วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - ฉลองแชมป์และรองแชมป์ การแข่งขันแอโรบิก “น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4”


ทีมแอโรบิกท่าบ่อโซไซตี้ และนาคาวาไรตี้ จ.หนองคาย ฉลองแชมป์น้ำดื่มสิงห์แอโรบิก ครั้งที่ 4 ด้วยการจัดขบวนแห่ถ้วยแชมป์และรองแชมป์ไปรอบตัวเมืองท่าบ่อ ถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของชาวอำเภอท่าบ่อ
       เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 57 ที่เทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายประพาส นครภักดี นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองท่าบ่อ พร้อมคณะผู้บริหาร พี่น้องประชาชนชาวเทศบาลเมืองท่าบ่อ และผู้สนับสนุนทีมแอโรบิก “ท่าบ่อโซไซตี้” และ “นาคาราวาไรตี้” จ.หนองคาย ได้จัดขบวนแห่ถ้วยรางวัล หลังคว้าแชมป์และรองแชมป์การแข่งขันแอโรบิก น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4” ระดับประเทศไทย ที่ จ.นครสวรรค์ พร้อมรับเงินรางวัล 100,000 บาท และ 70.000 บาท ในรุ่น 13-18 ปี และรุ่น 35 ปีขึ้นไป
       ซึ่งได้มีการจัดการแห่ถ้วยรางวัลทั้งสองประเภท จากหน้าโรงสีข้าวบุญสนอง โดยแห่ไปรอบเมืองไปตามถนนจรดลสวรรค์ ถนนสันติสุข โดยมีประชาชนมายืนปรบมือแสดงความดีใจกับทีมแอโรบิกทั้งสองข้างทาง ซึ่งขบวนแห่ได้ไปสิ้นสุดที่ซุ้มประตูเมืองท่าบ่อ นับว่าเป็นปรากฏการณ์หน้าใหม่ของชาวอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย กับความสำเร็จของทีมแอโรบิกในครั้งนี้ และถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของชาวอำเภอท่าบ่อด้วย
       ซึ่งผลการแข่งขันรุ่นอายุ 13-18 ปี ที่ 1 ท่าบ่อโซไซตี้ จ.หนองคาย 86 คะแนน รับเงินรางวัล 100,000 บาท, ที่ 2 ซูเปอร์สตาร์ จ.ราชบุรี 84.5 คะแนน รับเงินรางวัล 70,000 บาท, ที่ 3 พีเคบราโว จ.นนทบุรี 80 คะแนน รับเงินรางวัล 40,000 บาท, รุ่น 35 ปีขึ้นไป แดนซ์เนรมิตรเสาธงหิน จ.นนทบุรี 79 คะแนน รับเงินรางวัล 100,000 บาท, ที่ 2 นาคาวาไรตี้ จ.หนองคาย 78 คะแนน รับเงินรางวัล 70,000 บาท, ที่ 3 รพ.แพร่ 71 คะแนน รับเงินรางวัล 40,000 บาท.

หนองคาย - ร้านลาบโอดเนื้อวัวแพงถึงกิโลกรัมละ 320 บาท ขายได้กำไลน้อยลง วอนรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาเนื้อวัวแพง

       วันนี้ (5 พ.ค. 58) ที่ร้านลาบในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กำลังเดือดร้อนหนักหลังเนื้อวัวแพง กำไลขายลาบลดลงกว่าครึ่ง แม่ค้าขายลาบรายหนึ่งเปิดเผยว่า เปิดร้านขายลาบมานานหลายปี ตั้งแต่เนื้อวัวมีราคาอยู่ที่ 150 บาท/กิโลกรัม แต่ปัจจุบันเนื้อวัวตกอยู่ที่ราคา 320 บาท/กิโลกรัม ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นต้องขึ้นราคาอาหารทุกประเภท เช่น ลาบจานละ 70 ขึ้นเป็น 100 บาท เนื้อย่างจานละ 50 ขึ้นเป็น 70 บาท ต้มเนื้อเปื่อยถ้วยละ 40 เป็น 50 บาท และเมนูพิเศษ เช่น ผัดจังโก้เนื้อวัว อุเนื้อวัวก็ขึ้นราคาเป็น 100 บาทเช่นกัน

       แม่ค้าขายลาบ ยังเปิดเผยว่า ปกติเป็นร้านที่มีลูกค้าประจำเป็นจำนวนมาก หลังจากเนื้อวัวแพงและเริ่มขึ้นราคาอาหาร ทำให้ลูกค้าลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งทำให้ยอดกำไลในการขายลดลงกว่าครึ่ง จากเคยขายได้กำไลวันละ 6,000 บาท ตอนนี้เหลือแค่วันละ 1,200 – 1,500 บาท จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางในการแก้ไข ปัญหาราคาเนื้อวัวที่แพงขึ้นต่อเนื่อง อย่างเร่งด่วน ก่อนที่พ่อค้า แม่ค้า จะเดือดร้อนหนักไปมากกว่านี้.

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - จุดบั้งไฟเกินล้าน ถวายบูชาหลวงปู่ใหญ่วัดหนองกก


ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แห่เฝ้ารอชมการจุดบั้งไฟเกินล้าน น้ำหนักกว่า 1,000 กิโลกรัม ใหญ่ที่สุดของงานประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำบลบ้านถ่อน ประจำปี 2558 เพื่อถวายบูชาหลวงปู่ใหญ่วัดหนองกก และส่งเสริมงานประเพณี ส่งเสริมการท่องเที่ยว
       วันนี้ (3 พ.ค. 58) ที่ฐานจุดบั้งไฟด้านทิศเหนือของวัดหนองกก บ้านหนองกก ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายอภิวัฒน์ โคตรชมภู นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านถ่อน พร้อมประชาชนชาวตำบลบ้านถ่อน ได้ทำพิธีจุดบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน และบั้งไฟเกินล้าน ประจำปี 2558 ขึ้น เพื่อถวายบูชาหลวงปู่ใหญ่วัดหนองกก ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวตำบลบ้านถ่อน  และเพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้สืบทอดต่อไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นให้ชาวโลกได้รับรู้
       ซึ่งบรรยากาศตลอดทั้งวัน บรรดาช่างบั้งไฟเริ่มนำบั้งไฟแก้บนหลวงปู่ใหญ่ นำสู่ฐานจุดอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทยอยเข้าชมกันอย่างเนืองแน่น จนการจราจรติดขัดยาวเหยียด ตามบริเวณโดยรอบของวัดหนองกกเต็มไปด้วยผู้ชมจำนวนมาก ที่เดินเบียดเสียดกันเข้ามาชมการเตรียมบั้งไฟของค่ายต่างๆ ซึ่งบั้งไฟหมื่น,บั้งไฟแสน และบั้งไฟล้านเริ่มจุดอย่างต่อเนื่อง
      จนกระทั้งเวลาประมาณ 14.30 น. ก็ถึงช่วงเวลาสำคัญ คือการจุดบั้งไฟเกินล้าน ที่เป็นบั้งไฟขนาดใหญ่ที่สุดในงาน โดยส่วนหัวมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว มีความยาว 5 เมตร 30 เซนติเมตร ส่วนหางมีความยาวกว่า 11 เมตร และมีน้ำหนักกว่า1,000 กิโลกรัม จากทีมงานพระอาจารย์ชาอำพร อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร โดยใช้งบประมาณในการทำกว่า 100,000 บาท มีคณะฟรีบอยบ้านถ่อนเป็นเจ้าภาพจุดถวายหลวงปู่ใหญ่ ก่อนเวลาจะจุดได้มีพิธีรำถวายเทวดาฟ้าดินของนางรำ และประชาชนได้ร่วมกันแบกหามบั้งไฟขึ้นสู่ฐานจุด เมื่อถึงเวลาจุดบั้งไฟสามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม สร้างความตื่นเต้นและเรียกเสียงตบมือจากผู้ชมเป็นระยะๆ ที่เห็นบั้งไฟเกินล้านทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
       นายอภิวัฒน์ โคตรชมภู นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านถ่อน กล่าวว่า การจุดบั้งไฟเกินล้านบั้งนี้ เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนชาวตำบลบ้านถ่อน ที่มีความเชื่อต่อหลวงปู่ใหญ่ หากใครได้มากราบไหว้ขอพร บนบาน สิ่งใดไว้จะประสบความสำเร็จ และเมื่อถึงงานประเพณี จึงรวบรวมเงินและร่วมแรงร่วมใจ ทำบั้งไฟเกินล้านบั้งนี้จุดขึ้นท้องฟ้าเพื่อถวายหลวงปู่ใหญ่และเป็นการแก้บนอีกด้วย.

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หนองคาย - เทศบาลตำบลบ้านถ่อน จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำบลบ้านถ่อน ประจำปี 2558


เทศบาลตำบลบ้านถ่อน ร่วมกับ 8 หมู่บ้าน จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำบลบ้านถ่อน ปีที่ 83 ถวายบูชาหลวงปู่ใหญ่วัดหนองกก ศูนย์รวมจิตใจของชาวตำบลบ้านถ่อน และอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น
       เวลา 13.30 น. วันนี้ (2 พ.ค. 58) ที่บริเวณถนนทางเข้าวัดหนองกก ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เทศบาลตำบลบ้านถ่อน พร้อมด้วยคณะกรรมการชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน และประชาชนทั้ง 8 หมู่บ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำบลบ้านถ่อน ประจำปี 2558 โดยมีนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย เป็นประธานเปิดงาน
       ซึ่งแต่ละหมู่บ้านได้จัดริ้วขบวนบั้งไฟได้อย่างสวยงาม มีการประดับประดาตบแต่งบั้งไฟที่วิจิตรงดงามตระการตาเหมือนเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา แต่ละขบวนต่างบอกเล่าเรื่องราวตำนานท้าวผาแดงนางไอ่อย่างครบถ้วน รวมถึงการเชิดชูสถาบันหลักของชาติ และจารีตประเพณีต่างๆ โดยเฉพาะขบวนฟ้อนรำเซิ้ง ซึ่งแต่ละขบวนต่างออกลีลาเพื่อสร้างสีสันกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งมีประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่เข้าชมขบวนบั้งไฟทั้งสองข้างทางจำนวนมาก ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนอบอ้าว แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวก็ไม่หนีไปไหน ต่างหาที่หลบแดดนั่งชมขบวนบั้งไฟจนครบทั้ง 8 หมู่บ้าน
       งานประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำบลบ้านถ่อน ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดหนองคาย เริ่มจัดเป็นประเพณีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 เป็นระยะเวลา 83 ปีมาแล้ว โดยได้กำหนดวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี เป็นวันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ เริ่มจากบั้งไฟเสี่ยงทายขอฟ้าขอฝนตามความเชื้อของคนสมัยก่อน ต่อมาวิวัฒนาการมาเรื่อยจากบั้งไฟธรรมดา เป็นบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน และบั้งไฟล้าน ทั้งนี้เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้สืบทอดต่อไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นให้ชาวโลกได้รับรู้ และงานประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำบลบ้านถ่อน นั้นมีความแตกต่างกว่าที่อื่น เพราะบั้งไฟแต่ละบั้งที่จุดไปเป็นบั้งไฟถวายบูชาหลวงปู่ใหญ่วัดหนองกก ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวตำบลบ้านถ่อน และเกิดขึ้นจากการที่ทุกคนมาบวงสรวงไว้ บนบานไว้ มาแก้บนเพราะประสบความสำเร็จ อันเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาของชาวตำบลบ้านถ่อนตั้งแต่กาลก่อนจนถึงปัจจุบัน.

สำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย ขอเชิญร่วมประมูลเลขรถสวย

       นายสมหวัง ทองขาว ขนส่งจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า  ในวันที่ 6-7 มิถุนายน 2558   ที่ โรงแรมบุศยรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย  จะดำเนินการจัดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย ครั้ง 3  ขึ้น โดยมีหมายเลขทะเบียนรถสวย จำนวน 301 หมายเลข  ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถเก๋ง รถแวน และรถกระบะ 4 ประตู หมวด กจ  การงานเจริญก้าวหน้า การค้าเจริญรุ่งเรือง”  ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนจะมีลวดลายสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ทอดไปตามแม่น้ำโขง มีรูปพญานาคพ่นบั้งไฟพญานาค บนพื้นหลังสีม่วง
       การประมูลเลขรถสวยครั้งนี้ เพี่อนำรายได้จากการประมูลเข้ากองทุนความปลอดภัยทางถนนของกรมการขนส่งทางบก    ผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียน  จะมีรถหรือไม่มีก็ได้โดยหมายเลขที่ประมูลได้   สามารถทำการซื้อขาย หรือสับเปลี่ยนกับรถเก่าที่มีอยู่แล้ว  หรือโอนให้แก่บุคคลอื่นก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย
       สำหรับกลุ่มการประมูลได้แบ่งไว้ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 เลขสี่ตัวเหมือน ผู้ประมูลต้องวางเงินประกัน 10,000 บาท กลุ่มที่ 2 เลขสามตัวเหมือนสองตัวเหมือนเลขตัวเดียวเลขคู่ 8 และเลขคู่ 9 วางเงินประกัน 5,000 บาท และกลุ่มที่ 3 เลขหลักพันเลขเรียงเลขคู่ วางเงินประกัน 1,000 บาท เมื่อประมูลได้ต้องชำระค่าประมูลป้ายทะเบียนภายใน 30 วัน นำไปจดทะเบียนการใช้ภายใน 3 ปีหลังการประมูล ส่วนผู้ที่ประมูลไม่ได้ขอรับเงินประกันคืนได้
       จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวยได้ในวันที่ 6-7 มิถุนายน 2558 ที่ โรงแรมบุศยรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 042-411591 ต่อ 103.