือกตัวแทนภาคอีสานตอนบน

     เมื่อเวลา 19.30 น.วานที่ 14 มี.ค. 57 ที่ลานเอนกประสงค์เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายธนวัฒน์ พลอยโสภน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์แอโรบิค ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 รอบคัดเลือกตัวแทนภาคอีสานตอนบน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, เทศบาลเมืองท่าบ่อ จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชน และประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อลดปัญหาของสังคม และช่วยปลุกจิตสำนึกให้มีความรักสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่คณะ และรักชาติบ้านเมือง เพื่อคัดเลือกตัวแทนในระดับเขต เข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ

     นายประภาส บุญสุข ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ด้วยกรมพละศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้จัดการแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์แอโรบิค ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 ประจำปี 2557 จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ประเภทรุ่นอายุ 12-18 ปี 19-30 ปี และรุ่นอายุ 31 ปี ขึ้นไป โดยมอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ทุกจังหวัด ดำเนินการจัดการแข่งขัน น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิค ในรอบคัดเลือกตัวแทนระดับจังหวัด เพื่อส่งเข้าร่วมแข่งขันในรอบคัดเลือกตัวแทนในระดับเขต ซึ่งในปีนี้ จังหวัดหนองคาย โดยเทศบาลเมืองท่าบ่อ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในระดับเขต ภาคอีสานตอนบาน มีอยู่ 10 จังหวัด คือ จังหวัดกาฬสินธุ์, ขอนแก่น, นครพนม, บึงกาฬ, เลย, มหาสารคาม, สกลนคร, หนองบัวลำภู, อุดรธานี และจังหวัดหนองคาย

     โดยได้กำหนดจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 14 -18 มีนาคม นี้ ณ ลานเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองท่าบ่อ โดยภายในงานทุกวันพบกับการแข่งขันแอโรบิคในแต่ละรุ่นระดับเขต จังหวัดภาคภาคอีสานตอนบน มากกว่า 30 ทีม นอกจากนี้ ยังจัดให้มีมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย พร้อมกิจกรรมการแสดงพื้นบ้านและความบันเทิงมากมาย.

รอง ผบก.กต.4 จต. พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการที่ สภ.ท่าบ่อ เป็นการตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายระดับสถานีตำรวจ ของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ

     วันนี้ (14 มี.ค. 57) พ.ต.อ.รัชพล  แก้วเกตุ รอง ผบก.กต.4 จต. พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการที่ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นการตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายระดับสถานีตำรวจ ของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2557 โดยมี พ.ต.อ.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี ผกก.สภ.ท่าบ่อ และข้าราชการตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง

     จากนั้น ได้จัดการประชุมย่อยขึ้น ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันยาเสพติด สภ.ท่าบ่อ บนชั้น 2 ของอาคารปฏิบัติการชั้วคราว เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับสถานีตำรวจ ของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ที่ครอบคลุมถึง 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.การปกป้องเทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข,  2.ป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นทั้งผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้จำหน่ายรายใหญ่และรายย่อยในชุมชน ตลอดจนนำมาตรการยึดทรัพย์มาใช้กับผู้เกี่ยวข้องทุกราย โดยยึดหลักกฎหมายและหลักนิติธรรม,  3.ควบคุมและลดความรุนแรงของอาชญากรรมให้ประชาชนเกิดความมั่นใจต่อการปฏิบัติงานของตำรวจ โดยการจัดระเบียบสังคมและควบคุมอบายมุขผิดกฎหมายในพื้นที่,  4.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสถานีตำรวจเพื่อมีความพร้อมในการให้บริการและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง,  5.การปฏิบัติงานของตำรวจให้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนและท้องถิ่น มีความรู้สึกเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมในทุกมิติ.  

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีฉลองสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตรพระราชทาน และงานทำบุญอายุวัฒนมงคล (วันคล้ายวันเกิด) 55 พรรษา พระครูธรรมญาณโสภน (พระอาจารย์พวง ธัมมทีโป) เจ้าอาวาสวัดดอนขนุน (ถ้ำฮ้าน) ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย

     เมื่อเวลา 09.09 น. วันนี้ (14 มี.ค. 57) ที่ศาลาการเปรียญวัดดอนขนุน (ถ้ำฮ้าน) ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีฉลองสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตรพระราชทาน และงานทำบุญอายุวัฒนมงคล (วันคล้ายวันเกิด) 55 พรรษา พระครูธรรมญาณโสภน (พระอาจารย์พวง ธัมมทีโป) เจ้าอาวาสวัดดอนขนุน (ถ้ำฮ้าน) โดยมี พลตรีเกรียงศักดิ์ หมีทอง ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาภาค 2, พันเอกธณัฐธัชญ์ พลอยไพศาล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาภาค 2, พันเอกธวัชชัย ดะนุดิษฐ์ ผบ.นพค. 22, พันเอกไพศาล งามวงษ์วาน ผบ.นพค. 25  ตลอดจนศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้าร่วมในพิธี

     ทั้งนี้ เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัย พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานตั้งสมนศักดิ์ พระอธิการพวง ธัมมทีโป เจ้าอาวาสวัดดอนขนุน (ถ้ำฮ้าน) เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในพระทินนามที่ “พระครูธรรมญาณโสภน” ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2552 เป็นต้นไป

     สำหรับพระครูธรรมญาณโสภน (พระอาจารย์พวง ธัมมทีโป) ชื่อเดิม เด็กชายพวง ม่วงหมู่ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2502 บ้านเลขที่ 28 บ้านแหลมเทศ ต.งิ้วลาย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นบุตรของคุณพ่อจาง คุณแม่บุญมา ม่วงหมู่ มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด พระอาจารย์พวง ธัมมทีโป เป็นบุตรคนที่ 3 อาศัยอยู่ที่วัดตั้งแต่เยาว์วัย และเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดมาตลอดจนจบชั้นประถมการศึกษาปีที่ 4

     เมื่ออายุได้ 13 ปี ก็บวชเป็นสามเณรที่วัดกระทุ่มปี่ ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พออายุได้ 20 ปี ก็เข้ารับการอุปสมบทที่วัดเจริญสมกิจ (หลังศาล) ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และหลังจากนั้นได้ธุดงค์ไปทั่วสารทิศ จนกระทั้งได้มาพบวัดหินหมากเป้ง ในปี พ.ศ. 2522 ได้เข้ากราบหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี มีความปลื้มปิติจึงขอจำพรรษาที่วัดหินหมากเป้ง จนกระทั้งวันที่ 24 มกราคม 2557 หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ได้สร้างสำนักสงฆ์วัดถ้ำฮ้านและได้นิมนต์พระอาจารย์พวง ธัมมทีโป มาจำพรรษาที่ถ้ำฮ้านเพื่อรักษาป่า “พุทธอุทยานนิโรธรังสี” ต่อมาสำนักสงฆ์วัดถ้ำฮ้านได้รับประกาศพระราชทาน เป็นวัดวิสุงคามสีมาถูกต้องตามประกาศ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2533 ชื้อวัดดอนขนุน (ถ้ำฮ้าน) บ.ดอนขนุน หมู่ที่ 5 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ซึ่งปัจจุบันพระครูธรรมญาณโสภน (พระอาจารย์พวง ธัมมทีโป) สิริอายุรวม 55 พรรษา.

อำเภอท่าบ่อ ปล่อยขบวนชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ “ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม” ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่เสี่ยง ตามนโยบายเร่งด่วนของศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ

     เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 12 มี.ค. 57 ที่ลานเอนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานปล่อยขบวนชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ “ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม” โดยมี เจ้าหน้าท่ีฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข วัฒนะธรรมอำเภอ กำนันตำบลทั้ง 10 ตำบล กว่า 100 คน ร่วมกันปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ และปล่อยแถวขบวนจัดระเบียบสังคม เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดและลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่เสี่ยง ตามนโยบายเร่งด่วนของศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ

     นายอำเภอท่าบ่อ กล่าวว่า ตามที่ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ปี 2557 ในแผนการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด ซึ่งกำหนดเป่าหมายเด็กและเยาวชนก่อนวัยเสี่ยง เยาวชนนอกสถานศึกษาและในสถานศึกษา นับจากนี้ไป กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเริ่มเข้าทำการตรวจเข้มสถานบริการทุกแห่ง โดยเฉพาะร้านเกมอินเตอร์เน็ต ซึ่งกลายสภาพเป็นแหล่งมั่วสุมมากที่สุด มีการเปิดเกินเวลาและปล่อยให้เด็กไปเล่นเกมที่มีความรุนแรงทางอารมณ์ จนทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรม รวมไปถึงสถานบันเทิง สถานบริการที่ฝ่าฝืนระเบียบกฎหมาย หอพักที่มีการมั่วสุมของเยาวชน แหล่งมั่วสุมเล่นการพนัน และพื้นที่สาธารณะที่ขาดการดูแล จนกลายเป็นสถานที่มั่วสุม โดยจะต้องดำเนินการควบคุมพื้นที่และปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้น ไม่ให้เป็นพื้นที่ปัจจัยเสี่ยงในการส่งเสริมแพร่ระบาดของยาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมต่อไป.