เมื่อคืนวันที่ 5 มีนาคม 2558
ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ อำเภอเมืองหนองคาย
นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด
และนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่วมเปิดการแสดงแสงเสียง “ตำนานสงครามปราบฮ่อ” หนึ่งในกิจกรรมภายในงานฉลองอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ
และงานกาชาดจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2558
การแสดงแสงเสียงตำนานสงครามปราบฮ่อ
เป็นการแสดงต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 6 ที่ชมรมนาฏศิลป์หนองคาย
นำนักแสดงกว่า 250 คน ทั้งนักแสดงกิตติมศักดิ์
นักเรียน และนักศึกษา จากโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร
โรงเรียนกีฬาจังหวัดหนองคาย วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา โรงเรียนอนุบาลน้ำผึ้งและมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย
,ม้าที่ใช้ในการแสดง
ได้รับการสนับสนุนจากพันโทสงกรานต์ จันทะปัสสา หัวหน้าแผนกสัตวบาล
กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 2 กรมการสัตว์ทหารบก และที่สำคัญการแสดงแสงเสียง “ตำนานสงครามปราบฮ่อ”
ปีนี้ มีนักแสดงกิตติมศักดิ์ ได้แก่ พันตำรวจเอกจักราวุธ จงศิริ
ผกก.ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ,นายวินัย
ลิ้มบุพศิริพร รองผู้อำนวยการโรงเรียนหนองคายวิทยาคาร, นางจิราภรณ์
ชัยมณี นักวิชาการวัฒนธรรม สนง.วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย และนางสาวิตรี คลีล้วน
ผอ.กองการศึกษาเทศบาลตำบลหนองสองห้อง สำหรับผู้
เขียนบท และกำกับการแสดงโดย นายยอดยิ่ง ราชตั้งใจ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย โดยการแสดงจะมีขึ้นในวันที่ 5-13 มี.ค.2558 รวม 8 วัน ระหว่างเวลา 19.00-20.00 น. เว้นวันที่ 9 มีนาคม 2558
การแสดงแสงเสียง “ตำนานสงครามปราบฮ่อ”
เป็น การเล่าถึงเรื่องราวตั้งแต่การเกิดกบฏชาวจีนฮ่อ
สมัยพระนางซูสีไทเฮา กระจัดกระจายจากประเทศจีนไปตามหัวเมืองต่างๆ
ที่ประพฤติตัวเป็นกองโจร มาตีเมืองเชียงขวาง
และทุ่งเชียงคำ เมืองหลวงพระบาง เมืองเวียงจันทน์ และเตรียมยกทัพมาตีเมืองหนองคาย ขณะนั้น เจ้าเมืองหนองคายไม่อยู่
ผู้ที่รักษาเมืองแทนหลบหนีเอาตัวรอด ปล่อยทิ้งไม่ดูแลราษฎร
ทำให้พวกกบฏฮ่อยกกองทัพเข้าเมืองหนองคาย เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงทราบ จึงมีพระบรมราชโองการให้พระยามหาอำมาตย์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปปราบฮ่อที่เมืองอุบลราชธานีอยู่แล้ว
ยกกองทัพเข้าเมืองหนองคาย ปราบพวกฮ่อ จนพวกฮ่อสู้ไม่ได้จึงถอยหนีไป
เพื่อให้การปราบฮ่อเป็นไปอย่างรวดเร็วเด็ดขาด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ “กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม” คุมกองทัพขึ้นไปสมทบกับอาสาสมัครจากเมืองหนองคาย
กองทัพไทยได้เอาปืนใหญ่ยิงเข้าไปในค่ายของพวกฮ่อจนฮ่อแตกหนีไป เมื่อเหตุการณ์สงบเรียบร้อยแล้ว กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
จึงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อขึ้นที่เมืองหนองคาย
เพื่อบรรจุอัฐิทหารที่เสียสละชีพเพื่อชาติ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น