วันนี้ (27 ก.ค. 57) มี
ความคืบหน้าของการตรวจสอบความเสียหายซึ่งเกิดจากการลักลอบขุดดินและหิน ในที่
ส.ป.ก. นำออกไปขาย โดยเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายประกอบด้วย นายไพฑูรย์ จิตต์สุทธิผล
นายอำเภอศรีเชียงใหม่ พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ นพโพธิพงศ์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นางธานทิพย์ บำรุงรส นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ส.ป.ก. หนองคาย ร้อยตรีสังเวียน
แสงพลู รอง ผบ.ร้อย รักษาความสงบ ที่ 1 กองกำลังรักษาคามสงบจังหวัดหนองคาย
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้เข้าตรวจสอบที่ ส.ป.ก. แปรงเลขที่ 2 กลุ่มที่ 913 เนื่อที่ประมาณ 34-1-37 ไร่ อยู่พื้นที่บ้านห้วยช้างเผือก หมู่ 9 ตำบลพระพุทธบาท
อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย โดยได้เข้าไปสำรวจเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 57 ที่ผ่านมา ซึ่งการดำเนินการไม่มีความคืบหน้า
จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบ มีการขุดดิน
หิน และนำออกนอกแปรงที่ดิน ซึ่ง ส.ป.ก.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน
สภ.ศรีเชียงใหม่ฯ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.57 และได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.57 และ
ส.ป.ก.หนองคาย ได้มีหนังสือ ที่ นค 0011/1033 ลงวันที่ 2
พ.ค. 57 แจ้งเตือนให้ นางวัน กำจ่าย
ซึ่งเป็นผู้ได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก. ให้ดำเนินการแปรงที่ดินกลับสู่สภาพเดิม
ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันได้รับหนังสือ เมื่อเวลาได้ล่วงเลยกำหนดมาแล้ว
นางกำจ่ายฯ ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ
โดยอ้างเหตุว่าไม่สามารถหาผู้รับจ้างมาดำเนินการปรับพื้นที่ได้
และขอขยายเวลาออกไปอีก เนื่องจากช่วง เดือน ก.ค.-ก.ย. นั้นเป็นฤดูฝนไม่สามารถดำเนินการได้
โดยจะเข้าดำเนินการจากเดือน ต.ค.และจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.57 ซึ่ง
ส.ป.ก.จะนำเสนอคณะกรรมการปฎิรูปที่ดินจังหวัดหนองคายเพื่อพิจารณาต่อไป
ด้าน ช่างรังวัดชำนาญการ
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบทางฟิสิกส์ พบว่าตัวอย่างมีลักษณะเป็นหินทราย
ที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็น ซิลิกา
ซึ่งจะแจ้งผลสำรวจไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ เขต 2 อุดรธานี
เพื่อส่งวิศวะกรรมเหมืองแร่เข้าตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดตาม
พ.ร.บ.เหมืองแร่หรือไม่
ส่วน พ.ต.ท.สมคิด ทิพยจักรพงศ์ รองผู้กำกับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบร่องรอยของการขุดดินและหิน
เป็นบ่อลึกและกว้าง ซึ่งน่าจะครบองค์ประกอบของความผิด พ.ร.บ.แร่
เนื่องจากกฎหมายระบุว่าหินทุกชนิดเป็นแร่ แต่ต้องรอผลตรวจของวิศวะกรรมเหมืองแร่
ว่ามีความเห็นอย่างไร
จึงจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาร้องทุกข์เพิ่มเติมกับผู้กระทำผิดต่อไป
ในส่วน นางธานทิพย์ บำรุงรส นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงาน
ส.ป.ก. หนองคาย เปิดเผยว่า เจ้าของที่ขออนุญาติเพื่อปรับพื้นที่ แต่ระเบียบของ
ส.ป.ก.ห้ามนำดินและหิน ออกนอกพื้นที่ ถ้าจะนำออกจากการขุดบ่อร้อยละห้าของพื้นที่
ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการปฎิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย
แต่ต้องจ่ายค่าเสียหายเท่ากับมูลค่าของดินที่นำออก
และเตือนเจ้าของที่ดินให้แปรงสภาพพื้นที่คืนเช่นเดิมภายใน 60 วัน เมื่อเลยกำหนดจึงได้เข้าตรวจดูอีกครั้ง พบว่ายังไม่มีการดำเนินการไดๆ
เลยหากเจ้าของที่ดิน ไม่ดำเนินการทำดินกลับสู่สภาพเดินได้ ส.ป.ก. ก็สั่งให้สิ้นสิทธิ์
ในที่ดินได้ทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น