วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บรรยากาศรับสมัคร ส.ส. แบ่งเขตวันแรกที่หนองคาย ไม่คึกคักเท่าที่ควร พรรคเพื่อไทยสับเปลี่ยนขุมกำลังลงสมัคร ส.ส. หนองคาย ขณะที่ กตต. จังหวัด ตั้งเป้าใช้สิทธิ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 %


     เมื่อเวลา 08.30 วันนี้ (28 ธ.ค. 56)  ที่บริเวณหอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย สถานที่รับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง บรรยากาศการรับสมัครไม่คึกคักเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขตมาสมัคร ประกอบด้วย ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ลงสมัครเขตเลือกตั้งที่ 1, นางชมภู จันทาทอง ลงสมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 และ นายเอกธนัช อินทร์รอด ลงสมัครเขตเลือกตั้งที่ 3 โดยพร้อมกันมายื่นเอกสารรับสมัครรับเลือกตั้งเป็นชุดแรก มีกองเชียร์ของแต่ละเขตเดินทางมาถือป้ายให้กำลังใจผู้สมัครและส่งเสียงเชียร์ ซึ่งยังไม่มีผู้สมัครของพรรคอื่นเดินทางมาสมัครแต่อย่างใด และไม่มีมวลชนเข้ามาขัดขวางของการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในครั้งนี้


     หลังจากยื่นใบสมัคร ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน ได้ออกมารับพวงมาลัย ก่อนเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมืองและตั้งขบวนแห่รอบเมือง โดยทาง กกต. จังหวัดหนองคาย ได้เตรียมความพร้อมไว้ในทุกๆ ด้าน และมีเจ้าหน้าตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวก และรักษาความสงบเรียบร้อย
     สำหรับจังหวัดหนองคาย แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต มี ส.ส.ได้ 3 คน จำนวนมีสิทธิ์เลือกตั้ง 509,395 คน คาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 %


บ้านดนตรีคีตศิลป์ อำเภอท่าบ่อ ร่วมกับห้างเทศโกโลตัส จัดมินิคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ นำศิลปินน้องๆหนูๆ และระดับเยาวชน มอบความสุขให้กับสังคม


     เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (28 ธ.ค. 56) โรงเรียนสอนดนตรี บ้านดนตรีคีตศิลป์ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ร่วมกับห้างสรรพสินค้าเทศโก้โลตัส สาขาท่าบ่อ จัดการแสดงมินิคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2557 และเปิดโอกาสให้เด็กๆร่วมวาดภาพระบายสี โดยครูแดง ครูสอนศิลปะระดับชาติ ร่วมสอนเทคนิคการวาดภาพระบายสีครั้งนี้ โดยมีนางนฤมล มีพิษ ผู้จัดการเทศโก้โลตัส สาขาท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีเปิด



     ซึ่งบ้านดนตรีคีตศิลป์ ได้นำศิลปินนักร้องนักแสดงระดับเด็กและเยาวชน ขึ้นเวทีแสดงความสามารถทางด้านดนตรีและการแสดงให้กับผู้เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม เพื่อมอบความสุข ความรัก ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และยังเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกถึงความสามารถด้านดนตรีและศิลปะการวาดภาพระบายสีอีกด้วย 

   


กองลูกเสือ - เนตรนารี โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรม ประจำปีการศึกษา 2556


     เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 56 นายทศพร ใจขาน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ในฐานะผู้อำนวยการกองลูกเสือ - เนตรนารี ประธานในพิธีเปิดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรม ของลูกเสือ - เนตรนารี โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ ประจำปีการศึกษา 2556 และให้โอวาทแก่ทุกคนให้มีระเบียบวินัย อดทน เสียสละ โดยได้แบ่งกิจกรรมการเดินทางไกลออกเป็น 2 เส้นทาง ในระดับชั้น ป.1-ป.3 เข้าฐานบำเพ็ญประโยชน์ที่เขื่อนห้วยโมง ส่วน ป.4-ป.6 เข้าฐานบำเพ็ญประโยชน์ที่ศูนย์สูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้า ได้กำหนดฐานทดสอบ 10 ฐาน


     จากนั้น เวลา 19.00 น. ที่ลานเอนกประสงค์หน้าเสาธง โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ ได้จัดให้มีกิจกรรมการชุมนุมรอบกองไฟของลูกเสือ เนตรนารี โดยมีนายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีเปิดการชุมนุมรอบกองไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือ เนตรนารี ประจำปีการศึกษา 2556 เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้ฝึกการใช้ชีวิตร่วมกันแบบชาวค่าย การปฏิบัติตนตามระเบียบวินัยของลูกเสือ เนตรนารี กล้าคิดกล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักการสังเกต จดจำ แก้ไขปัญหา และมีความสามัคคีกันในหมู่คณะ รู้จักการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอีกด้วย



     โดยเด็กนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมชุมนุม ได้มีการเตรียมการแสดงมาสร้างความบันเทิงสนุกสนาน และยังเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้าร่วมชมกิจกรรมแบบเป็นกันเองอีกด้วย ซึ่งมีลูกเสือ – เนตรนารี ร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 876 คน มีผู้บังคับกองลูกเสือ 41 คน

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตำรวจท่าบ่อ ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย สนธิกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่

     เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (27 ธ.ค. 56) พ.ต.ท. ทันสมัย พรหมสิทธิ์ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นประธานปล่อยแถวตำรวจของสถานีตำรวจภูธรท่าบ่อ ตำรวจอาสา อปพร. และเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยในพื้นที่ กว่า 100 นาย ในการสนธิกำลังระดมกวาดล้างอาชญากรรมและสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รับเทศกาลปีใหม่ 2557 ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 56 – 2 ม.ค. 57


     ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายและอาชญากรรม ที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ เน้นการป้องกันปราบปรามในคดีอุกฉกรรจ์ อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด มือปืนรับจ้าง และกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รวมถึงคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน คดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์และรถยนต์ สถานบริการผิดกฎหมาย แหล่งอบายมุขประเภทบ่อนการพนันและเครื่องจักรกลไฟฟ้า คดีค้างเก่าตามหมายจับที่สำคัญ  รวมถึงการระดมกวาดล้างคดียาเสพติด เน้นเป้าหมายที่เป็นแหล่งผลิต แหล่งพักยาเพื่อจำหน่าย สถานบริการที่ล่อแหลมและแหล่งมั่วสุมเด็กและเยาวชน ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญและรายย่อย รวมทั้งเครือข่ายที่ขึ้นบัญชีไว้ หมายจับคดียาเสพติดค้างเก่า ให้เป็นไปตามมาตรการจัดระเบียบสังคมอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยแก่สังคมและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย จัดโครงการไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด ที่มีอายุกว่า 500 ปี เสริมสิริมงคลรับปีใหม่ 2557


     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. 56 ที่วัดท่าคกเรือ เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ นายอนุรัฐ ไทยตรง นายอำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เป็นประธานเปิดโครงการไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด ของอำเภอท่าบ่อ ประจำปี 2556 โดยมีส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมโครงการดังกล่าวจำนวนมาก


     ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้มีโอกาสเข้าไปสักการบูชาพระประธานในอุโบสถของวัดสำคัญต่างๆ เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ส่งท้ายปีเก่า 2556 ต้อนรับปีใหม่ 2557 และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความสามัคคีปรองดองของประชาชนชาวอำเภอท่าบ่ออีกด้วย


     สำหรับการไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด ประกอบด้วย หลวงพ่อทองแสน วัดท่าคกเรือ เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ, หลวงพ่อแสนห้า วัดกุมภพระประดิษฐ์ ต.โพนสา, พระพุทธมงคลชัย วัดเทพมงคล ต.โพนสา, หลวงพ่อใหญ่ วัดกัสสปมทุโรม(วัดหนองกก) ต.บ้านถ่อน, หลวงพ่อองค์แสน วัดเจติยาราม ต.บ้านว่าน, หลวงพ่อใหญ่ วัดศรีสะอาด ต.โคกคอน, หลวงพ่ออินทร์แปลง วัดจำปาทอง ต.กองนาง, หลวงพ่อแสง วัดพระยืน ต.กองนาง และหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ วัดศรีชมพูองค์ตื้อ ต.น้ำโม


     ทั้งนี้ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 องค์ ล้วนเป็นพระพุทธรูปที่มีอายุมากกว่า 500 ปี.


อบต.หนองนาง เข้าศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือนดินกำจัดขยะอินทรีย์ และสวนเกษตรพอเพียง ตามแนวพระราชดำรอพ่อหลวง ณ เทศบาลตำบลโพนสา


     นายศราวุฒิ แข็งแรง นายก อบต. หนองนาง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรกร และ อสม.ตำบลหนองนาง จำนวน 30 คน เข้าศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือนดินกำจัดขยะอินทรีย์ เพื่อผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน เทศบาลตำบลโพนสา และเยี่ยมชมสวนเกษตรพอเพียง ตามแนวพระราชดำรอพ่อหลวง ซึ่งเป็นแปลงสาธิตศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ประจำตำบลโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

     ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนาง มีแผนงานที่จะให้ตำบลหนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และโอกาสนี้จึงได้เข้าศึกษาดูงานของศูนย์ดังกล่าว ของเทศบาลตำบลโพนสา โดยจะได้นำเอาเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยชีวภาพโดยไส้เดือนดินไปขยายผล เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีความรู้ นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่ต่อไป

เกษตรกรที่ริมโขงได้รับความเดือดร้อนหลังน้ำโขงเพิ่มระดับ ท่วมพืชผักเสียหาย


     ชาวบ้านในพื้นที่ บ้านหัวทราย ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ต่างได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก หลังจากที่ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา แม่น้ำโขงได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลทำให้แปลงผักของชาวบ้านที่ปลูกอยู่ริมตะลิ่งและบนชายหาดแม่น้ำโขงเสียหาย

     โดยเกษตรกรบอกว่า ต่างตกใจเมื่อออกมาดูแปลงผัก เมื่อน้ำโขงเพิ่มสูงอยู่ที่ระดับประมาณ 2 เมตร ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงใกล้สู่หน้าแล้ง และระดับน้ำโขงก็ลดลงรวดเร็วต่อเนื่อง ทำให้แปลงผักคะน้า  ฟักทอง กะหล่ำปลี มันแกว มันหัวแดง ถั่วริสง ข้าวสาลี และพืชผักชนิดอื่นๆ อีกจำนวนมากเสียหาย และเป็นปัญหาต่อการขาดทุนตามมา.

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

น้ำในแม่น้ำโขงสูงนอกฤดูกาลและลดลงอย่างลวดเร็ว มีสีขุ่นแดง ทำให้ปลากระชังเหน่าตาย กระทบผู้เลี้ยงปลากระชังนับล้านบาท


     วันนี้ (23 ธ.ค. 56) ผู้เลี้ยงปลากระชังตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ต้องเร่งนำปลาที่เลี้ยงไว้ที่กระชังขึ้นมาทำเป็นปลาหล้า หลังเมื่อ 5 วันก่อนระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นและลดลงอย่างลวดเร็ว จนทำให้แม่น้ำโขงมีสีขุ่นแดง ได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพการประมงของผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เนื่องจากปลาที่เลี้ยงไว้ขาดออกซิเจนจนทำให้ตายลง 60 – 100 % ได้รับความเสียหายนับกว่าหนึ่งล้านบาท และต้องประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนัก



     ผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 และ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำโขงได้ขึ้นอย่างรวดเร็ว สูง 2.00 เมตรกว่า จนทำให้น้ำขุนและทำให้มีเชื้อโรคมากับน้ำ จำพวกแบ๊คทีเลีย  เชื้อรา สารพิศต่างๆที่ตกค้างตามหน้าดินไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้ปลาได้รับผลกระทบและมีเชื้อต่างๆ มาเกาะตามครีบ ตามเงือกของปลา ทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก ประมาณ 60 % บางรายปลาตายทั้งกระชัง 100 % ถึงกับหมดตัว ซึ่งปลากำลังตัวใหญ่และกำลังเหมาะที่จะออกสู่ตลาด พอมาเจอกระแสน้ำที่สูงขึ้นและลดลงอย่างลวดเร็ว และมีกระแสน้ำที่ไหลแรงขึ้น มีสีออกขุ่นแดง จนทำให้ปลาช็อกตายหมดทั้งกระชังและตัวปลาก็ลอยเหน่าขึ้นมาตายเลื่อยๆ ส่งออกสู่ตลาดไม่ได้ต้องทำเป็นปลาหล้าอย่างเดียว และจำเป็นต้องขายให้ชาวบ้านในราคาถูก ขาดทุนและเสียหายกว่าหนึ่งล้านบาท. 


วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ จัดขบวนพาเหรดกีฬาสีภายในโรงเรียน ประจำปี 2556 มีนักเรียนกว่า 900 คน รวมพลังแสดงออกถึงความจงรักภักดี รักษา เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

     
     เช้าวันนี้ (20 ธ.ค. 56) โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้จัดขบวนพาเหรดเทิดพระเกียรติเชิดชูสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการรวมพลังของนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล – ชั้นประถมปีที่ 6 จำนวน 978 คน ออกมาร่วมเดินรณรงค์ให้คนไทยรักในสถาบัน ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจคนไทยทั้งชาติ โดยภายในขบวนมีการนำขบวนโดยธงชาติไทยและธงธรรมจักร ที่แสดงถึงพระพุทธศาสนา ต่อด้วยขบวนบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขบวนนักกีฬากลุ่มสีต่างๆ แห่ไปตามถนนสายสำคัญในเขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ และสิ้นสุด ณ ลานกีฬาโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ รวมระยะทาง 1 กิโลเมตร โดยมีนายทศพร ใจขาน ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ เป็นประธานในพิธีเปิดกีฬาสีภายในโรงเรียน ประจำปี 2556 และมีผู้ปกครองเข้าร่วมชมและเชียร์ลูกหลานของตัวเองจำนวนมาก

     โรงเรียนอนุบาลดารณีท่าบ่อ ได้จัดกิจกรรมกีฬาสีภายในโรงเรียน ประจำปี 2556  มีวัตถุสงค์ เพื่อให้นักกีฬาทุกคน ทุกระดับชั้น ได้ทดสอบสมรรถภาพของตนเองว่ามีความสามารถมากน้อยเพียงใด เพื่อให้นักกีฬา กองเชียร์ทุกคน ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาทุกประเภท ตามความสามารถ ความถนัดของแต่ละคน เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสีของนักกีฬาทุกระดับชั้น เพื่อให้นักกีฬาได้รับความสนุกสนาน ฝึกฝนความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย



     โดยได้แบ่งนักกีฬาออกเป็น 4 คณะสี ได้แก่ สีแสด สีเขียว สีแดง และสีฟ้า มีประเภทกีฬาที่ทำการแข่งขัน 10 ประเภท ได้แก่ ชักเย่อ, วอลเล่ย์บอลน้ำ, อันเดอร์บอลวง, ปิดตาตีปี๊บ, แข่งเรือบก, วิ่งเปี้ยว, ตะกร้อวง, วิ่งผลัดซุปเปอร์แมน, ตีกอล์ฟ และเป่าลูกโป่ง.