วันนี้ ( 8 พ.ค. 57 ) เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในหลายๆ
พื้นที่ ของอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เริ่มลงมือหว่านไถ ปักดำ หลังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้นาข้าวได้ผลผลิตตามฤดูกาล แต่ในขณะเดียวกันในช่วงนี้มีการแข่งขันจ้างแรงงานปักดำนา
ทำให้ค่าจ้างแรงงานแพงตั้งแต่ต้นฤดู ตกวันละประมาณ 300-350
บาท และหาแรงงานยาก ทำให้ชาวนาปรับรูปแบบการทำนาโดยการลงทุนซื้อเครื่องจักรปักดำ
เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการจ้างแรงงานปักดำ
นายชาญชัย เหลาพรหม อายุ 49 ปี เกษตรกรบ้านป่าสักใต้ หมู่ 4 ตำบลกองนาง อำเภอท่าบ่อ
จังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ปีนี้ตนต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรปักดำ ในราคา 180,000
บาท ผ่อนส่งปีละ 50,000 บาท เพื่อลดต้นทุนไม่ต้องเสียค่าจ้างแรงงานแพง
ตกอยู่ 300 บาท/วัน/คน ตนมีผืนนาอยู่ 10 ไร่ โดยต้องใช้คนดำนาถึง 40 คน/วัน รวมค่าแรงแล้วตก
12,000 บาท/วัน ซึ่งเป็นการลงทุนที่สูงมาก และหาแรงงานยากมาก
แรงงานบางคนโก่งราคาถึง 350 บาท เทียบกับเครื่องปักดำแล้วประหยัดค่าแรงถึง 3
เท่าตัว ตกวันละ 200 บาท เป็นค่าน้ำมัน ทั้งประหยัดเวลา ไม่ต้องปักดำ
และลดต้นทุนไม่ต้องเสียค่าจ้างแรงงานแพง และได้ผลผลิตใกล้เคียงกับนาแบบเดิมๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ซึ่งการทำนาปีต้องแบกภาระต้นทุนสูง เนื่องจากทั้งค่าใช้จ่ายน้ำมันแพง และค่าจ้างแรงงาน
ค่าปุ๋ย ค่าแรงงาน แถมประสบปัญหาภัยธรรมชาติเสี่ยงกับน้ำท่วมเนื่องจากอยู่ในพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ
ทำให้ผลผลิตการเกษตรนาข้าว ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร บางรายประสบปัญหาขาดทุนหนัก
นายชาญชัย เหลาพรหม ยังเปิดเผยอีกว่า ตนได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีได้
7 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงิน
ทำให้ต้องแบกรับภาระหนี้สินและเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพราะรอเงินรับจำนำข้าวจาก
ธ.ก.ส. มาใช้หนี้และใช้จ่ายในครอบครัว โชคดีที่ยังได้เงินจากการขายข้าวนาปรังได้
หักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือเงินอยู่ประมาณ 40,000 บาท ซึ่งก็พอทำให้มีเงินลงทุนทำข้าวนาปีในฤดูกาลนี้ได้
จึงอยากจะให้รัฐบาลได้พิจารณายกเลิกโครงการรับจำนำข้าว
มาเป็นโครงการประกันราคาข้าวอย่างเดิม
เพราะจะทำให้เกษตรกรมีความเชื่อมั่นในการลงทุน เป็นการประกันว่าชาวนาจะขายข้าวได้ทุกปี
ถึงแม่ราคาจะตำกว่าในปัจจุบัน แต่ก็ยังดีที่ยังไม่ได้เงิน ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากกว่า
และราคาข้าวจะเป็นไปตามกลไกตลาดไม่มีการบิดเบือน และปัญหาทุจริตคอรัปชันจากเจ้าหน้าที่รัฐก็มีน้อยมาก
และเงินสู่มือชาวนาโดยตรง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น