สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นำสื่อมวลชน ศึกษาดูงานโครงการ “การพัฒนากระบวนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทย สู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารโลก” ณ บริษัท ไทยซุน ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

     วันนี้ (1 ส.ค. 57) ผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายสมศักดิ์ จันทรวงทอง รอง ผอ. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นำสื่อมวลชน เข้าศึกษาดูงานโครงการ “การพัฒนากระบวนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทย สู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารโลก” ณ บริษัท ไทยซุน ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย พร้อมเยี่ยมชมโรงงาน ชมผลิตภัณฑ์และขั้นตอนการผลิตอาหารกระป๋อง ทั้งนี้ เพื่อยกระดับโรงงานอาหารสู่มาตรฐานรองรับตลาด AEC หวังสร้างความตระหนักเกี่ยวกับมาตรฐานอาหารส่งออก เสริมสร้างศักยภาพระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เกิดความได้เปรียบจากประเทศคู่แข่งอย่างจีนและเวียดนาม มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัย และเกิดความเชื่อมั่นต่อประชาคมอาเซี่ยนและประชาคมโลก โดยอุตสหกรรมอาหารไทย ยังได้มีทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีแนวทางของโครงการ การจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ Water footprint รวมถึงโครงการ Carbon footprint ซึ่งเป็นแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมของโลกอีกด้วย

     นายสมศักดิ์ จันทรวงทอง รอง ผอ. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า การนำสื่อมวลชนมาศึกษาดูงานครั้งนี้ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับทราบทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย แนวทางการจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลาดโลกให้ความสำคัญ เพื่อเสนอข้อมูลขีดความสามารถของผู้ประกอบการในไทย เสนอต่อสาธารณชนและทั่วโลกที่จะเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก อาหารไทยจะถูกส่งออกไปขายยังทั่วโลก

     สำหรับบริษัท ไทยซุน ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอาหารส่งออก ประเภทอาหารกระป๋อง เช่น น้ำมะเขือเทศเข้มข้น ข้าวโพดหวานในน้ำเชื่อม ขนุนอบแห้ง วุ้นมะพร้าว  และว่านหางจระเข้  ซึ่งเน้นผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้แก่ผู้บริโภค พร้อมทั้งมีการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานได้รับรางวัล ระบบบริหารความปลอดภัยของอาหาร ISO 22000 ระบบการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร ในกระบวนการผลิตทั้งหมด GMP ระบบวิเคราะห์จุดอันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร HACC และระบบมาตรฐานการผลิตอาหารตามหลักศาสนาอิสลาม HALAL

     โดยประเทศที่ส่งออกสินค้าเป็นหลัก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมีความสนใจและเชื่อถือในผลิตภัณฑ์มาอย่างยาวนาน ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ส่งออก ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึงประเทศในแถบอาเซี่ยน อีกด้วย.