ขนส่งจังหวัดหนองคาย เข้ม เรียกผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารไม่ประจำทาง ทั้งพนักงานขับรถ เพื่อเตรียมความพร้อมของตัวรถและความพร้อมของพนักงานขับรถก่อนใช้ สร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร ที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ที่ปลอดภัย

     วันนี้(29 ธ.ค.57)  ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดหนองคาย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายสมหวัง ทองขาว ขนส่งจังหวัดหนองคาย ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการขนส่งโดยสารประจำทาง และไม่ประจำทาง  ทั้งพนักงานขับรถ เพื่อเตรียมความพร้อมของตัวรถและความพร้อมของพนักงานขับรถเกี่ยวกบความปลอดภัยและการบริการ  ตลอดจนการวงแผนรองรับการเดินทางของประชาชนให้เพียงพอกับความต้องการทั้งเที่ยวไปและกลับ

     นายสมหวัง ทองขาว ขนส่งจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคายจำนวนมาก  เนื่องจากมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน  และจะมีผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางปริมาณมาก เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของ  สำนักงานขนส่งจังหวัดหนองคาย จึงจำเป็นที่ต้องเชิญผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารประจำทาง ทั้งพนักงานขับรถ มาทำความเข้าใจ ไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน ไม่เสริมเก้าอี้บนทางเดินในตัวรถ ห้ามไม่ให้มีสิ่งกรีดขวางช่องประตูฉุกเฉิน เบาะนั่งผู้โดยสารจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกตัว และแน่ะนำให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดทุกคน

     นอกจากนั้นจะต้องมีถังดับเพลิง ค้อนทุกกระจก และปิดใบแสดงราคาค่าโดยสารให้เห็นอย่างชัดก่อนใช้   หากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้รถออกจากสถานีโดยเด็ดขาด โดยจะเริ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.- 5 ม.ค. 58  ทั้งห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายสุราในบริเวณสถานีขนส่ง และห้ามไม่ให้ผู้โดยสารดื่มสุราบนรถเด็ดขาด

     การสุ่มตรวจรถครั้งนี้ พบรถโดยสารหลายคัน ยังไม่เป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคมกำหนด เช่น ไม่มีปิดแผ่นราคาค่าโดยสาร มีเบาะนั่งผู้โดยสารหรือสิ่งของปิดกั้นช่องทางฉุกเฉินไม่มีถังดับเพลิง ทางขนส่งได้ให้ผู้ประกอบการไปดำเนินการก่อนนำรถไปบริการภายใน 3 วัน หลังจากนั้นหากตรวจพบก็จะดำเนินการกักไม่ให้รถวิ่งจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขเสร็จ หากพบรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือเอาเปรียบผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584   ตลอด 24 ชั่วโมง   ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2558

หนองคาย - เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญวัดโคกสว่าง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย วอดทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้หนังสือธรรมะ ตำราพุทธศาสนา พระพุทธรูปถูกไฟเผาเกลี้ยง ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร

      วันนี้ (29 ธ.ค. 57) เวลา 16.00 น. พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญวัดโคกสว่าง บ้านหนองแวง หมู่ 7 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจาก อบต.น้ำโมง และ อบต. พื้นที่ใกล้เคียง รวม 8 คัน และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ระดมกำลังดับไฟ

     ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ศาลาการเปรียญวัด ซึ่งเป็นศาลา 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้ แต่ศาลาการเปรียญวัดได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ประชาชนที่มาดูเหตุการณ์ต่างก็ช่วยกันขนย้ายข้าวของและเศร้าสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     ทางด้าน พระมหาปรีชา จิตตชัญโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโคกสว่าง เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ภายในบริเวณวัด มีพระลูกวัดโทรศัพท์ไปบอกจึงรีบมาดู ซึ่งศาลาการเปรียญที่ถูกไฟไหม้ ปัจจุบันใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา เป็นที่เก็บตำราพระธรรมต่างๆ และใช้สวดมนต์ มีพระพุทธรูปและใช้เก็บของใช้ภายในวัดทั้งสองชั้น ไม่ว่าจะเป็นพรม เสื่อ บาตร โต๊ะหมู่บูชา ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทราบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นจากชั้นสองของตัวศาลา ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้นั้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม ก็คงจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป สำหรับความเสียหายยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้.  

      

องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเดื่อ จังหวัดหนองคาย จัดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดตำบลบ้านเดื่อ ประจำปี 2558 เพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างหมู่บ้านกับหน่วยงานของรัฐ ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ห่างไกลยาเสพติด ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อความสมานฉันท์ในสังคม

     วันนี้ (27 ธ.ค. 57) ที่สนามกีฬาโรงเรียนเดื่อวิทยาคาร ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นายโสภณ สรรพสิลป์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเดื่อ พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงาน ลูกจ้าง เยาวชน และประชาชนชาวตำบลบ้านเดื่อ ร่วมจัดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดตำบลบ้านเดื่อ ประจำปี 2558 เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองระหว่างหมู่บ้านกับหมู่บ้าน หมู่บ้านกับหน่วยงานรัฐ นำไปสู่การสร้างหมู่บ้านให้เข้มแข็งและการพัฒนาที่ยั่งยืน มีน้ำใจเป็นนักกีฬา และมีความรู้ ความสามารถ และทักษะทางด้านกีฬา พร้อมที่จะก้าวไปสู่ความเป็นอาชีพได้ และเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนตำบลบ้านเดื่อ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นำไปสู่การลด ละ เลิก อบายมุขต่างๆ ห่างไกลยาเสพติด

     สำหรับกิจกรรมการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด ประกอบไปด้วย การเดินขบวนพาเหรดของหมู่บ้านต่างๆ การมองของขวัญให้กับประชาชน  การแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ ประกอบด้วยฟุตบอลชายอายุไม่เกิน 12 ปี, ฟุตบอลประชาชนหญิงทั่วไป, ฟุตบอลประชาชนชาย, ฟุตบอลเยาวชนชาย, วอลเลย์บอลชาย, วอลเลย์บอลหญิง, ตระกร้อชาย และแข่งกีฬาพื้นบ้านประเภทวิ่ง 11 ขา, ตีกอล์ฟอีสาน, เตะปี๊บ และวิ่งพลัดอีสาน.

หนองคาย - ชาวบ้านแห่ไปชมกล้วยน้ำว้าประหลาด งอกปลีโผล่จากดิน เซียนหวยแห่กันไปกราบไหว้บูชาอย่างคึกคัก

     วันนี้ (26 ธ.ค. 57) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบต้นกล้วยประหลาด มีหน่องอกขึ้นมาพร้อมกับปลีโผล่ออกจากดิน ที่บริเวณสวนกล้วยน้ำว้า ริมถนนทางหลวงชนบท ศรีเชียงใหม่-บ้านผือ บ้านหนองปลาปาก หมู่ 1 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และมีชาวบ้านทยอยเดินทางมาชมกันเป็นจำนวนมาก

     เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าว พบต้นกล้วยน้ำว้า 1 กอใหญ่ มีลำต้นอยู่ 5 ต้น ซึ่งสูงประมาณต้นละ 1.50 เมตร 4 ต้น และกำลังออกผลกล้วย 1 ต้น แต่ที่แปลกก็คือ ใต้โคนต้นกล้วยน้ำว้า มีปลีกล้วยพุ่งออกมาจากดิน มียอด 1 ยอด มียอดหน่อกล้วยโพล่ข้างปลี 9 หน่อ ลักษณะคล้ายๆ กับดอกไม้ที่กำลังโผล่ขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านและเซียนหวยทั้งในพื้นที่และใกล้เคียงที่ทราบข่าว ต่างแห่กันมาชมความแปลกประหลาดของต้นกล้วยดังกล่าวจำนวนมาก

     นางบุญทัน สีใส อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย กล่าวว่า เมื่อ 7 วันก่อน ตนได้นำวัวจำนวน 2 ตัว มาเลี้ยงที่สวนกล้วยดังกล่าว ขณะที่ตนกำลังก้มแหวกหญ้าที่โคนต้นกล้วยเพื่อนำหญ้ามาให้วัวกิน ก็ได้เห็นว่ามีหน่อปลีงอกขึ้นมาจากพื้นดินอย่างแปลกประหลาด จึงได้ไปเรียกชาวบ้านมาดู และนำกิ่งไม้มาวางกั้นล้อมรอบเอาไว้มิให้ผู้ใดเข้าไปเยียบหรือทำลาย ตนอยู่มาจนอายุ 74 ปี ก็ไม่เคยพบเห็นสิ่งแปลกประหลาดอย่างนี้มาก่อน ปกติหัวปลีกล้วยก็จะออกที่ยอดของต้น แต่นี่ไม่มีต้น แต่มีปลีโผล่ขึ้นมาจากดิน เป็นอะไรที่แปลกมากไม่เคยมีใครเคยพบเห็นมาก่อน เชื่อว่าจะเป็นสิ่งมงคลกับตนและคนในบ้าน