วันนี้ (24 ม.ค.58) ที่ห้องสืบสวนกองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ปลัดจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ
สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พ.ต.อ.สามารถ วิสุเวช พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ
สภ.เมืองหนองคาย ร.ต.อลงกรณ์ กล้าหาญ
เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันสอบสวน นายโชติช่วง
คงแก้ว อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/71 ถนนพระยาพิชัยดาบหัก ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
อดีตนายช่างชลประทานชำนาญงาน สำนักงานจัดรูปที่ดิน จ.ลพบุรี
ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดมาตรา 112 หมิ่นเบื้องสูง
สืบเนื่องจาก นายกนกศักดิ์ เมืองแก้ว อายุ 50 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ได้แจ้งความว่า
ได้เข้ามาทำโครงการขุดลอกผักตบชวาในหนองน้ำสาธารณะโดยได้นำเงินสด 6 แสนบาทมาวางประกัน โดยมีบริษัทเคอาร์ (K.R) ที่มีนายโชติช่วง
เป็นที่ปรึกษาโครงการ มูลค่านับหมื่นล้านบาท
และเริ่มทำงานกำจัดผักตบชวาวันแรกก็มาถูกสั่งระงับ ไม่ให้ทำงานต่อ
จึงมาสอบถามข้อมูลกับบริษัทเคอาร์ พบว่ามีพิรุธหลายอย่าง จึงได้ขอพบ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
นายกนกศักดิ์ ระบุว่า นายโชติช่วง อ้างว่า
ผวจ.หนองคาย มีส่วนได้เสียกับโครงการ แถมอ้างว่าเจ้าของบริษัทเคอาร์
เป็นลูกหลานกษัตริย์ของประเทศจีน
มีการลงนามข้อตกลงทำโครงการขุดลอกร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกา
และยังแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ซึ่งนายกนกศักดิ์
ได้บันทึกเสียงการสนทนาไว้เป็นหลักฐาน และนำมามอบให้นายสุชาติ นพวรรณ ผวจ.หนองคาย
พิจารณา จึงได้วางแผนจับกุมนายโชติช่วงได้ในเวลาต่อมา
นายสุชาติ นพวรรณ
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า โครงการนี้ไม่ชอบมาพากลหลายด้าน
มีการกล่าวอ้างถึงที่มาของเงินว่าได้มาจากกองทุนหนึ่งในสหรัฐอเมริกาว่าให้เงินมาช่วยทำการขุดลอกแหล่งน้ำ
แต่จากข้อมูลและเอกสารที่ตนมี บริษัทที่กล่าวอ้างนั้นเป็นเอกสารปลอมแปลงขึ้นมา
อีกทั้งตนได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ซึ่งมีบุคคลไม่ต่ำกว่า 10 คน ทั้งคนในพื้นที่ และคนต่างจังหวัด
รวมถึงชาวต่างชาติ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อบุคคลต้องสงสัยได้ในขณะนี้ หลังจากนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น