เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 58 ว่าที่พันตรีราวีชัย
พฤทธิ์พหล ปลัดอำเภอท่าบ่อฝ่ายป้องกัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจท่าหนองคาย ,
นรข.เขตหนองคาย , ทหาร , ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 , นายกเทศบาลตำบลกองนาง ,
กำนันตำบลกองนาง , ผู้ใหญ่บ้านกองนาง หมู่ 11 พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง
ลงพื้นที่สำรวจเพื่อเคลียร์ปัญหาข้อพิพาทที่ดินทำกินริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ้านกองนาง
หมู่ 11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เนื้อที่ 12,000 ตารางเมตร
โดยชาวบ้านที่อาสัยทำกินในบริเวณนั้น
ได้เข้าร้องทุกข์ปัญหาข้อพิพาทที่ดินทำกิน ระหว่างชาวบ้านกับผู้ร้องขอสิทธิ์ในที่ดิน
จนไร้ข้อยุติ จึงได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ดำลงธรรมอำเภอท่าบ่อ
ให้ช่วยเจรจา ประนีประนอม การใช้ประโยชน์จากที่ดินริมตลิ่งแม่น้ำโขง ซึ่งมีบริเวณติดกับพื้นที่หลังบ้านของผู้ร้องขอสิทธิ์ในที่ดิน โดยกล่าวอ้างว่ากลุ่มชาวบ้านไม่มีสิทธิ์ทำกิน เพราะชาวบ้านปล่อยให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนริมตลิ่งเข้ามาขโมยทรายในพื้นที่กว่า
4 หมื่นคิว ทำให้ดินทรายสไลม์ บ้านตนได้รับความเสียหายเพราะมีพื้นที่ติดหลังบ้าน ซึ่งหลังการออกสำรวจ
พบชาวบ้านได้ทำการไถแปลงเพื่อทำการเกษตร และยังพบมีการปลูกต้นมะพร้าวเป็นจำนวนมาก ในที่ดินสาธารณะ
ว่าที่พันตรีราวีชัย พฤทธิ์พหล ปลัดอำเภอท่าบ่อฝ่ายป้องกัน
ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ตอนนี้ล่าสุดกรมเจ้าท่าได้ตีความแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ดินสาธารณะ
ในส่วนพื้นที่อยู่นอกข้อพิพาทเนื้อที่ 100X120
เมตร หรือ 12,000 ตารางเมตร ให้เทศบาลตำบลกองนางกำกับดูแลเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
ในส่วนที่เป็นพื้นที่พิพาทต้องไปสอบถามกับตำรวจว่าได้ดำเนินทำคดีถึงไหนแล้ว ส่วนการดำเนินการปีต่อๆ
ไป ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันสำรวจรังวัดพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ดินสาธารณะ
ซึ่งปีนี้ในพื้นที่มีข้อพิพาทเนื้อที่ 100X120 เมตร
ให้หยุดทำการเกษตรไปก่อน ซึ่งจะทำการปรึกษากับนายอำเภออีกครั้ง แต่ส่วนแปลงอื่นๆ นั้นทุกคนมีสิทธิ์ทำกิน
แต่ไม่มีสิทธิ์แสดงตัวเป็นของตนเอง ส่วนในเรื่องแนวเขตก็ต้องปรึกษากันให้มีข้อยุติต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น