วันนี้ (4 ส.ค.58) ที่ห้องสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.4 นายไพทูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา
ผกก.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย แถลงข่าวการจับกุม Mr.Lee
Isaac Byungdo (นายลีโอแซค เบืองโด) อายุ 41 ปี
ชาวเกาหลีใต้ สัญชาติอเมริกัน ข้อหาร่วมกันนำพาช่วยเหลือด้วยประการใดๆ
อันเป็นการอุปการะคนต่างด้าว เพื่อให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม
พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 63
พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ
อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีชาวเกาหลีเหนือจากประเทศลาว
ลักลอบเข้ามาในไทย บริเวณท่าทราย บ้านป่าสัก ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
จึงสืบหาเบาะแสจนทราบว่านายลี เป็นผู้ที่นำชาวเกาหลีเหนือเข้ามาในประเทศไทย
จึงได้รวบรวมหลักฐานขอหมายศาลเข้าจับกุมนายลี เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
ได้ที่บ้านธนพงศ์ ซึ่งเปิดเป็นมูลนิธิสัมผัสใจ เลขที่ 309 หมู่
4 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่
สอบสวนนายลี ให้การว่าเดินทางเข้ามาอยู่ประเทศไทยครั้งแรกในปี
39 หรือประมาณ 19 ปี
โดยเปิดมูลนิธิสัมผัสใจเผยแผ่ศาสนาคริสต์ และตนมีหุ้นส่วนโรงแรมอยู่นครนิวยอร์ก
สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ได้รับการติดต่อจากชาวอเมริกันให้มารับชาวเกาหลีเหนือ 2 คน ที่บ้านป่าสัก
โดยมีนายยู ชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว
เป็นคนประสานและกำหนดจุดนัดพบ เมื่อถึงเวลานัดหมายพบว่ามีชาวเกาหลีเหนือ 7 คน เป็นหญิง 6 คน ชาย 1 คน
จึงรับขึ้นรถทั้งหมดแล้วให้ 5 คน ลงรถที่ไปรษณีย์ศรีเชียงใหม่
ซึ่งอยู่ใกล้กับ สภ.ศรีเชียงใหม่ จากนั้นพาหญิง 2 คน ไปยัง
จ.เชียงใหม่ เพื่อรอการส่งเดินทางต่อไปยังสหรัฐอเมริกา โดยไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย
กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยเส้นทางการเดินทางของชาวเกาหลีเหนือหลบหนีออกนอกประเทศ
เพื่อต้องการไปยังเกาหลีใต้หรือประเทศที่สาม เช่น อเมริกา ส่วนใหญ่จะไปหางานทำที่ประเทศจีน
เพื่อเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เมื่อติดต่อหาคนนำพาได้แล้วก็จะเดินทางเข้าเวียดนาม
แล้วต่อมายัง สปป.ลาว เดินทางข้ามแม่น้ำโขงมายัง จ.หนองคาย จ.นครพนม จ.บึงกาฬ โดยในช่วงเดือน
ม.ค.-เม.ย. ที่ จ.นครพนม มีชาวเกาหลีเหนือลักลอบเข้ามาประมาณ 200 คน จ.หนองคาย เม.ย.-ส.ค. 22 คน
และ จ.บึงกาฬ เดือน พ.ค. 7 คน
ซึ่งทั้งหมดถูกส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจากการสอบสวนใหญ่มีจุดประสงค์การเดินทางไปหาพี่น้องที่ประเทศเกาหลีใต้
และบางส่วนก็ต้องการไปยังประเทศที่สาม ซึ่งหากแต่ละประเทศรับรอง
จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น