วันนี้ (18 ก.พ. 58) นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
พร้อมพันเอกวรากร ทูคำมี รอง ผอ.รมน. จังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดหนองคาย
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายพัฒนธรณ์ กีรติรัฐวัฒน์ นายอำเภอท่าบ่อ นายประพาส
นครภักดี นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ ลงพื้นที่ชุมชนป่างิ้ว เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ เพื่อตรวจดูความเสียหาย
หลังจากเกิดพายุฝนลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกลงมาอย่างหนักเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้
ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูง ริมถนนสายท่าบ่อ – ศรีเชียงใหม่ หักโค่นลงมาขวางถนนและทับบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไปหลายหลังคาเรือน
ซึ่งเทศบาลเมืองท่าบ่อได้มอบถุงยังชีพให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสพภัยเบื้องต้น
จำนวน 50 ชุด
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ลงพื้นที่ตรวจความเสียหายของ
หมู่ 6 บ้านสามขา ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ ซึ่งได้รับความเสียหายจากพายุถล่มเช่นกัน โดยเทศบาลตำบลกองนาง
ได้มอบผ้าห่มแก่ผู้ประสพภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น จำนวน 45 ผืน นายชัยบัญชา
ศรีมงคล นายกเทศมนตรีตำบลกองนาง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างแรง
ประมาณ 10 นาที พัดบ้านเรือนราษฎรใน ต.กองนาง ได้รับความเสียหายหลายหมู่บ้าน
รวมแล้วมีบ้านพังกว่า 80 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านบางหลังถูกลมพัดหอบเอาหลังคาและฝาบ้านหลุดไปทั้งแผง
ปลิวไปตกใส่บ้านหลังอื่นพังไปด้วย
นายสุชาติ นพวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานงานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
เร่งดำเนินการแก้ไขเสาไฟฟ้าที่หักทับบ้านเรือนประชาชนออกโดยเร็ว
และให้ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงต่ำเพื่อให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนการซ่อมไฟฟ้าแรงสูงคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ
1 อาทิตย์ถึงจะซ่อมเสร็จ และยังสั่งการให้ทาง ปภ.จังหวัด ประสานงานร่วมกับทหาร
เข้าช่วยรื้อถอนบ้านที่เสียหาย และเร่งซ่อมแซมให้กับบ้านที่เสียหายทั้งหลัง
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปในเบื้องต้นก่อน
จากการสำรวจได้สรุปความเสียหายในพื้นที่อำเภอท่าบ่อ
มีความเสียหาย 4 ตำบล คือ ตำบลท่าบ่อ, น้ำโมง, กองนาง, นาข่า รวม 8 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย
232 หลังคาเรือน ( รุนแรง 38 ปานกลาง 108 เล็กน้อย 86) และในพื้นที่อำเภอโพธิ์ตาก มีความเสียหาย
2 ตำบล คือ ตำบลโพธิ์ตาก และโพนทอง รวม 9 หมู่ 260 หลังคาเรือน (รุนแรง 3 ปานกลาง
10 เล็กน้อย 247) รวมความเสียหาย 2 อำเภอ 6 ตำบล 17 หมู่บ้าน 492 ครัวเรือน
แยกเป็นรุนแรง 41 ปานกลาง 118 เล็กน้อย 333 หลังคาเรือน
ความรุนแรงของพายุครั้งนี้ ยังทำให้เจดีย์นกยูง อายุกว่า 400
ปี ที่ตั้งประดิษฐานอยู่หน้าวิหารหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ วัดศรีชมภูองค์ตื้อ
หักโค่นลงเสียหายยับเยิน และยังส่งผลกระทบไปยังพืชทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น