เวลา 10.30 น. วันนี้ (16 มิ.ย. 57) พล.ต.ต.ชาติชายเอี่ยมแสง ผบก.ตม.4 พล.ต.ต.ชัยญัติ
สายถิ่น ผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยะกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.จว.หนองคาย
พ.ต.ต.บุญเลิศ วิเศษชาติ ผบ.ร้อย ตชด. 245 หนองคาย
พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ตชด.และทหาร ร่วมกันแถลงจับกุมนางจงสวัสดิ์
แสบงบาล อายุ 37 ปี และนายพันธุ์ศักดิ์ เรืองหงษ์ อายุ 48
ปี หลังเข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถไม่มีชื่อ และไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นอู่ของนางจงสวัสดิ์
พบรถยนต์ตู้โตโยต้า และรถยนต์โตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สภาพใหม่
รวมทั้งรถยนต์กระบะ 2 ประตู และ 4 ประตูที่ประกอบเสร็จแล้วรวม
6 คัน และรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ 2ประตู
และ 4 ประตู ที่อยู่ระหว่างการประกอบยังไม่แล้วเสร็จ 6
คัน
จากการสอบสวนนางจงสวัสดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นภรรยาของนายศุภกรซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ
และอยู่ระหว่างการหลบหนี
โดยจะตระเวนหาซื้อซากรถที่เกิดอุบัติเหตุจากทั่วประเทศโดยเฉพาะรถยนต์โตโยต้า ตามออร์เดอร์
เพื่อนำมาซ่อม
พร้อมสวมทะเบียนรถของคนอื่นเพื่อความถูกต้องให้สามารถยื่นเอกสารและขับข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
ไปขายให้กับลูกค้าในนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว โดยทำมาแล้วเกือบ 2 ปี และนำรถไปขายแล้วประมาณ 20 คัน ในราคาคัน 350,000
– 400,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพและปีของรถ
ส่วนนายพันธุ์ศักดิ์
ให้การว่าลูกชายตนมาฝึกทำงานช่างอยู่ในอู่ซ่อมแห่งนี้
และได้รับการประสานจากนายศุภกรเจ้าของอู่ให้นำคู่มือประจำตัวรถของตนมาให้
โดยไม่รู้ว่านำมาทำอะไร จากนั้นได้ว่าจ้างตน 10,000 บาท
ให้ตนขับรถยนต์คันที่สวมทะเบียนเสร็จแล้วไปยังนครหลวงเวียงจันทน์
กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ขณะยื่นเอกสารดังกล่าว
พ.ต.อ.พัลลภ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่าน
ได้ทำการจับกุมรถยนต์ในลักษณะเดียวกันนี้แล้ว 3 ราย
ซึ่งเป็นการสวมทะเบียนหรือเอกสารประจำตัวรถ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ นำรถไปขายใน สปป.ลาว
เมื่อนำรถออกไปได้จะทำการแกะเพลท แผ่นป้ายทะเบียนกลับมา เพื่อมาสวมคันใหม่
ก่อนนำไปขายอีก
ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามลักลอบนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร
โดยสำแดงข้อมูลรถยนต์อันเป็นเท็จตาม พรบ.ศุลกากร ม.27และแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานในประการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือ
ประชาชนและปลอบและใช้เอกสารปลอม
พร้อมตรวจยึดรถทั้งหมดและอุปกรณ์รถทั้งหมดไว้ตรวจสอบและจะได้ติดตามตัวนายศุภกรแสบงบาลเจ้ของอู่ซ่อมรถมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น