เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 11 มิ.ย.2556
พ.ต.อ.วิบูลย์
วงศ์ก้อม รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.ท.นิยม วงศ์สนิท รองผกก.สืบสวน,
พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ
สีเสมอ สว.สส , นายสมชาย อุดมโชค ผบ.เรือนจำจังหวัดหนองคาย
และเจ้าหน้าที่เรือนจำจำนวนหนึ่ง
ได้ตรวจภายในบ้านพักของเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดหนองคายที่นายภานรินทร์ ไขศรี อายุ 41
ปี เลขที่ 176 หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย
อ.เมืองหนองคาย ตำแหน่งอนุศาสนาจารย์ชำนาญงาน เรือนจำจังหวัดหนองคาย
พักอาศัยอยู่และเสียชีวิตจากการถูกยิงปริศนา มีผู้พบศพเมื่อช่วงประมาณ 12.00
น. วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคาย
ตรวจศพพบว่าที่กลางหลังมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม.เป็นอาวุธปืนของผู้ตายเอง
กระสุนทะลุออกหน้าอกด้านซ้าย และได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์
จ.ขอนแก่นแล้ว
พ.ต.อ.วิบูลย์
วงศ์ก้อม รองผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ภ.จ.หนองคาย
ได้ตั้งชุดทำงานขึ้นมาสืบสวนสอบสวนคดีนี้
ซึ่งในเช้านี้ได้ออกมาตรวจที่เกิดเหตุซ้ำเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน
และหลังจากได้วิเคราะห์ร่วมกันหลายฝ่าย
มีความเห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่ผู้ตายจะยิงตัวตาย
โดยได้จำลองเหตุการณ์ว่าผู้ตายอาจจะกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่หน้าโทรทัศน์
แล้วใช้หมอนปิดหน้าอกก่อนจะยิงตัวเองด้วยมือซ้าย เพราะผู้ตายถนัดมือซ้าย
กระสุนเฉียงทะลุออกแผ่นหลังใกล้เอว ทำให้มีเลือดคั่งอยู่ด้านหลัง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวิถีกระสุนวิเคราะห์เพิ่มเติม
และต้องรอผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์จากนิติเวช ที่จะส่งผลมาให้ภายใน 15 วัน
นอกจากนี้จากการตรวจสอบสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กันหลายหลัง
ด้านหน้าเป็นรั้วเรือนจำ ด้านหลังมีการก่อสร้างอาคารของเอกชน
ประกอบกับผู้ตายมักจะปิดประตูหน้าต่างเวลาพักผ่อนเป็นประจำ
จึงเป็นไปได้ยากที่คนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุได้ง่าย
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการถูกฆาตกรรมหรือการฆ่าตัวตาย
ส่วนสาเหตุนั้นทราบว่าผู้ตายมีหนี้สินที่เกิดจากการพนัน และปัญหาสุขภาพ
ด้านนายสมชาย อุดมโชค ผบ.เรือนจำจังหวัดหนองคาย
กล่าวว่า คดีนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ความสนใจสั่งให้ติดตามอย่างใกล้ชิด
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่
และที่สำคัญต้องรอผลพิสูจน์จากนิติเวชเป็นตัวยืนยันว่าเป็นการฆาตกรรมหรือยิงตัวตาย
สำหรับในส่วนความช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนโสด
มีเพียงมีพ่อแม่ที่อายุมากแล้ว ทางกรมราชทัณฑ์มีเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการ
ส่วนของเรือนจำจังหวัดเองมีกองทุนสวัสดิการซึ่งต้องตรวจดูว่าจะสามารถช่วยเหลือได้มากน้อยเพียงใด
หลังจากที่เสร็จขั้นตอนการพิสูจน์ศพแล้ว ทางเรือนจำจะนำศพส่งให้ญาติและดูแลงานศพอย่างเต็มที่.
ที่มา ASTV
ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น