ตำรวจ สภ.นางิ้ว
สนธิกำลังหลายฝ่าย บุกจับโรงผลิตฝิ่นในสวนเงาะริมแม่น้ำโขง ยึดของกลางมูลค่ากว่า
14 ล้านบาท ส่วนเจ้าของหลบหนีไปได้
วันนี้
(19 พ.ค. 58) พ.ต.ท.นิพนธ์ สมานชาติ สวญ.สภ.นางิ้ว, พ.ต.ต.สายัณห์ ผาพา
สารวัตรสอบสวน สภ.นางิ้ว สนธิกำลัง นรข.เขตหนองคาย, ทหารจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี,
เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.หนองคาย, ตชด.245 และฝ่ายปกครองอำเภอสังคม
จ.หนองคาย ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 191 หมู่ 2 บ้านม่วง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย
ริมถนนสังคม-ปากชม ซึ่งเป็นบ้านของ นายประสงค์ อัญชลี อายุ 78 ปี และนางอุบล อัญชลี อายุ 54 ปี สองสามีภรรยา
ขณะเข้าตรวจสอบไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน
โดยพบว่าบริเวณบ้านของนายประสงค์ มีเนื้อที่ 30 ไร่
สร้างบ้าน 1 หลัง ด้านหลังทำเป็นโรงเรือนและปลูกสวนเงาะเต็มพื้นที่
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในโรงเรือน พบว่ามีการกั้นเป็นห้องจำนวน 2 ห้อง เป็นห้องเคี่ยวฝิ่น 1 ห้อง และเพื่อใช้เป็นห้องเก็บฝิ่นสุก
1 ห้อง พบฝิ่นสุกห่อด้วยพลาสติกสีชมพู 2 ขนาด
ขนาดบรรจุฝิ่นสุก 500 กรัม จำนวน 30 ก้อน
และขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม จำนวน 201 ก้อน
รวมน้ำหนัก 216 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การแปรรูปฝิ่น
มีทั้งเตาแก๊ส ถังแก๊สอีกจำนวนหนึ่ง สารเคมีประเภทคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์(ผงสีฟ้า)
และผงสีเหลืองไม่ทราบชนิดอีกเป็นจำนวนมาก บริเวณรอบๆ
ผนังโรงเรือนจะมีเศษฝิ่นกระจายติดผนัง เจ้าหน้าที่จึงได้นำมาทดสอบกับน้ำยาทางเคมีพบว่าทั้งหมดเป็นฝิ่นจริง
ในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า
จะมีการลักลอบนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านหลังนี้ จึงได้ให้กำลังตำรวจ ทหาร
เข้าตรวจสอบโดยใช้กฎอัยการศึกเข้าตรวจค้น แต่เจ้าของบ้านไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน
โดยฝิ่นที่พบนี้เป็นขบวนการใหญ่และปริมาณมากกว่าทุกครั้งที่เคยพบในพื้นที่ คาดว่าจะนำฝิ่นดิบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
เข้าสู่กระบวนการแปรสภาพด้วยการเคี่ยวให้เป็นฝิ่นสุกก่อนบรรจุตามน้ำหนัก ครึ่งกิโล
หนึ่งกิโลกรัม ตามลูกค้าต้องการ แล้วรอการส่งไปยังประเทศที่สาม ซึ่งฝิ่นสุกมีมูลค่าประมาณกิโลกรัมละ
60,000 - 80,000 บาท ของกลางทั้งหมดนี้มีมูลค่าประมาณกว่า 14
ล้านบาท
สอบถาม นายอนุวรรัตน์ ชานัย กำนัน
ต.บ้านม่วง กล่าวว่า นายประสงค์ เจ้าของบ้านเป็นชาวจังหวัดระยอง
มาซื้อที่ดินทำสวนเงาะ บริเวณดังกล่าวได้ประมาณ 20 ปี ส่วนภรรยาเป็นชาว จ.มหาสารคาม
โดยนายประสงค์ป่วยเป็นโรคกระดูกเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น
และทราบว่าระยะหลังมีการคลุกคลีกับสิ่งผิดกฎหมาย
ไม่ยอมให้เพื่อนบ้านเข้ามาในบริเวณบ้าน ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่านายประสงค์หึงหวงภรรยา
โดยที่ภรรยาเองได้พาลูกสาวซึ่งยังเรียนอยู่ชั้นประถมฯไปเรียนที่ จ.ขอนแก่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดพื้นที่โดยรอบ
ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
รวมถึงตรวจสอบทรัพย์สินถ้าเข้าข่ายได้มาโดยมิชอบให้ดำเนินการตามกฎหมาย
และเร่งติดตามจับกุมนายประสงค์ เจ้าของบ้านมาสอบสวนพร้อมขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น