วันที่
5 ก.ย. 57 นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นำหัวหน้าส่วนราชการ กิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มองค์กรสตรี ผู้นำชุมชน
กลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชน และประชาชน จำนวน 146 คน
เดินทางข้ามแม่น้ำโขงมุ่งหน้าสู่เมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างกระชับความสัมพันธ์อันดีและมิตรภาพระหว่างอำเภอท่าบ่อ กับเมืองหาดทรายฟอง
ตามโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยมี ท่านบุนทำ
พุดทะวงสา เจ้าเมืองหาดทรายฟอง และเจ้าหน้าที่กองการต่างๆ ของเมืองหาดทรายฟอง
ให้การต้อนรับ
ซึ่งการเยี่ยมเยือนเมืองหาดทรายฟองในครั้งนี้
ยังถือเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจ ด้านการค้า การลงทุน การเกษตร อุตสาหกรรม
ประเพณี วัฒนธรรม การแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านผลิตภัณฑ์
OTOP รวมถึงการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสนับสนุน
ส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งสองเมืองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ภายหลังจากได้เข้าพบปะเจ้าเมืองหาดทรายฟอง นายอนุรัฐ
ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ ได้นำคณะทั้งหมดเดินทางไปเยี่ยมชมวัดสีเมือง ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐาน
“เสาหลักเมือง” ของนครหลวงเวียงจันทร์ มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อสร้างเสาหลักเมืองต้องหาคนอุทิศชีวิตลงหลุมฝังเสาหลักเมือง
แต่ถ้าไม่มีใครอุทิศเจ้าอาวาสจะต้องอุทิศชีวิตเอง แต่ได้มีนางสีเมืองซึ่งท้อง 3 เดือน
ได้ยอมอุทิศตนกระโดดลงไปอยู่ก้นหลุมเสาหลักพร้อมกับม้าอีกหนึ่งตัว
ซึ่งสามีนางก็เสียชีวิตในสนามรบตอนนั้นเหมือนกัน
จากนั้น คณะทั้งหมดยังได้เดินทางเข้ากราบไหว้สักการะหลวงพ่อองตื้อ
ที่วัดองตื้อมะหาวิหาน นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนหลายๆ
วัดที่เก่าแก่ที่สุดในนครหลวงเวียงจันทน์ และมีความหมายความสำคัญทางโบราณสถานและประวัติศาสตร์
เป็นวัดที่ทั้งประชาชนลาวและชาวต่างประเทศให้ความเคารพนับถือและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระมหากษัตริย์ลาวในอดีต ได้ทรงสร้างพระพุทธรูปทองหล่อให้ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้นของลาว
ใช้ชื่อว่า “หลวงพ่อองตื้อ” เมื่อปี พ.ศ. 2109 มีหน้าตักกว้าง 3 เมตร 40 เซนติเมตร สูง 5 เมตร 80
เซนติเมตร ซึ่งสร้างหลังจากที่พระองค์ทรงได้สร้าง
“หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ” หน้าตักกว้าง 3 เมตร 29 เซนติเมตร สูง 4 เมตร เมื่อปี พ.ศ. 2105 ที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ
จังหวัดหนองคาย ซึ่งหลวงพ่อองตื้อ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ จะใหญ่กว่าหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ
ที่อำเภอท่าบ่อ นั้นเอง
จากนั้นได้เดินทางเยี่ยมชม “พระธาตุหลวง”
หรือ “พระเจดีย์โลกะจุฬามณี”
เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งนครหลวงเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ
และเยี่ยมชม “ปะตูไซ” หรือ “ประตูชัย” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของชาวลาว สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน
เพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้ที่เสียสละชีวิตในสงคราม ก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์
และเข้าเยี่ยมชมตลาดเช้านครหลวงเวียงจันทน์ และตลาดนัดกลางคืน หรือถนนคนเดิน
ซึ่งตลาดแห่งนี้เปิดได้ปีกว่า และเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนลาว ตกค่ำก็จะมาเดินดูและเลือกซื้อสินค้า
สินค้าที่มาจำหน่ายโดยส่วนมากจะเป็น สินค้าหัตถกรรมในลาว สินค้าที่มาจากประเทศจีน และสินค้าที่มาจากประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น