ที่บ้านวังมน
หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เป็นหมู่บ้านที่มีสภาพลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันหาที่ราบลุ่มได้น้อยมาก
ชาวบ้านทุกครัวเรือน ใช้พื้นที่ราบลุ่มเชิงเขาเป็นแหล่งปลูกพืช ทำไร่ทำสวน นายแสง
เหลืองาม ผู้ใหญ่บ้านฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านที่บ้านวังมนส่วนใหญ่มีอาชีพทางการเกษตร
สมัยก่อนทำไร่เลื่อนลอยลองผิดลองถูก และปลูกยางพาราก็ราคาตกต่ำต้นทุนสูง
ตนเองและชาวบ้านจึงได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เน้นการพึ่งตนเองนำสิ่งที่มีอยู่ใช้ชุมชน
ด้วยการนำชาวบ้านลดพื้นที่ปลูกสวนยางพารา
อีกทั้งต้องการลดต้นทุนการซื้อปุ๋ยสวนยางพาราที่มีราคาแพง ขายก็ราคาตกต่ำ และลดการปลูกพืชสวนพืชไร่ที่ไห้ผลผลิตนานกว่า
หันมาปลูกพืชผักสวนครัวพื้นบ้านทดแทนซึ่งได้ผลผลิตเร็ว และต้นทุนน้อย หาง่าย
ปลูกง่ายได้ผลผลิตตลอดทั้งปี ได้แก่ ข่า
ตะไคร้ ใบตองกล้วย หน่อไม้ ฝักทอง มะละกอ
พริก มะเขือเทศ และส้มโอ เป็นต้น เป็นพืชที่สามารถนำมาบริโภคและจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านบ้านวังมน
ซึ่งจะปลูกทุกหลังคาเรือน ปลูกง่ายและใช้ระยะไม่นานก็สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้
สำหรับข่า ตะไคร้ และใบตองกล้วย
เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญทำรายได้ให้แก่ชาวบ้านวังมน
ถือว่าเป็นหมู่บ้านครัวอีสานก็ว่าได้ เพราะแต่ละวันจะมีพ่อค้าแม่ค้าทั้งในจังหวัดหนองคายและต่างจังหวัด
มารับซื้อถึงที่เพื่อนำไปขายส่งและขายปลีกยังตลาด โดยวิธีการจะแพ็คเป็นถุง
ข่าถุง ๆ ละ 10 กก. ราคา 250 บาท ตะไคร้ 10 กก. ราคา 60 บาท
และใบตองจะทำเป็นมัด ๆ ละ 12 บาท
สำหรับใบตองกล้วยจะขายได้ 70-100 มัด/ครอบครัว
ซึ่งส่วนใหญ่ครอบครัว ๆ หนึ่งจะมีรายได้เฉลี่ยวันละ 1,000 บาท ส่วนพืชชนิดอื่น ๆ จะขายผสมผสานตามฤดูกาล
ทำให้ชาวบ้านบ้านวังมนพออยู่พอกินและอยู่ดีมีสุข เป็นชุมชนเข้มแข็ง
เพราะนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
ด้วยการสร้างรายได้จากการพึ่งพาพืชผักสวนครัวที่มีอยู่ในชุมชนของตนเอง
จนได้คัดเลือกเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ประเภทดีเด่นประจำปี 2557 ตามโครงการชุมชนเข้มแข็งด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเบื้องยุคลบาท.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น